Lancia Beta Coupe สีสันบนท้องถนนในยุค 70-80
Lancia เอ่ยชื่อรุ่นนี้มา วัยรุ่นก็คิ้วขมวดชวนฉงน เพราะเกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่สำหรับวัยเก๋า เจนจัดประสบการณ์ย่านผับพาเลซ จะต้องร้องซี้ดซ้าดแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น Beta Coupe ที่วาดลวดลายสร้างสีสันบนท้องถนนในยุค 70-80 อยู่ไม่น้อย วันนี้เราจะได้มาเจอกับตำนานที่ยังไม่ตาย ซึ่งกว่าจะโลดแล่นได้ในปัจจุบัน ต้องผ่านเรื่องดราม่าหลากหลายด้าน รวมทั้งการดูแลรักษา และเกร็ดเล็กๆน้อยๆ รวมไว้ในคอลัมน์ RacingMagazine วันนี้อย่างเต็มอิ่มสุดๆไปเลยครับ
รถสปอร์ตขนาดเล็ก ที่ทำยอดขายดีจัดในค่ายนี้
วางตลาดเป็นรถสปอร์ตกึ่งหรูในราคาเอื้อมถึงง่าย
Lancia Beta Coupe เป็นรถรุ่นแรกที่กำเนิดภายใต้ร่มเงาของ Fiat เป็นผู้ควบคุมการพัฒนารถทั้งหมด วางหมากให้เป็นรถกึ่งหรูในราคาเอื้อมถึงง่าย ตั้งชื่อว่าเป็น Beta ตัวอักษรที่สองในภาษากรีก เพื่อแสดงถึงการสืบทอดเชื้อสายดั้งเดิมจากแลนเซียรุ่นแรก Alpha ในปี 1908 โดยรถรุ่น Beta นี้มีแนวคิดล้ำหน้ากว่าใครในตอนนั้น เพราะเป็นหนึ่งในรถไม่กี่รุ่นบนโลก ที่มีแบบตัวถังให้เลือกเยอะที่สุด โดยเริ่มเปิดตัวในปี 1972 ด้วยบอดี้ซีดานท้ายลาด บุกเบิกตั้งแต่ยุคคุณป้ายังสาว ให้ซีดานทรงนี้กลายเป็นสไตล์ยอดนิยมในปัจจุบัน และเพิ่มตัวถัง 4 ประตูท้ายเก๋งในชื่อ Trevi
ตระกูล Beta ยังออกตัวถังแบบคูเป้ 2 ประตู เปิดตัวในปีต่อมา จากนั้นต่อยอดไปเป็นแบบเปิดประทุน และแบบ 3 ประตูท้ายลาด หรือ Shoting-Brake สำหรับผู้รักความสปอร์ตที่สามารถขนของได้เยอะขึ้น อีกทั้งในตระกูล Beta นี้ยังได้เหิมเกริมจนกล้าออกรถสปอร์ตแบบวางกลางขับหลัง ขายในชื่อ Montacarlo โดยวางตัวเป็นเฟอร์รารีที่เอื้อมถึงง่ายอีกด้วย นี่เป็นแค่แนวคิดการพัฒนารถรุ่นนี้ ที่มองการณ์ไกลและกว้างขวางครอบคลุมทุกโจทย์การใช้งานจริง
ดีไซน์เพรียวบาง ตามสไตล์อิตาลี
เป็นรถที่รวมเทคนิคจากรถสปอร์ตชั้นดีไว้ด้วยกัน
นอกจากแนวคิดการพัฒนารถที่ล้ำหน้าแล้ว ตัวรถของ Lancia Beta Coupe ก็ยังมีเทคนิควิศวกรรมที่ถูกใจพวกเนิร์ดรถยนต์ทั้งหลาย ด้วยการใช้เครื่องยนต์ทวินแคม DOHC ฉีกแนวเครื่องในยุค 70 ที่ยังเป็นตะเกียบวาล์วทำงานเฉื่อยๆอยู่เลย มีระบบเคลื่อนล้อหน้าที่เป็นของใหม่แห่งยุคนั้น อีกทั้งยังใช้ช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อพร้อมดิสค์เบรคทั้งหมด นี่มันคือการนำเทคนิคของพื้นฐานรถสปอร์ตที่ขับสนุก รวมเอาไว้ในคันเดียว ซึ่งสมัยก่อนนี้ รถซีดานแทบไม่รู้จักคำว่าช่วงล่างอิสระและดิสค์เบรคกันเลย
ภายในคงความเดิมไว้ได้มากสุดๆ
ฟ้อนต์ Alpine จากยุค 90 ก็ยังดูเข้ากันดี
Lancia Beta Coupe เข้ามาขายในไทยในยุค 80 ด้วยบริษัทยนตรกิจ ในราคาเทียบเท่าเยอรมันที่ 320,000 บาท แต่มีกำลังแรงกว่าคู่แข่ง ทำให้ได้รับความนิยม ซึ่งไม่ใช่คนไทยเท่านั้นที่ชื่นชอบ ในต่างประเทศก็ยังเป็นที่นิยมมาก ถึงขนาดที่กล้าส่งไปขายยังอเมริกา ประเทศที่ชื่นชอบแต่รถขนาดใหญ่โต แต่รุ่นนี้ก็ยังสามารถทำให้วัยรุ่นเมกาชื่นชอบได้ ความนิยมครั้งใหญ่นี้ ถือเป็นความสำเร็จของตระกูล Beta ที่ทำเงินมากได้ดีมาก แต่ความสำเร็จที่หอมหวาน มันซ่อนจุดบกพร่องเล็กๆ ที่กัดกินชื่อเสียงของแลนเซียให้ลบชื่อออกจากวงการรถยนต์ในภายหลัง
เครื่องทวินแคมจากเฟียต ของล้ำหน้ามากๆในยุคนั้น
งานปราณีตจากยุคเก่า แค่ฝาครอบวาล์วยังคลาสสิค
ดราม่าเรื่องแลนเซียก็เกิดมาจากรุ่นนี้เช่นกัน ตรงที่เนื้อเหล็กของอิตาลีสมัยก่อนไม่ได้มีคุณภาพดี อีกทั้งการเคลือบสนิมก็เรียกว่าดีได้ไม่เต็มปาก ทำให้เมื่อใช้ไปไม่นาน เกิดปัญหาวัสดุผุกร่อนเร็วกว่าที่ควรจะเป็น บางคันนี่ลุกลามไปถึงซับเฟรมเลยก็มี อีกทั้งในประเทศไทย รถตระกูลเบต้านี้ขึ้นชื่อเรื่องระบบไฟจุดระเบิด ที่เสียบ่อย และไม่ทนความร้อนสักเท่าไหร่ แต่ปัญหาเหล่านั้น ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของวัยรุ่นยุค 80 อย่างคุณ อัฐฒา นายเรือ ที่มีความชอบฝังใจมาโดยตลอด
เบาะกำมะหยี่ ออพชั่นเสริมจากโรงงาน
ขับสนุกสุดในยุคเฟียตต้องรุ่นนี้เลย
เจ้าของรถคันนี้คุณ อัฐฒา นายเรือ มีความชอบบอดี้คูเป้นี้มาก ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ก็ติดใจในสไตล์ที่ดูมีรสนิยมแบบอิตาลีแท้ๆ แต่ติดขัดตรงคนที่บ้านบอกว่าอย่าเล่น เพราะรุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องเสียบ่อย จนคนไทยเรียกกันเล่นๆว่าเป็นรถยี่ห้อ “แล่นเสีย” ไปซะงั้น แม้ในตอนวัยรุ่นนั้นจะพลาดไป แต่ใจเขาก็ยังชอบจนมาถึงวัยทำงาน ก็ยังหารถมาเรื่อยๆ ผ่านตาหลายคัน เมื่อไปดูแล้วไม่เจอสภาพที่ถูกใจ เพราะคุณอัฐฒาเน้นเล่นรถที่มีสภาพดีเป็นหลัก ไม่ต้องการเอาของโทรมๆมาปั้นใหม่ มันจะเหนื่อยและแพงกว่า จนในที่สุด หลังจากตระเวณหามาทั่วประเทศ ก็กลับมาเจอที่ใกล้ๆบ้าน ในสภาพดีมาก เหมือนจอดรอให้เขาข้ามฝั่งถนนไปซื้อมันมาในเวลาที่เหมาะสม
Lancia Beta Coupe คันนี้คุณอัฐฒาซื้อมาได้ 10 ปีแล้วครับ ได้มาในสภาพภายนอกเดิมๆ ซึ่งหายากมากแล้วในปัจจุบัน จากนั้นก็ทำการแก้ไขจุดอ่อนของรถไปหมดแล้ว เรื่องระบบขับหน้าที่บอบบาง พื้นฐานใช้เครื่องเฟียตจับมาวางขวางขับหน้าแล้ว ระบบไฟของอิตาลีสมัยก่อนเสียบ่อย แต่คันนี้วางระบบไฟใหม่มาแล้ว แปลงจานจ่ายรุ่นใหม่ ใส่ระบบระบายความร้อนติดพัดลมมาใหม่ โดยยังซ่อมที่อู่เฟียตสามสหายอันโด่งดังในอดีต และอู่เฟียตต่างๆ ที่ยังหลงเหลือ ก็ทำได้เช่นกัน เพราะใช้เทคนิคเดียวกับยี่ห้อนี้
กระจังหน้าแบบ Volumex ลายของแท้ที่หาชมยาก
หางหลัง Volumex ของหายากสุดๆ
ความพิเศษของรถคันนี้อยู่ที่ กระจังหน้ารุ่น Volumex ซึ่งเป็นรุ่นปีสุดท้ายที่ขายในไทย จึงจัดเต็มของแต่งมาให้ครบๆ ตามด้วยสปอยเลอร์หลังแบบตูดเป็ดของตัว Volumex แท้ๆ ซึ่งเป็นของแต่งที่เจ้าของแลนเซียเบต้าหลายคนอิจฉา จากนั้นไปดูกันที่ภายในมีเบาะกำมะหยี่ของแต่งแท้จากโรงงาน
รถคันนี้ถูกเจ้าของเดิมแต่งเครื่องเสียงจากยุค 90 ด้วยฟ้อนต์ Alpine พร้อมแอมป์ Audition โดยขับลงลำโพงของ Rodek ที่ตีตู้มาอย่างแนบเนียนไม่มั่วยุค ให้ขับแบบแอร์เย็นเพลงเพราะ มากกว่าจะไปแข่งกับใคร แต่เห็นแบบนี้ ก็ยังได้รับเกียรติไปลงวิ่งขำๆ ในสนามแข่งเฉพาะกิจที่บางแสนมาแล้วนะครับ
Lancia Beta Coupe คันนี้ถือว่าคงความเข้มข้นของกลิ่นไอจากยุค 80 ไว้ได้เยอะมาก เพราะเจ้าของรถเน้นมากๆว่า การเล่นรถคลาสสิค ให้ดูสภาพเดิมๆ สวยๆครบๆดีกว่า ยอมเสียตังค์เพิ่ม ดีกว่าซื้อถูกๆมาปั้น ของไม่ครบ และไม่ใช่การเลือกรถอะไรก็ได้ที่คนอื่นแนะนำ ความรู้เรื่องรถที่ดี ก็ทำให้เราได้รถที่เราชื่นชอบ เพราะรถที่พังมันยังหาซื้ออะไหล่ได้ แต่สไตล์และรสนิยมดีๆ หาซื้อไม่ได้ ต้องศึกษาและสั่งสมประสบการณ์ด้วยตัวเอง สำหรับคอลัมน์ RacingMagazine คราวนี้ก็ปล่อยให้ทุกท่านซึมซับอารมณ์ยุค 80 ในแกลเลอร์รี่กันไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้ากับรถซิ่งสารพัดรุ่น สวัสดีครับ
Tech Spec
Lancia Beta Coupe
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook