ยุคนี้ พ.ศ. นี้ ถ้าเอ่ยถึงชุดแต่งในกลุ่มคนที่ชื่นชอบรถหรือรักรถ ชุดแต่งเบอร์แรกๆ ที่คนจะคิดถึงคงหนีไม่พ้นชุดแต่ง Rocket Bunny & Pandem เนื่องด้วยรูปทรงที่ใส่เข้าไปในรถแล้วทำให้มิติรถดูใหญ่ขึ้น เส้นสายของชุดแต่งที่ทำให้รถดูโหดและดุขึ้น ส่งผลให้ชุดแต่ง Rocket Bunny & Pandem ครองใจกลุ่มคนที่แต่งรถได้อย่างง่ายดาย ส่วนในวงการมอเตอร์สปอร์ต ชุดแต่งนี้ก็เข้าไประบาดในกลุ่มนี้เช่นกัน โดยเฉพาะเกมส์การแข่งขันดริฟท์ของบ้านเรา จะเห็นรถแข่งดริฟท์ที่ใส่ชุดแต่งนี้หลายคัน อย่างคันนี้ Nissan Silvia S14 ของ คุณกอล์ฟ ณพลเดช อัจฉรารุจิ หรือ กอล์ฟ Gods หนึ่งในทีมผู้จัดการแข่งขันรายการ Underground Drift ในบ้านเรา ที่เพิ่งจะสร้าง Nissan S14 เสร็จใหม่ๆ แล้วเอามาวิ่งเปิดตัวในงานแข่ง Nexzter Battle Drift Project 2020 ภายในงานกิจกรรม Nexzter Connection The UnderUp X3 ปี 2020 ที่ผ่านมา
รถคันนี้ของ คุณกอล์ฟ ใช้เวลาปั้นขึ้นมาร่วมๆ 5 ปี เลยทีเดียว เพราะของที่ใส่เข้าไปสั่งเบิกใหม่ทุกชิ้น เพื่อให้รถคันนี้ออกมาตามแบบฉบับที่เขาต้องการ รถ S14 คันนี้ จะเข้ามาประจำการแทนรถ Nissan Cefiro A31 รถดริฟคันเก่าของตัวเอง ทาง คุณกอล์ฟ ได้เล่าความเป็นมาของรถคันนี้ ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการดริฟใหม่ๆ เขาสนิทกับทางอู่ Prostreet Garage มีรถดริฟท์เข้ามาเซอร์วิสที่อู่หลายคัน ช่วงที่ทีมไปแข่งหรือไปซ้อม คุณกอล์ฟได้ตามไปดูด้วย แล้วเกิดสนใจในการแข่งขันดริฟท์ อยากที่จะขับรถดริฟท์เป็น จึงหาซื้อรถมาหนึ่งคันแล้วเริ่มทำการซ้อม แต่ซ้อมได้ไม่นานก็หยุดพักไป พอเพื่อนๆ ในทีม Club 24 Racing Team เริ่มมาขับรถดริฟท์กันอีกครั้ง คราวนี้เลยทำให้คุณกอล์ฟ ได้ขับดริฟท์เป็นจริงเป็นจัง ซึ่งรถคันแรกที่เขานำมาทำเป็นรถดริฟท์ คือ Nissan Cefiro A31 พอได้ลงแข่งขันไปเรื่อยๆ เริ่มสนุก เริ่มขับได้ และประจวบกับรถคัน A31 ใช้มานานแล้ว อยากจะเปลี่ยนรถเป็นรถสปอร์ต จึงหันไปหารถ Nissan Silvia S14 ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการปั้นรถ Silvia S14 ขึ้นมา
สปอตตัวถังและสร้างโครง หน้า-หลัง ใหม่ พร้อมเดินโรลบาร์จาก Weep Roll Bar
ชุดบอดี้หลังเป็นไฟเบอร์จาก Akana
เริ่มแรกนำรถ Nissan Silvia S14 กลับมาไว้ที่บ้าน ก่อนที่จะตามทีมงาน Weep Roll Bar มาจัดการรื้อรถออกทุกส่วนจนเหลือแต่โครงรถ แล้วเริ่มเชื่อมสปอตตัวถังใหม่ทั้งหมด เพื่อให้บอดี้ของรถมีความแข็งแรงมากขึ้น การบิดตัวของบอดี้รถน้อยลง ต่อจากนั้นเสริมโรลบาร์ทำจากวัสดุโคโมลี่เพิ่มเข้าไปรอบคัน ป้องกันการยุบตัวของห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างแข่งขัน รถคันนี้ได้สร้างโครงรถขึ้นมาใหม่ทั้งหน้า-หลัง เพื่อให้น้ำหนักรถคันนี้เบาลง หลังจากที่เสร็จในขั้นตอนนี้ ก็หาชุดแต่งมาใส่ให้กับรถคันนี้ คุณกอล์ฟ เป็นหนึ่งในสมาชิก Rocky Bunny Thailand ดังนั้นชุดแต่งของรถคันนี้ คงจะหนีไม่พ้นชุดแต่ง Rocky Bunny & Pandem ซึ่งตรงรุ่นกับรถ Nissan Silvia S14 ที่เลือกใส่ชุดแต่งตัวนี้เพราะว่า ทำให้ตัวรถดูบึกบึน ดูใหญ่ ออกแนวไปทางรถอเมริกัน โดยที่ไม่ทิ้งคราบรถญี่ปุ่นไว้ให้เห็นเลย ส่วนชุดบอดี้ท้ายรถเป็นไฟเบอร์จากร้าน Akana ก่อนที่จะส่งรถไปที่ MPF Paint Garage จัดการสาดสีรถให้ใหม่ทั้งคัน เป็นสีที่เจ้าตัวต้องการ ส่วนสติ๊กเกอร์ให้ชาวต่างชาติเป็นคนออกแบบ แล้วส่งแบบมาให้ Chris_Mivec 13 Graphic & Sticker จัดการตัดและติดสติ๊กเกอร์ให้
ท่อนล่าง RB30 ฝาบน RB25-Neo By Prostreet
เฟืองแคม Tomei
สถานีต่อไปของ Nissan Silvia S14 คือ อู่ Prostreet Garage เพื่อจัดการเรื่องของเครื่องยนต์ เริ่มต้นโปรเจค คุณกอล์ฟ จะหยิบเอาเครื่อง 3UZ มาใส่เข้าไป โดยพื้นฐานของเครื่อง 3 UZ เป็นเครื่องที่มีแรงบิดเยอะ แต่มีรอบให้ใช้งานสั้นกว่าเครื่องแถวเรียง อีกทั้งราคาเครื่องยังสูงอีกด้วย จึงเปลี่ยนมาเป็นเครื่อง RB30 ที่มีราคาถูกกว่า ส่วนเหตุผลจริงๆ ที่เลือกใช้เครื่อง RB30 เพราะว่า 98% ของวงการดริฟในบ้านเรา เครื่องยนต์ที่ใช้ในรถดริฟเป็นเครื่องรหัส JZ เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น 1JZ หรือ 2JZ ก็แล้วแต่เจ้าของรถหรืออู่จะเลือกมาใส่เข้าไปในรถ เขาจึงหยิบเอาเครื่อง RB30 มาใส่เข้าไป เพราะเพิ่มความท้าทายให้กับตัวเองและทีมงานของอู่ Prostreet Garage ว่าจะทำเครื่องตัวนี้ออกมาได้แรงขนาดไหน สามารถสู้กับเครื่อง JZ ได้หรือเปล่า เป็นเหตุผลนึงที่เลือกใช้เครื่องนี้ พร้อมทั้งโมดิฟายเพิ่มเข้าไปชุดใหญ่ เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนฝาบนเป็นของเครื่อง RB25-Neo เนื่องจากเครื่อง RB30 (เครื่องยนต์รหัส RB30E) เป็นเครื่องที่ใส่ในรถ Holden ฝาบนเป็นฝาแคมเดี่ยวซึ่งมีแรงบิดน้อย จึงเปลี่ยนมาใช้ฝา RB25-Neo ที่เป็นฝาแคมคู่ ที่ให้แรงบิดที่เยอะกว่า ส่วนแคมชาฟท์เปลี่ยนมาใช้ Tomei 260 องศา ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ตัวเฟืองแคมชาฟท์ใช้ของ Tomei เช่นกัน น๊อตฝาสูบใช้ของ ARP ประเก็นฝาสูบของ Cometic ตัวเซ็นเซอร์ แคม + ข้อเหวี่ยง ใช้ของ Hi Octane ส่วนท่อนล่าง เปลี่ยนชาฟท์อก ชาฟท์ก้านเป็นของ King ตัวก้านสูบ ลูกสูบ ใช้ของ CP Carrillo น๊อตก้านของ ARP ประเก็นเมนข้อเหวี่ยงใช้ของ PRP โดยเครื่องตัวนี้ ใช้น้ำมันเครื่อง Driven เบอร์ 15w-50 Motor Racing Oil เป็นสารหล่อลื่น ส่วนตัวเซ็นเซอร์เครื่องทั้งหมดใช้ของ Link ทั้งชุด พู่เล่ย์หน้าเครื่องใช้ของ ATi Super Damper กล่อง ECU เป็นกล่อง Link รุ่น Fury ปรับจูนการสั่งจ่ายน้ำมันและไฟ โดย โจ Prostreet หรือ โจ Expert Tuning มือจูนคู่ใจของ คุณกอล์ฟ Gods
เทอร์โบ Precision 6266 เวสเกต Precision
ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าของ Bosch ขนาด 82 มม. Blow Off Valve ของ Tial
เทอร์โบเป็นของ Precision 6266 เวสเกตแยกเป็นของ Precision พร้อมต่อท่อคลายไอเสียส่วนเกินออกฝากระโปรงหน้า จากนั้นเดินท่อสแตนเลสต่อเข้าสู่อินเตอร์ของ Trust ขนาด 4” เพื่อควบแน่นอากาศร้อนให้เย็น โดยฝั่งไอดีของอินเตอร์ติด Blow Off Valve ของ Tial เพิ่มเข้าไปเอาไว้คลายไอดีส่วนเกินในขณะที่ถอนคันเร่ง ก่อนที่จะเข้าสู่ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าของ Bosch ขนาด 82 มม. แล้วลมจะผ่านเข้าสู่ท่อร่วมไอดีของ Hypertune ใบโต ก่อนจะเข้าสู่ระบบจุดระเบิด
ท่อไอเสียขนาด 4" สั่งทำใหม่ให้เป็นทรงวงรีจาก Prodrager
เฮดเดอร์ไอเสียเป็นของ RC Turbo เดินท่อไอเสียใหม่เป็นสแตนเลสขนาด 4” จากร้าน Prodrager ออกแบบตามที่เจ้าของรถต้องการ ให้เป็นทรงวงรีเพราะจะได้อยู่ในอุโมงค์ท่อไอเสียใต้ท้องรถไม่ให้เกินตัวรถเนื่องจากรถคันนี้เตี้ยอยู่แล้ว จึงต้องทำชุดท่อไอเสียให้เป็นวงรี
ถังน้ำมันเซฟตี้ Fuel Safe Racing Cells
ระบบน้ำมันกันต่อเลยดีกว่า ได้สั่งถังน้ำมันเซฟตี้ของ Fuel Safe Racing Cells มาวางไว้ตำแหน่งเดิมของรถ ก่อนจะใช้ปั้มติ๊กของ Deatschwerks 1 ตัว ทำหน้าที่ดูดน้ำมันออกจากถังหลักเข้าสู่ถัง A และใช้ปั้มติ๊กอีก 2 ลูก ของ Deatschwerks เช่นกัน ทำหน้าที่ดูดจากถัง A ผ่านเรกูเลเตอร์ของ Mollory ทำหน้าที่ปรับแรงดันน้ำมันให้ได้ค่าที่ใช้งานก่อนจะเข้าสู่รางหัวฉีด ที่สร้างขึ้นมาใหม่ให้มีขนาดใหญ่พอสมควร เพื่อจะป้อนน้ำมันให้มีปริมาณเพียงพอกับหัวฉีดขนาดใหญ่ถึง 1,600 cc. ก่อนจะฉีดเข้าสู่ระบบจุดระเบิด
อากาศแล้ว น้ำมันแล้ว ต่อมาที่ระบบไฟบ้าง แบตเตอรี่ใช้ของ XS Power รุ่น S975 พร้อมเดินสายไฟใหม่ทั้งชุดจากทาง Prostreet กล่อง CDi เป็นของ M&M ทำหน้าที่ปล่อยกระแสไฟ เข้าสู่ชุดคอยล์จุดระเบิดของ Split Fire ก่อนจะเข้าชุดหัวเทียน ทำหน้าที่จุดระเบิดของรถคันนี้
เกียร์ G-Force DOG-H 4 Speed
เฟืองท้าย Winter
เฟืองบนเป็นเฟือง Hi เฟืองตัวล่างเป็นเฟือง Lo
ระบบส่งกำลังใช้คลัทช์ของ ATS 3 แผ่น จาก Aek Garage ทำหน้าที่จับแรงม้าเข้าสู่เกียร์ G-Force DOG-H 4 Speed คุณกอล์ฟ บอกว่าเลือกใช้เกียร์ตัวนี้ เพราะอยากเปลี่ยนแนวทางการทำรถคันนี้ให้ดูแปลกกว่ารถคันอื่น ส่วนตัวปั้มคลัทช์เป็นของ Tilton ซึ่งเป็นปั้มคลัทช์แบบไฮดรอลิค ที่เลือกใช้ปั้มคลัทช์แบบนี้ เพราะสามารถทนความร้อนได้ดี ยังทนต่อแรงต้านของหวีคลัทช์ได้ดี แถมยังนิ่มอีกด้วย ทำให้เวลาเหยียบคลัทช์ไม่ต้องออกแรงเยอะ พร้อมใส่หัวปลดสายปั้มของ Earl’s เข้าไปเพราะง่ายต่อการเซอร์วิส เวลายกเกียร์ลงจะได้ไม่ต้องไล่น้ำมันใหม่ ตัวเพลากลางหยิบเอาของ Vigo มาแปลงใส่ พร้อมเปลี่ยนกากบาทเพลากลางใหม่ของ Spicer ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ทำงานคู่กับปะกับล๊อคกากบาทของ Strange หัวเพลากลาง =หน้า-หลัง เป็นของ Strange เข้าสู่เฟืองท้ายของ Winter เป็นเฟืองแบบสลับ เฟืองท้ายแบบนี้ถูกออกแบบให้ใช้งานได้ดี ทนแรงม้าและแรงบิดได้สูงเหมาะกับรถแข่ง เนื่องจากง่ายต่อการเซอร์วิส เพียงแค่เปิดฝาหลังที่ปิดตูดเฟืองท้ายออก แล้วทำการเซอร์วิสได้เลย โดยเฟืองสลับนี้แบ่งเป็นเฟือง Hi กับ เฟือง Lo โดยเฟือง Hi จะอยู่ด้านบน เฟือง Lo จะอยู่ด้านล่าง เพียงแค่สลับตำแหน่งเบอร์เฟืองท้ายก็เปลี่ยน เช่น เฟือง Hi เบอร์ 20 เฟือง Lo เบอร์ 19 เบอร์เฟืองท้ายก็จะเป็น 4.1 แต่ถ้าเปลี่ยน เฟือง Hi เบอร์ 19 เฟือง Lo เบอร์ 20 เบอร์เฟืองท้ายก็จะเปลี่ยนเป็นเบอร์ 3.9 แล้ว ซึ่งง่ายต่อการเปลี่ยนและเซอร์วิส ใช้เวลาเซอร์วิสและเปลี่ยนประมาณ 5 นาที ซึ่งเป็นเหตุผลที่เลือกใช้เฟืองท้ายตัวนี้ เพราะเหมาะกับการใส่ไว้ในรถแข่ง
ช่วงล่างหน้า-หลัง Wisefab V.2
ตัวย้ายตำแหน่งคานแร็ค ที่เพิ่มมาจากรุ่น V.1
ช่วงล่างเป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญของรถดริฟท์ เนื่องจากรถดริฟท์ต้องเข้าโค้งด้วยความเร็ว และต้องสามารถคอนโทรลรถให้ไปในตำแหน่งที่ต้องการได้ โดยช่วงล่างของรถคันนี้ คุณกอล์ฟ ได้สั่งชุดของ Wisefab V.2 ตรงรุ่นสำหรับรถ Nissan Silvia S14 ที่เลือกใช้ช่วงล่างชุดนี้ เนื่องจาก เป็นช่วงล่างที่ออกแบบและ สร้างขึ้นมาให้เหมาะสมกับช่วงล่างรถดริฟท์โดยเฉพาะ ปกติถ้าไม่ได้ใส่ช่วงล่างชุดนี้ก็จะต้องทำชุดช่วงล่างด้านหน้าใหม่ทั้งหมด เพื่อที่จะให้มีมุมเลี้ยวมากขึ้น หรือที่เรียกกันว่า แองเกิ้ลเยอะขึ้น ซึ่งช่วงล่างยี่ห้อนี้ออกแบบมาให้สามารถสร้าง มุมเลี้ยว ได้เยอะขึ้น อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าช่วงล่างเดิม แต่แข็งแรง โดยชุด Wisefab V.2 ได้เพิ่มตัวย้ายตำแหน่งคานแร็คเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งตัว ซึ่งต้องตัดคานเดิมออก แล้วนำของที่ให้มาเชื่อมต่อเข้าไปแทนที่ ทำให้เลี้ยวได้ดีขึ้นกว่ารุ่น V.1 โดยช่วงล่างด้านหลังของ S14 คันนี้ ก็ยกชุดของ Wisefab มาใส่เข้าไปทั้งชุดเช่นเดียวกับชุดหน้า ส่วนโช้คอัพหยิบเอาของ DG.5 สปริง Swift ที่เลือกใช้ชุดนี้ เนื่องจากสามารถเซ็ทได้ลงตัวและเข้ากับสไตล์การขับขี่ของ คุณกอล์ฟ ที่สุด
จานเบรคและ คาลิเปอร์ Endless
ล้อ Cosmis HQ รุ่น Cosmis R10D ขอบ 18"
ส่วนระบบเบรคตอนแรกที่คิดเอาไว้คือชุดหน้าเป็นของ Endless ทั้งจานและคาลิเปอร์เบรค แต่ไม่มีของจึงหยิบเอาของ Nissan Skyline R34 มาใส่ก่อน ผ้าเบรคเป็น N-Sport ทั้งชุด ส่วนชุดเบรคหลังเป็นของ Endless ทั้งชุด โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่แยกการทำงานเบรคมือกับเบรคเท้าออกจากกันแต่ใช้คาลิเปอร์เดียวกัน เพราะมีลูกสูบที่แยกการทำงานของเบรคมือโดยเฉพาะ ล้อใช้ของ Cosmis HQ รุ่น Cosmis R10D ขอบ 18" ล้อหน้ากว้าง 9” offset 7 ล้อหลังกว้าง 10” offset -12 น๊อตล้อ ไทเทเนียมจาก M1 Tuner
ด้ามเกียร์ของ Hurst ด้านเบรคมือเป็นของ ASD จาก Asd Motorsport
ห้องโดยสารรื้อออกทั้งหมด พร้อมทำสีให้เป็นสีขาว จากนั้นเดินโรลบาร์เข้าไปทั้งคันเป็นโคโมลี่ จาก Weep Roll Bar ที่ทำหน้าที่สปอตตัวถังและขึ้นโรลบาร์ แผงคอนโซลหน้าออกแบบใหม่ให้เหมือนกับรถมัสแตงตัวปัจจุบัน ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์จากร้าน Akana ส่วนคอพวงมาลัยสร้างขึ้นมาใหม่จาก Weep Roll Bar เช่นกัน พวงมาลัย Vertex สามก้าน ด้ามเกียร์ของ Hurst ส่วนด้ามเบรคมือเป็นของ ASD จาก Asd Motorsport โดยด้ามอันนี้ จะต่างจากรุ่นอื่น คือ ตัวปั้มน้ำมันจะหันไปทางหน้ารถ ส่วนรุ่นอื่นจะหันเข้าหาเบาะรถ ในจังหวะที่เปลี่ยนเกียร์ มืออาจจะไปโดนกับตัวปั้มได้ ทำให้เปลี่ยนเกียร์ช้าและรถเสียจังหวะได้ จึงใช้รุ่นที่หันปั้มไปหน้ารถเพื่อแก้ปัญหาจุดนี้ เบาะฝั่งคนขับเป็น Bride รุ่น Proface คนนั่งเป็น Bride Maxis III มาคู่กับเบลส์ 6 จุด ของ HPI แป้นเหยียบเป็นของ Tilton Pedal ส่วนจอแสดงค่าความเปลี่ยนแปลงของเครื่องยนต์เป็นของ AIM MXS Strada
รถ Nissan Silvia S14 ของ คุณกอล์ฟ คันนี้สุดจริง ทั้งชุดแต่ง ทั้งเครื่องยนต์ที่สั่งเบิกใหม่ทุกชิ้น ซึ่งของแต่งทุกชิ้นที่หยิบเข้ามาใส่มีเหตุและมีผลทุกชิ้น คุ้มค่า คุ้มเวลาที่ปั้นขึ้นมา เพราะเจ้าของรถต้องการให้รถออกมาดีและถูกใจตัวเองมากที่สุด
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook