แอนเตอร์ เสาวลักษณ์ ไทรฟัก แข่งรถสายดีเซล ที่ฝากผลงานไว้ในสนามแดร็คหลายครั้ง กับรุ่น F55 ที่คุ้นหน้าคุ้นตา และยังเป็นพิธีกรสาวสวยมากความสามารถ ที่มีไลฟสไตล์ชอบแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ แต่ในชีวิตจริงแอนเตอร์เองก็จะใช้รถกระบะทั่วไปก็คือรุ่น Isuzu D-Max ที่ใช้ขับทำธุระทั่วไป แต่ปัญหาก็คือ หลังจากซ้อมแข่งกลับมาแล้ว ก็แทบไม่เหลือเวลาไปดูแลรถกระบะที่ใช้ประจำวันสักเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นปัญหาที่ใครหลายๆ คนพบเจอ นั่นก็คือใช้รถจนลืมดูแลรถของตนเองไปบ้างนั่นเอง
เรื่องปกติที่แอนเตอร์และชาวดีเซลท่านอื่นๆ ประสบอยู่นั่น นั่นก็คือ ไม่ว่าเครื่องดีเซลจะกำลังแรงมากน้อยสักเท่าไหร่ ก็มีการก่อเขม่าเป็นธรรมชาติของการเผาไหม้เชื้อเพลิงชนิดนี้อยู่แล้ว ซึ่งเขม่าพวกนี้มีขนาดเล็กมาก จนสามารถเล็ดลอดจาก EGR ไปยังส่วนอื่นๆทั่วเครื่องยนต์ตามที่น้ำมันหล่อลื่นพาไป ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานๆ เขม่าพวกนี้ก็จะสะสมแล้วติดอยู่ในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ พอกพูนขึ้นหนา เปรียบเหมือนมะเร็งของรถยนต์ มันจะดีแค่ไหน หากมีตัวช่วยที่คอยกำจัดมะเร็งนี้ออกจากรถที่คุณรัก
และแล้วก็มีเพื่อนแนะนำแอนเตอร์ให้รู้จักกับน้ำมันเครื่องตัวหนึ่งนั่นก็คือ Dynamic Commonrail จาก PTT Lubricants เป็นน้ำมันเครื่องดีเซลที่มี Clean and Lock Technology ที่เขาว่ากันว่าช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก คราบเขม่าที่ติดกับเครื่องยนต์ และยังป้องกันคราบจับติด ไม่ให้กลับไปเกาะติดเครื่องยนต์อีกครั้ง เหมือนเป็นการกำจัดมะเร็งร้ายที่อยู่ในเครื่องยนต์ของคุณเลยทีเดียว เมื่อรถของแอนเตอร์เองถึงคราวเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน แอนเตอร์เลยอยากลองทดสอบจริง เพื่อดูผลลัพธ์กันไปเลยว่าเป็นไปตามคุณสมบัติที่กล่าวมาหรือเปล่า โดยเปิดฝาวาล์วโชว์คราบเขม่าแบบก่อนใช้น้ำมันเครื่องนี้ จากนั้นก็เติมน้ำมันเครื่องดังกล่าวเข้าไปและใช้งานไปกว่า 1,000 กม. เป็นเวลาหลายวัน หลังจากนั้นค่อยมาเปิดเครื่องพิสูจน์ด้วยตาตัวเองให้เห็นชัดเจนกันไปเลย
การทดสอบใช้งานผ่านไปหลายวันต่อมา แอนเตอร์ก็รู้สึกถึงความลื่นของน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนใหม่ แต่ไม่ใช่แค่ความรู้สึก เพราะเห็นภาพชัดเจนจากการเปิดฝาครอบวาล์วโชว์ ทำให้เห็นว่าคราบเขม่าบนฝาวาว์ลลดลงมาก เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เคยเปิดดู และก็เห็นว่าสีของน้ำมันเป็นสีคล้ำ แต่ไม่ต้องตกใจและคิดว่าน้ำมันเสื่อมสภาพ เพราะจริงๆแล้วเกิดจากการที่น้ำมันเครื่อง Dynamic Commonrail นี้ เข้าไปช่วยชะล้างเขม่าต่างๆ ให้ไหลตามน้ำมันเครื่องออกมา และเวลาถ่ายครั้งต่อไปก็แทบจะไม่เหลือเขม่า หรือคราบดำกลับไปเกาะติดซ้ำสอง เมื่อเห็นเขม่าถูกล้างออกมาลงกับน้ำมันเครื่องแบบนี้ ก็ค่อยเชื่อสนิทใจมากขึ้นว่าเห็นผลจริง และที่ประทับใจอีกอย่างก็คือสภาพความหนืดของน้ำมันที่ดูแล้วยังอยู่ในสภาพปกติ แสดงให้เห็นว่าน้ำมันมีสีที่คล้ำขึ้น ไม่ได้ส่งผลต่อความหนืดของน้ำมันและไม่พบคราบโคลนน้ำมันที่จับตัวเป็นก้อนแต่อย่างใด สมกับที่ทาง PTT Lubricants ใส่ Clean and Lock Technology เอาไว้
น้ำมันเครื่อง Dynamic Commonrail จาก PTT Lubricants ใช้ได้ทั้งเครื่องดีเซลคอมมอนเรลที่ติดตั้งเทอร์โบ และติดระบบ EGR โดยมีเกรดความหนืด SAE 10W-30 หรือ 15W-40 ในมาตรฐาน API CI-4 หรือพูดง่ายๆ คือ รถดีเซลยุคปัจจุบันสามารถใช้งานได้หมด อีกทั้งน้ำมันยังทนต่อความร้อนได้ดี จึงป้องกันการเกิดโคลนน้ำมัน อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดตันของกรองน้ำมันเครื่อง และส่งผลระยะยาวให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ด้วย ให้ทำงานได้เต็มสมรรถนะทั้ง อัตราเร่งและการตอบสนอง ปกป้องเครื่องยนต์จากการทำงานหนัก ทนต่อความร้อนได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน
สุดท้ายนี้แอนเตอร์ก็อยากฝากถึงใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถมากนัก ว่าถึงแม้จะไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็ควรใส่ใจดูแลรถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในระยะ 5,000-7,000 กม. แต่ถ้าได้ตัวช่วยที่จะมาดูแลเครื่องยนต์ แอนเตอร์ก็แนะนำ น้ำมันเครื่อง Dynamic Commonrail จาก PTT Lubricants ที่จะคอยดูแลเครื่องยนต์แทนคุณ เพราะถ้าเครื่องยนต์สะอาด รถของคุณก็จะยิ่งคงประสิทธิภาพได้สูงสุด แถมยังหาซื้อได้ตามสะดวกทุกที่ทั่วไทย นับเป็นความมั่นใจที่นักแข่งไว้วางใจ และสำหรับทุกคนที่ใช้เครื่องดีเซล ให้สามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างหายห่วง
