Toyota Celica Liftback ปี 1974 มัสเซิ่ลคาร์แห่งเกาะญี่ปุ่น
รถเรโทรที่มาลงคอลัมน์ RacingMagazine คราวนี้ไม่ธรรมดา เพราะมันคือ Toyota Celica Liftback ปี 1974 รถสปอร์ตรุ่นท็อปสุดแห่งยุค 70 ของค่ายนี้ โดยเป็นตัวถังแบบฟาสแบ็คที่หายากเข้าไปอีก ดีไซน์สไตล์โป่งสันนูน สัดส่วนแบบรถมัสเซิ่ลคาร์ของอเมริกัน ซึ่งเป็นสไตล์ยอดนิยมมากในยุคนั้น โดยเจ้าของรถคือคุณกร ไม่ได้เก็บให้สวยอย่างเดียว ยังแต่งเพิ่มอีกหลายจุด และยังไม่หยุดแต่งไปเรื่อยๆ โดยยังเน้นของตรงรุ่น เข้าชุด ไม่เลอะเทอะ แถมยังแอบแรงเบาๆ เพื่อไม่ให้เสียชื่อรถสปอร์ต ไปชมสเต็ปความป๋าในคันนี้กันครับ
โฉมไฟตั้ง พร้อมหน้ากากแอโร่ไดนามิกส์แบบรถแข่ง
กระจกมองข้างทรงกระสุนขาทึบ อีกหนึ่งของแต่งหายาก
บานเกล็ดหลัง ของแต่งแห่งยุค 70 ที่ต้องมี
รุ่นนี้เป็น Toyota Celica ปี 1974 โฉมไมเนอร์เชนจ์ แตกต่างจากเดิมตรงที่ไฟเลี้ยวมุมเป็นแนวตั้ง เปลี่ยนจากเดิมที่ไฟเลี้ยวเป็นแนวเฉียงลู่ลมกว่า โดยคุณกรขยันสรรหาของแต่งภายนอก กับชุดแต่งหน้ากากปิดกรอบในกระจังหน้า เพิ่มความลู่ลมตามหลักแอโร่ไดนามิกส์แบบรถแข่ง ซึ่งเป็นของแต่งจากรุ่นแรกหน้าเท แต่โฉมนี้ก็ใส่ได้ไม่เคอะเขินอะไร ใส่แล้วหน้ารถจะได้เรียบ พร้อมซิ่งไปอีก ส่วนอีกหนึ่งของแต่งหายากนั่นคือ บานเกล็ดกระจกด้านหลัง เป็นพลาสติกสีดำติดทับกระจังหลัง แง้มมุมให้มองเห็นวิวท้ายรถ มีคุณสมบัติช่วยกันแสงแดดเข้ารถจนร้อน ช่วยบังหิมะในต่างประเทศ และช่วยแอโร่ไดนามิกส์นิดๆ นอกจากนี้ยังเก็บรายละเอียดด้วยของแต่งตรงยุค ทั้งกระจกมองข้างติดแก้มทรงหัวกระสุนพร้อมขาแบบทึบ กับลิ้นหน้ายื่นล่าง สปอยเลอร์ตูดเป็ดท้าย และโป่งเย็บ เป็นสไตล์รถซิ่งพาเลสตรงยุคจริงๆ
เบาะบั๊กเก็ตซีท Quattro Sport สุดหายาก
พวงมาลัย TRD ตรงยุค
เกจวัดเดิมจากโรงงาน เก็บงานเนี๊ยบ
เปิดมาภายในประทับใจเลย เพราะเจอเบาะ Quattro Sport บักเก็ตซีทจากญี่ปุ่นแท้ๆ ของแต่งหายากที่ไม่ใช่ว่าเดินเชียงกงแล้วเจอถมเถ แถมคุณกรยังพ่นสีเหลืองเดียวกับตัวรถไปอีก มาที่วงพวงมาลัย ก็เป็นสามก้านทรงเหลี่ยมของ TRD ยุคเก่าจริง สปอร์ตคลาสสิคได้ใจไปอีกรายการ นอกเหนือจากนี้ก็เก็บเดิมๆ ทั้งลายเบาะคนนั่งกับแผงประตู บูรณะใหม่ให้เดิมสุดๆ คอนโซลเต็มไปด้วยเกจวัดฝังมาจากโรงงาน บอกปริมาณน้ำมัน อุณหภูมิ กำลังไฟ เหลือเฟือที่จะดู เก็บงานด้วยแผงปรับวิทยุและแอร์มาแบบบิ้วท์อินเดิมๆเลย
เครื่อง 4A-GE ขับหลัง 16 วาล์วตัวแรก
เครื่องยนต์ถูกวางใหม่เป็นบล็อค 4A-GE ที่ใหม่กว่าและแรงกว่า เพราะเป็นขุมพลังเดียวกับ AE86 รุ่นน้องนั่นเอง แรงม้ามาเบาะๆก็ปาเข้าไป 125 ตัวแล้ว สามารถลากรถน้ำหนักตันเดียวให้วิ่งฉิวได้แล้ว โดยเจ้าของบอกว่า นี่เป็นเครื่องชั่วคราวเท่านั้น นี่ขนาดชั่วคราวยังแอบเห็นของแต่งอย่างกรองเปลือยดอกเห็ด เรียกว่ายังไม่ทิ้งลายของแต่งรุ่นป๋า แม้ว่าจะเป็นเครื่องชั่วคราว สามารถอ่านสเป็คเครื่อง 4A ต่อได้ที่นี่
ล้อออฟเซ็ตลึกสุดใจ โหลดเตี้ยด้วยสปริง TRD
ล้อแม็กซ์ SSR Longchamp XR-4 ขอบ 14 นิ้ว
ด้านช่วงล่างก็จัดเต็มให้หนึบขึ้น ไม่ต้องย่องในโค้งให้อายรถรุ่นใหม่ แถมยังตรงยุคด้วยล้อแม็กซ์ SSR Longchamp XR-4 ขอบ 14 นิ้ว ลายหกก้านแหลม พร้อมออฟลึกสุดใจขาดดิ้น จนมีพื้นที่ให้ติดจุกเติมลมในแนวตั้งได้ ส่วนโช้คอัพก็ใส่ของ TRD เข้ากับสปริงโหลดของ TRD เรียกว่าหายากทั้งคันหัวจรดเท้าจริงๆครับ
ยังไม่สุดแคนี้ เจ้าของมีเป้าจะไปต่ออีก
คุณกรเป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าใจความคลาสสิคของรถหายากรุ่นนี้ พยายามเก็บงานให้สวยเดิม เพิ่มของแต่งก็ตรงยุคไม่เลอะเทอะ ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเจอของที่ใช่และชอบ และเจ้าของยังบอกว่า เขาจะไม่หยุดแต่งแค่นี้ เพราะมีเป้าหมายไปให้สุดได้อีก ซึ่งคอลัมน์ RacingMagazine ต้องชื่นชมไว้เลยครับ และคราวหน้ายังมีรถแต่งซิ่งและสวยมาให้ชมกันอีก อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ
Tech Spec
ภายนอก
ภายใน
เครื่องยนต์
ช่วงล่าง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook