ในวงการรถซิ่ง รถแต่ง เชื่อหลายๆ คนที่เป็นแฟนพัธุ์แท้ของอสุรกายความแรงเหล่านี้ คงจะเคยชมภาพยนต์เรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า Gone in 60 Seconds ที่ออกฉายช่วงยุค 2000 เช่นเดียวกับตัวผู้เขียน ที่ยอมรับเลยว่า มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ไปแล้วกว่า 10 รอบ ด้วยความที่ชื่นชอบในหนึ่งตัวละครเด็ดในเรื่อง ซึ่งไม่ใช่ตัวเอกอย่าง Nicolas Cage หรือ Angelina Jolie แต่หากเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีนามแฝงว่า Eleanor
Eleanor หลายๆ คนคงคุ้นกับชื่อนี้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า...นี่ไม่ใช่ชื่อของนักแสดงคนใดคนหนึ่ง แต่เรียกได้ว่ามีบทบาทชนะใจคนเล่นรถทั่วหัวระแหง ด้วยความสวยงาม มีมนต์ขลังประดุจอัญมณีแห่งท้องถนน โดยเจ้า Eleanor ที่ว่านี้ก็คือ Ford Mustang Shelby GT500 รุ่นปี 1967 หนึ่งใน 50 คัน ของกลุ่มรถที่ตัวละครหลักอย่าง Memphis Raines (นิโคลัส เคจ) ต้องขโมยเพื่อส่งให้ลูกค้า โดยเป็นรถที่เขาคลั่งใคล้และมีเบื้องหลังในแง่ลบต่อกันมาก่อน ทำให้ Memphis Raines เก็บไว้ส่งมอบเป็นคันสุดท้าย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่วายมีดราม่าให้ต้องซ้ำรอยความช้ำอยู่ดี สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู หรือดูมานานจนลืมไปแล้ว BoxzaRacing แนะนำให้คุณลองกลับไปหามาดูกันอีกสักรอบ จะได้อินกับรถในคอลัมน์ Racing Magazine ที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ ขนาดตัวผู้เขียน ก่อนที่จะลงมือปั้นงานนี้ ยังต้องดูหนัง Gone in 60 Seconds ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง เพื่อปลุกอินเนอร์ ก่อนจะร่ายตัวหนังสือให้ผู้อ่านได้สัมผัสกัน
คุณโอม (OHMPiMP) และ Ford Mustang Shelby GT500 รุ่นปี 1967 ในคราบ Eleanor
ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะได้เห็นรถในสไตล์ American Muscle Car ที่สวยและสมบูรณ์อย่าง Ford Mustang Shelby GT500 รุ่นปี 1967 ที่เราได้เห็นกันอยู่ในขณะนี้ โดยกว่าที่จะมาเป็น "รถในฝัน" อย่างที่ปรากฏโฉม บอกได้เลยว่า ทางผู้ครอบครองและปลุกปั้นอย่างคุณโอม (OHMPiMP) ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมากับเจ้า Eleanor มาอย่างยาวนานกว่า 3-4 ปี เลยทีเดียว แน่นอนว่าการจะปั้นรถคลาสสิคสักคันนั้น แค่มีเงิน แค่การลงทุน มันมิอาจสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อสรรสร้างผลงานให้ออกมาอย่างที่ต้องการ นั่นแหละ คือ หัวใจ
โดยส่วนตัว ผมรู้จักกับคุณโอม (OHMPiMP) มานานในระดับหนึ่ง เห็นเขาเล่นรถแนวต่างๆ มาก็ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ต ซีดานหรู หรือแม้แต่ซูเปอร์คาร์ ที่ผ่านมือคุณโอม มาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งด้วยความที่ได้ลองมาแล้วอย่างหลากหลาย แต่ยังไม่มีอะไรที่ทำให้คุณโอม รู้สึกว่ามันใช่จริงๆ สำหรับตัวเขา จนกระทั่งเขาได้เข้าไปคลุกคลีในงานโชว์รถคลาสสิค ก็เริ่มรู้สึกว่า ตัวเองนั้นชอบอะไรที่ดูมีมนต์ขลัง หาดูยาก ไม่เสื่อมคุณค่าไปตามกาลเวลา จากนั้นคุณโอมก็เริ่มตามหายนตรกรรมในรูปแบบ American Muscle Car มาไว้ครอบครอง ซึ่งในเวลานั้น มองไว้หลากหลายรุ่น เช่น ตระกูล Camaro ไม่จำกัดวงอยู่แค่กับ Mustang แต่ในท้ายที่สุด ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสปอร์ตตระกูลม้าป่า ที่กระแทกใจคุณโอมเข้าอย่างจัง และเป็นจังหวะที่พอดีกับที่ทางเจ้าของเดิมของ Ford Mustang คันนี้ นำรถไปโชว์ในงานโปรโมทภาพยนตร์ John Wick การเจรจาสู่ขอมาครอบครองจึงเกิดขึ้น ซึ่งตอนได้รถคันนี้มา สภาพตัวรถยังคงเป็น Ford Mustang ปี 1967 สไตล์ดั้งเดิม ไม่ได้หล่อสุดขั้วอย่างที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังรถซิ่งในตำนาน Gone in 60 Seconds ส่งให้คุณโอมเลือกที่จะปั้น Ford Mustang ปี 1967 ให้กลายร่างสู่ความเป็น Eleanor หรือ Ford Mustang Shelby GT500 รุ่นปี 1967 อย่างสง่างาม ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าจะได้ของมาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ความอดทนและทุนทรัพย์ไม่น้อย ด้วยความที่อะไหล่หลายๆ ชิ้น ไม่ใช่ของที่หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ขนาดแค่หาอู่ที่ไว้ใจได้ให้ลงมือทำรถคันนี้ ยังไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคุณโอมหาข้อมูลอยู่พักใหญ่จนได้อู่ที่ไว้ใจในย่านอ่อนนุช ซึ่งก็ได้รุ่นน้องผู้คร่ำหวอดในวงการรถ American Muscle Car เป็นที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำ วางแผนในการทำ กำหนดสเปคและงบประมาณ รวมถึงสั่งอะไหล่ต่างๆ ให้จากต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องพิถีพิถันในทุกขั้นตอน แค่การเลือกน็อตมาใช้สักตัว ยังต้องหาน็อตที่เหมาะสม มีความพอเหมาะพอดีกับชิ้นส่วนนั้นๆ
ไฟหน้า 8 ดวง เอกลักษณ์แห่ง Eleanor
American Racing รหัส VN427 ของเล่นตรงรุ่น Eleanor คอนเฟิร์ม
เรื่องความหล่อเหลาของ Ford Mustang Shelby GT500 รุ่นปี 1967 ไม่มีอะไรต้องสงสัย ทุกองค์ประกอบเรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก Eleanor แบบไม่มีผิดเพี้ยน เช่น ไฟหน้า 8 ดวง, กระจกมองข้างตรงรุ่น Eleanor จะมีแค่บางส่วนเท่านั้นที่ต่างไป เช่น ในส่วนของโปร่งข้างของ Eleanor ในภาพยนตร์จะเป็นแบบแปะ ส่วนสำหรับคันนี้จะเป็นแบบดึงขึ้นมาจากตัวถัง ซึ่งแน่นอนว่าองค์ประกอบเล็กๆ เหล่านี้ ไม่ทำให้ความขลังของความเป็น Eleanor นั้น ลดน้อยถอยลงไป ในส่วนของล้อ คุณโอมเลือกใช้ของเล่นตรงรุ่นจากแบรนด์ American Racing รุ่น VN427 ซึ่งเป็นล้อแบบ 2 ชิ้น
ขุมพลัง Inline 6 พิกัด 200 C.I. เร้าใจไม่เท่าไหร่ แต่ถูกใจเต็มร้อย
ด้านขุมพลังของ Eleanor คันนี้ คุณโอมยังคงรักในมนเสน่ห์ของขุมพลัง 6 สูบ แถวเรียง (Inline 6 200 C.I.) เนื่องด้วยเป็นความชอบส่วนตัว แม้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่จะมีมาอย่างหนาหูว่า ทำไมถึงไม่วาง 8 สูบ ให้ดูสุดๆ ไปเลย ? โดยเครื่องยนต์ตัวนี้ หลักๆ แล้ว ไม่เน้นการโมดิฟายอะไรเพิ่มเติม แต่เติมความสดใหม่ด้วยการโอเวอร์ฮอลให้สามารถใช้งานได้จริงในประเทศไทย เน้นความเป็นออริจินั่ลให้มากที่สุด เช่นเดียวกับชุดเบรก ที่ยังคงรักเดียวใจเดียวกับระบบดรัมเบรก 4 ล้อ รวมถึงชุดช่วงล่างสไตล์ดั้งเดิม ซึ่งถือว่าหาดูได้ยากยิ่ง สำหรับรถซิ่ง รถแต่งในยุคนี้ ต้องยอมรับในความใจนิ่งของคุณโอมจริงๆ
ชุดคอนโซล Shelby GT500 Aluminum Trim
เรือนไมล์ 2 ช่อง แว่วมาว่าค่าตัวเฉียดสองแสน !
ห้องโดยสารของ Eleanor คันนี้ ได้รับการเก็บงานอย่างแนบเนียน อาจไม่สดขนาดรถที่ออกป้ายแดง แต่ก็ถือว่าดูเนียนตาเมื่อเทียบกับอายุอานามของตัวรถที่มากกว่า 50 ปี พร้อมเพิ่มของเล่นหายากเข้าไปเสริมบารมี เช่น ชุดคอนโซลจาก Shelby GT500 Aluminum Trim เรือนไมล์แบบ 2 ช่อง ที่ประมูลมาด้วยค่าตัว 6 หลัก ส่วนพวงมาลัยเป็นขอบไม้ Shelby Still Lenkrad GT350 ส่วนเบาะหลังถูกรื้อออกแล้วแทนที่ด้วยคาร์บอนไฟเบอร์
หลายคนอาจสงสัยว่า การปั้นรถในสไตล์ American Muscle Car โดยส่วนใหญ่แล้ว ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งคงบอกได้เลยว่า ค่าตัวของเจ้า Ford Mustang Shelby GT500 รุ่นปี 1967 หรือ Eleanor คันนี้ เกินตัวเลข 7 หลัก ไปไกลแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาหลังจากที่อดทนรอคอยกับการตามหารถที่ใช้มานานแรมปี และความเหนื่อยที่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเพื่อสานโปรเจ็คท์ที่รักให้เป็นรูปเป็นร่าง มันคือ ความภาคภูมิใจแบบมิอาจประเมินค่าได้ ที่ได้สร้างสรรค์สิ่งที่ตัวเองรัก ในสไตล์ที่ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปแบบ 100% ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วเสกขึ้นมาได้ภายใน 1-2 วัน แน่นอนว่า การทำรถแบบนี้ ย่อมมีเสียงจากคนรอบข้างมากรอกหูอยู่พอสมควร แต่สิ่งหนึ่งที่คุณโอมยึดมั่นมาโดยตลอด นั่นคือ ความเป็นตัวเอง ที่อาจไม่ได้เรียกว่าเป็น "ขั้นสุด" แต่มันอยู่ในจุดที่พอใจ และสามารถสะท้อนตัวตนของผู้ครอบครองได้อย่างเต็มที่ รถที่สุดกว่า...อาจไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ นั่นคือ สิ่งที่คุณโอมและตัวผมเอง...มองเห็นในสิ่งเดียวกัน ซึ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบรถคันนี้ สามารถติดตามได้ที่เฟสบุ๊ค Jutturong Pattamatin และอินสตาแกรม ohmpimp1
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook