Lamborghini เผชิญข้อถกเถียงอย่างหนักของการพัฒนาปลั๊กอินไฮบริดให้ Urus
Lamborghini ค่ายรถซุปเปอร์คาร์จากอิตาลีกำลังเผชิญปัญหาในการพัฒนาเครื่องยนต์พลังงานทางเลือกของ Lamborghini Urus รถสปอร์ตเอสยูวีที่คนทั้งโลกจับตามองในเวลานี้
แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่า Lamborghini Urus จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตรเทอร์โบคู่ แทนเครื่องยนต์ V10 หรือ V12 ที่ใช้ในซุปเปอร์คาร์รุ่นอื่นๆ ในเครือลัมโบร์กินีจนเป็นกระแสว่าอาจเป็นการฉีกภาพลักษณ์ดั้งเดิมของค่ายกระทิงดุ
แต่ทว่าทาง Maurizio Reggiani หัวหน้าฝ่ายพัฒนาได้เผยข้อมูลกับทางสื่อยานยนต์ว่าจากต่างประเทศว่า "จะมีแผนการพัฒนาระบบปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มด้วย เนื่องจากในเวลานี้กระแสรถปลั๊กอินไฮบริดกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก แถมยังต้องกำหนดให้รถรุ่นนี้ปล่อยไอเสีย Co2 ต่ำกว่า 100 กรัม/กม. แต่..."
"ปัญหาสำคัญที่สุดก็คือ ต้องพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีสมรรถนะที่สูง แต่ต้องแลกกับขนาดที่ใหญ่มากถึง 200 กิโลกรัม ส่งผลต่อการกระจายน้ำหนักตัวรถและมีผลต่อพื้นที่สัมภาระท้ายรถด้วย หากต้องพัฒนาจริง อาจต้องหาวัสดุตัวถังหรือภายในมาทดแทนเพื่อลดน้ำหนัก เช่นคาร์บอนไฟเบอร์ไททาเนียมและแมกนีเซียม"
"นี่มันไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้อง!" Stephan Winkelmann ซีอีโอของลัมโบร์กินีได้โต้แย้งว่า "หากต้องพัฒนารถเอสยูวีไฮบริดที่ให้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกล 50 กิโลเมตร แต่คุณจะต้องรักษาความสมดุลระหว่างขุมพลัง-น้ำหนัก หากสำเร็จจริงค่าตัวของรถก็สูงถึงล้านปอนด์เลยทีเดียว อย่าลืมว่ามันไม่ใช่รถเอสยูวีแบบตลาดใหญ่ที่จะให้อยู่ยืนนานเจ็ดแปดปี แต่กระแสจะลงหลังจากผ่านไปสองปี" การพัฒนาซุปเปอร์เอสยูวีในครั้งนี้ถ้าจะอีกยาวไกลเลยทีเดียว