ทำความรู้จักกับ ช่างเบิร์ดหลัก5

     นาทีนี้แวดวงรถกระบะดีเซลทั่วโลก คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก และคงจะไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า เบิร์ดหลัก5 อีกแล้ว ช่างเบิร์ด มีชื่อจริงว่า นายศุภโชค ลี้เลิศพันธ์ชัย เป็นผู้ก่อตั้ง ทีมชบา&ช่างเบิร์ด และยังเป็นผู้ครองตำแหน่ง รถ Diesel ที่แรงที่สุดในโลก ด้วยสถิติ Quarter Mile (แข่งทางตรง 402 เมตร) ด้วยเวลา 7.831 วินาที กับเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4JK1 ของ Isuzu D-Max 4 สูบ ความจุ 3,000cc เรียกได้ว่าฝรั่งยังอาย โดยเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ 2556 ทีมผู้จัดรายการ NHRDA Diesel Drag Race Series ซึ่งเป็นรายการแข่งรถ Drag Racing เครื่องยนต์ Diesel ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทาบทามเชิญช่างเบิร์ดหลักห้า นำทีมงานกว่า 10 ชีวิตนำรถข้ามน้ำข้ามทะเลไปวิ่งโชว์ตัวที่งานแข่งรายการ NHRDA 2013 World Final Ennis Texas ที่สนาม Texas Motorplex เนื่องมาจากผู้จัดได้ไปพบเห็นคลิปรถของช่างเบริ์ดในการแข่งขัน แดร็ก ดีเซล ในประเทศไทยจาก Youtube แล้วเกิดความสนใจขึ้น เนื่องจาก รถยนต์ที่ทำการแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ล้วนแล้วแต่ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบความจุขนาด 6,000cc ขึ้นไปทั้งนั้น โดยในวันที่ไปโชว์ตัวนั้น ก็เกิดปัญหาในเรื่องของเครื่องยนต์เพราะว่าน้ำมันดีเซลที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีค่าซีเทนที่ตำกว่าค่าซีเทนของประเทศไทย ทำให้ระบบจุดระเบิดพัง แถมยังมีปัญหาเรื่องครัช ที่เอาไม่อยู่ ก็ต้องทำการยกเครื่อง อีซูซุ ดีแม็กซ์ ซ่อมกันยกใหญ่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่วันโชว์ตัวนั้น ก็ไม่ได้ทำให้คนไทยผิดหวังทำเวลาไป 8.227 วินาที ด้วยความเร็ว 264.56 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งหากเข้าทำการแข่งขันในวันนั้น ช่างเบิร์ดก็จะทำเวลาได้อันดับที่ 2 จากรถทั้งหมดที่เข้าทำการแข่งขัน

     ซึ่งปีนี้ ทางผู้จัดรายการได้ทำการเชิญช่างเบิร์ดหลัก5 เข้าทำการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ทีมแข่งรถเครื่องยนต์ ดีเซล ของไทยที่จะได้เข้าร่วมทำการแข่งขันที่สนามแข่งระดับโลก โดยใช้ชื่อทีมว่า Thailand Drag Diesel 

     ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี พูดจานอบน้อม ประกอบกับประสบการณ์ และผลงานอันโดดเด่น ในเรื่องของเครื่องยนต์ดีเซล ไม่แปลกเลยที่ช่างเบิร์ดจะเข้าไปอยู่ในใจของใครอีกหลายๆ คน เอาหล่ะครับทีนี้มาลองทำความรู้จักกับช่างเบิร์ดให้มากยิ่งขึ้นนะครับ

 ช่างเบิร์ดหลัก5

ประวัติความเป็นมาก่อนจะมาเป็น เบิร์ดหลักห้า อย่างทุกวันนี้

ช่างเบิร์ด ​: เริ่มต้นเมื่อก่อนเราก็เป็นร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ครับ ขั้นแรกก็ซ่อมแต่รถสแตนดาร์ด แต่ด้วยความที่รถมอเตอร์ไซค์นั้นมันอันตราย ก็เลยโดนคุณพ่อกับคุณแม่ว่า หลังจากนั้นก็เลยเปลี่ยนมาเป็นซ่อมรถยนต์ แต่งรถยนต์แทน แล้วก็ด้วยความที่เราเล่นมอเตอร์ไซค์เราก็รักความแรงอยู่แล้วครับ พอมาเล่นรถยนต์ความรักความแรกก็ยังไม่เปลี่ยน ก็เริ่มปรับแต่งรถยนต์ให้มันมีความแรงมากยิ่งขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น และค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ เริ่มวิ่งสนาม จนมาถึงทุกวันนี้ครับที่วิ่งได้อันดับหนึ่งของประเทศไทยและของโลก จนถึงวันนี้ก็เริ่มทำมาประมาณ 10 ปีแล้วครับ

เริ่มแรกที่นำรถเข้าไปทำการแข่งขันย้อนไปเป็นเวลากี่ปี

ช่างเบิร์ด ​: ครั้งแรกที่เริ่มทำการแข่งขันนั้น ก็ต้องนับย้อนไปประมาณ 8 ปีเห็นจะได้ โดยที่ครั้งแรกที่เข้าทำการแข่งขัน Drag Racing  นั้นรถทำเวลาได้ประมาณ 15 วินาทีกว่าๆ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปีก็เริ่มมีลูกค้าเค้ามาติดต่อขอให้ทำรถลงแข่งบ้าง หลายต่อหลายคน

ทำไมถึงชอบเครื่องยนต์ดีเซล

ช่างเบิร์ด ​: ผมคิดว่าเครื่องยนต์ดีเซลมันมีอะไรที่น่าค้นหาครับ เพราะว่าอย่างเครื่องยนต์เบนซินที่มันวิ่งได้พราะว่ามีของเล่นจากญี่ปุ่นเยอะ ญี่ปุ่นใส่อะไรแรง คนไทยใส่ตามมันก็แรงได้แล้ว อย่างเครื่องยนต์ดีเซล มันไม่มีที่ไหนในโลกเค้าเล่นกันครับ จะมีก็ที่อเมริกา ซึ่งที่ปีที่แล้ว พ.ศ.2556 ที่เราไปวิ่ง ส่วนมากเค้าจะเล่นกันแต่เครื่องยนต์ BigBlock กับเครื่องยนต์ CC สูงๆ ตลอด ก็จะมีแต่เราเนี่ยแหล่ะครับ จะใช้เครื่องยนต์รหัส 4JK1 ของ Isuzu D-Max บล๊อกเล็กแค่ 3000cc ไม่เกิน โดยที่เครื่องยนต์ดีเซลนี้ มันมีอะไรให้เราพัฒนาเยอะและมันก็ตรงกลุ่มเป้าลูกค้าด้วย เพราะว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ที่ใช้งานในบ้านเราอยู่ทุกวันนี้ก็มีขนาดไม่เกิน 3000cc 

ผลงานล่าสุด

ช่างเบิร์ด ​: ผลงานล่าสุดนะครับ ก็ดีที่สุดของปีที่แล้วก็ คือนำรถแต่ง กระบะ Isuzu D-Max สเปซเฟรม วิ่งได้ 7.831 วินาที คันเดียวกันกับที่เรานำไปวิ่งที่อเมริกา ครับ แต่ตอนที่เราไปวิ่งที่อเมริกา เราวิ่ง 8.2 วินาที พอดีมันมีปัญหาเกิดขึ้น ในเรื่องของระบบครัช และก็เครื่องยนต์ครับ หลังจากนั้นเราก็กลับมาแก้ไข และวิ่งในเมื่อไทยอีกครั้งนึง ก็ได้ตามเป้าหมาย วิ่งในระดับ 7 วินาทีเหมือนเดิม

ภาพอันสุดแสนประทับใจของคนไทย กับการปรากฏตัวสู่สนามแข่งระดับโลกที่อเมริกา

รถยนต์คันแรกของช่างเบิร์ด

ช่างเบิร์ด ​: คือจริงๆ ก็มีมาก่อนหน้านี้ตั้งหลายคัน แต่คันที่ทำให้คนรู้จักช่างเบิร์ดหลัก5 ก็จะเป็น Chevrolet Colorado คันป๊อกแปดป๊อกเก้านั่นหล่ะครับ คนจะรู้จักเยอะ และพบเห็นเยอะ เพราะคันนี้ เริ่มวิ่งตั้งแต่แรกๆ ก็วิ่งได้ประมาณ 12 วินาทีก่อน แล้วก็ค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆจนสุดท้ายก่อนจะเลิกก็วิ่ง ก็วิ่งได้ประมาณ 8.8 วินาที ก็ถือว่าเป็นคันที่ทำให้คนรู้จักเบิร์ดหลัก5 มากที่สุด และคนก็จะคอยติดตามเพราะในทุกๆครั้งที่คันนี้ออกมาวิ่งก็จะทำเวลาดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้ง

Chevrolet ป๊อกแปดป๊อกเก้า ที่สร้างชื่อให้เบิร์ดหลัก5

ความคิดเห็นในวงการมอเตอร์สปอร์บ้านเรา

ช่างเบิร์ด ​: ผมว่าคนไทยเก่งนะครับ ไม่ใช่แต่ว่าเก่งเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่คือเก่งทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์เบนซินเลย คนไทยรู้จักเอาสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวมาประยุคใช้ มาทำให้มันแรงมากขึ้น และก็รู้จักพัฒนาอุปกรณ์ที่เรามีใช้กันในทุกวันนี้ มาทำให้มันแรงได้ แต่ที่อยากจะฝากไว้มากที่สุดก็คือ ทุกวันนี้รถที่เรานำไปแข่ง เครื่องแรงขึ้นเซ็ตรถให้มีน้ำหนักเบาขึ้น แต่ปัญาหาในตอนนี้คือสนามเนี่ยแหล่ะครับ สนามที่เราใช้แข่งกันมาเป็นสิบปีแล้ว สนามยังพัฒนาน้อย ทุกวันนี้รถเราวิ่งกันเร็วมากขึ้น เราเข้าเส้นกันเกือบ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกันแล้ว ทั้งระยะเบรคและคุณภาพของผิวแทรก มันไม่ค่อยมีคุณภาพพอ กับความเร็วของรถที่เราใช้กันในทุกวันนี้ มันมีความอันตรายมากขึ้น ผมเลยอยากฝากทางให้ผู้จัด หรือเจ้าของสนาม ช่วยกันพัฒนาในจุดนี้ให้พวกเราด้วย เพื่อความปลอดภัย ของทีมแข่งและนักแข่ง จะได้มีมากขึ้น และก็ถ้า แทรกมันดีกว่านี้ผมคิดว่ารถเมืองไทยน่าจะวิ่งได้เวลาดีกว่า ที่วิ่งอยู่ทุกๆวันนี้ครับ

โปรเจ็คหน้า

ช่างเบิร์ด ​: ปีนี้จะสร้าง เฟรมคันใหม่ และตอนนี้กำลังมองอยู่ว่าอาจจะเปลี่ยนเครื่องยนต์เอาบล๊อคเครื่องยนต์อื่นที่เป็น Diesel เอามาใช้แทน เครื่องยนต์รหัส 4JK1 ของ Isuzu D-max ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ เพื่อให้มันได้เป้าหมายที่ต่ำกว่าเวลาที่วิ่งอยู่ 7.8 เพราะว่าทุกวันนี้เราเค้นประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มันเยอะเกิน มันเลยทำให้ไปถึงขีดสุดของข้อจำกัดหลายๆอย่างในเครื่องยนต์แล้ว

ช่างเบิร์ด ​: สุดท้ายนี้ผมในฐานะตัวแทน ทีมชบา ช่างเบิร์ด และ อู่ช่างเบิร์ดหลักห้า ฝากติดตามพวกเราในทีมและผลงานในทีมทุกคนในอู่ได้นะครับที่ เว็บไซต์ BoxzaRacing.com นะครับ มีอะไรก็โทรมาปรึกษากันได้นะครับ ที่เบอร์ 081-192-8022

     เอาหล่ะครับ ทุกคนคงจะได้รู้จักกับ ช่างเบิร์ดหลัก5 กันมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ เด่วเราลองมาดูกันว่าคราวหน้าทีมงาน BoxzaRacing.com จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับบุคคลในวงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเราคนไหนกันบ้าง อย่าลืมคอยติดตามชมกันนะครับ