ยุคนี้ พ.ศ. นี้ จะบอกว่ารถอีโค่คาร์ในบ้านเรากำลังมาก็ว่าได้ เนื่องจากขนาดที่เล็กกะทัดรัด มีความคล่องตัวสูง เหมาะกับการใช้งานในเมือง ที่การจราจรหนาแน่นเหมือนในเมืองหลวงบ้านเรา ทำให้รถประเภทนี้ของใจใครหลายๆ คน รวมไปถึงคอความเร็วที่ชื่นชอบกีฬามอเตอร์สปอร์ตได้จำเอาเจ้ารถ อีโค่คาร์ มาปรับแต่งละโมดิฟายเพื่อลงทำการแข่งขันในการแข่งขันรายการ Thailand Super Series 2019 ในรุ่น Thailand Super Eco รถคันนี้คนขับเป็นผู้หญิงชื่อ “หมอกิ๊ฟ” ณัฐญกานต์ รุ่งเพ็ชรารัตน์ ดูแลและเซอร์วิสโดย ซ้ง Motor Sport & PLH Racing ซึ่งรถคันนี้การันตรีถึง แชมป์ประเภทบุคคล ในรุ่น Thailand Super Eco Class C อีกด้วย โดยรายละเอียดของรถคันนี้จะเป็นอย่างไรต้องไปดูกัน
ทรงเดิม เพิ่มลิ้นหน้า เจาะรูลม
สำหรับภายนอกของรถในรุ่น Thailand Super Eco ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมจากโรงงานมากนัก เพราะว่ากติกาของรถรุ่นนี้ต้องมีพิกัดน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 950 Kg. ดังนั้นถ้าเพิ่มเอาชิ้นส่วนชุดแต่งอื่นเข้าไปจะทำให้น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้นมาด้วย ทำให้แรงม้าต่อน้ำหนักสู้คนอื่นเขาไม่ได้นั่นเอง แต่ชิ้นส่วนบางส่วนก็จะทำการไล่เบาเช่น ฝากระโปรงหน้าที่เหล็กก็จัดการเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เอาหรือถอดโครงของฝากระโปรงหน้าออกแล้วแต่ทุนทรัพย์ของเจ้าของรถ แต่รถคันนี้ใช้ฝากระโปรงเดิมไม่ได้ทำการไล่เบาอะไรเนื่องจากน้ำหนักของรถอยู่ในพิกัดที่ต้องการ มีเพิ่มเติมคือเจาะช่องรับลมเข้าที่กันชนหน้าพร้อมใส่ปากแตรเข้าไปเพื่อจะได้ดักลมเข้าสู่กรองอากาศได้โดยตรงและเร็วขึ้น จากนั้นขาดลายสติ๊กเกอร์สปอร์นเซอร์ที่ให้การสนับสนุน
เครื่อง L12 Style ซ้ง Motor Sport & PLH Racing
สำหรับรุ่น Thailand Super Eco ตามกติกาต้องเป็นเครื่องพิกัดไม่เกิน 1,200 cc. เป็นรถอีโควคาร์สำหรับเครื่อง Honda โดยเครื่องของรถคันนี้รหัส L12 จากนั้นเอามาทำการโมดิฟายใหม่ให้ได้แรงม้าและแรงบิดเพิ่มภายใต้กติกาที่กำหนด โดยเครื่องของรถคันนี้จัดการเคลียแลนซ์ท่อนล่างใหม่ทั้งหมดให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ทำงานได้เสถียรขึ้นข้อเหวี่ยงหมุนได้นิ่งขึ้น วาล์วเปิดปิด สนิทขึ้น ช่วยลดความร้อนสะสมภายในห้องเผาไหม้ได้ด้วย ส่วนท่อนบน ขยายพอท ไอดีไอเสียใหม่ให้อากาศไหลเข้าไหลออกได้โฟวล์ขึ้น จากนั้นทำการปาดฝาสูบเพื่อทำกำลังอัดใหม่แต่ไม่เกินที่กติกาของรุ่นนี้กำหนดคือ 11.0 ส่วนกรองอากาศใช้ Air Box เดิมที่มาจากโรงงานเนื่องจากกติกาของรุ่นนี้ให้ใช้ Air Box เดิมห้ามปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น แต่รถคันนี้เดินท่ออากาศใหม่เพื่อให้อากาศเป่าเข้า Air Box โดยตรงแต่ไม่ติดกับตัว Air Box ตามกติกาของรุ่น Super Eco กำหนดคือห้ามปรับแต่ง Air Box จากนั่นเปลี่ยนลิ้นเร่งไฟฟ้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ใบลิ้นเร่งมีน้ำหนักเบาขึ้น และขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้อากาศเข้าไอดีได้เยอะกว่าเดิมเป็นสูตรของทาง PLH Racing Product คิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อใส่ในเครื่อง Brio ส่วนระบบไอเสียจัดการเดินใหม่ทั้งระบบเริ่มตั้งแต่เฮดเดอร์ลงไปจนถึงปลาย โดยใช้วัสดุสแตนเลสทั้งเส้นขนาด 2 นิ้ว จาก Pipe Kids ส่วนระบบส่งกำลังเปลี่ยนคลัทช์ใหม่ จากนั้นจัดการเรียงใหม่เป็น Close Ratio ตั้งแต่เกียร์ 1-5 โดย PLH Racing Product ส่วนลิมิเต็ดสลิปเป็นแบบผ้าของ H-Drive จากนั่นส่งรถไปให้ Ballon จัดการ Re-Map กล่องให้ใหม่ตามที่สเปคของรถคันนี้
โช้ค Buddy Club จาน Brembo ผ้าเบรก Nexter
ส่วนระบบช่วงล่างของรถคันนี้จัดการเซ็ทติ้งใหม่ทั้งหมด เริ่มจากเปลี่ยนโช้คพร้อมสปริงใหม่ของ Buddy Club จากนั้นเปลี่ยนบูชช่วงล่างใหม่เป็นยูรีเทนทั้งหมดจาก Mono Racing Part หลังจากเซ็ทช่วงล่างทั้งหมดแล้ว ไปหยิบเอาจานเบรคของ Brembo ขนาด 264 mm. มาใช้ส่วนคาร์ลิบเปอร์หยิบเอาของ Jazz GE มาใส่เข้าไปส่วนผ้าเบรคใช้ของ Nexter รุ่น Race เหมาะสำหรับการแข่งขัน ส่วนล้อเลือกใช้ล้อขอบ 15” ของ Cosmis หน้ากว้าง 7” หุ้มด้วยยาง Michelin ขอบ 15 ซึ่งเป็นยาง Office Tire สำหรับรถที่ลงแข่งในรุ่น Super Eco ของรายการ Thailand Super Series
รื้อให้เกลี้ยง ลดน้ำหนัก ให้เยอะที่สุด
ในห้องโดยสารรื้ออุปกรณ์ของเดิมที่มากับรถออกให้หมด จากนั้นขึ้นโรล์บาร์ใหม่เป็นแบบ 6 จุดทั้งคัน แล้วหยิบเอาเบาะหูกวางของ Recaro Pro Racer พร้อมหยิบเบลส์ของ OMP 6 จุดมาใส่เข้าไป พวงมาลัยเปลี่ยนมาเป็นพวงมาลัยก้านยกของ OMP จับถนัดขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั่นยังมีถังดับเพลิงซึ่งตามกฏกติกานั้นต้องติดตั้งเข้าไปด้วยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเราสามารถที่จะหยิบมาใช้ได้ และได้เปลี่ยนตำแหน่งของแบตเตอรี่มาไว้ในรถต้องมีกล่องปิดแน่นหนา โดยต่อสวิตตัดไฟออกไปด้านนอกของตัวรถในกรณีที่เกิดรถชนเจ้าหน้าที่สนามสามารถมาดึงตัดไฟได้เลย เพิ่มเกจ์วัดรอบเข้าไป 1 ตัวพร้อมติดชิฟไลน์จะได้เห็นรอบเครื่องยนต์ได้ชัดขึ้นและมีชิฟไลท์คอยเตือนเมื่อถึงรอบที่ต้องเปลี่ยน นอกจากนี้ยังติดเกจ์วัดของ Smart Gauge เพิ่มเข้าไปเอาไว้เตือนค่าน้ำขณะที่แข่งเนื่องจากตัวนี้สามารถเตือนเป็นเสียงได้ และสามารถลบโค้ดหรือไฟรูปเครื่องที่ขึ้นโชว์ได้ด้วย
สำหรับรถคันนี้ในปี 2019 ที่ผ่านมารถคันนี้สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปีในรุ่น Thailand Super Eco Class C ของรายการ Thailand Super Series ขับโดย “หมอกิ๊ฟ” ณัฐญกานต์ รุ่งเพ็ชรารัตน์ เป็นผู้หญิงไม่กี่คนที่เข้าร่วมทำการแข่งขันในรุ่นนี้ โดย หมอกิ๊ฟ ก่อนที่จะเข้ามาร่วมขับขี่ในรุ่นนี้ เมื่อก่อนนางเคยขับรถ BMW E36 Compact เครื่อง 1Jz Turbo MT ลงแข่งในรายการ Toyo3K Racing Car Thailand, OMP Challenge by Vattana มาก่อน ในปี 2019 ก็อยากจะลองแข่งรถที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าดู เพราะอยากจะรู้ว่ามันจะต่างกับรถขับหลังที่เคยขับรึเปล่า จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยากจะลองขับแข่งดูสักครั้ง แล้วจังหวะก็มาพอดีเห็นรุ่นน้องปล่อยให้เช่ารถแข่ง จึงได้มีโอกาศได้ลองขับรถขับหน้าลงแข่งอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ พอได้ลองมาขับแล้วรู้สึกสนุกมากเพราะว่าทุกอย่างแตกต่างกันสิ้นเชิงทั้งจุดเบรก จังหวะเลี้ยว จังหวะเดินคันเร่ง และมีอะไรให้ท้าทายตลอดเวลาและต้องแก้สถานะการณ์เฉพาะหน้าตลอดเวลา เพราะต้องขับรถที่กำลังน้อยๆ ให้เร็วให้ได้ บอกได้คำเดียวว่าสนุกมาก
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook