HONDA CIVIC TYPE-R FD2 ม้าศึกทางเรียบลำใหม่ล่าสุดของรุ่น SUPER 2000 ใน TSS 2014 สังกัด Singha Eight TongLor By Pn90
ต้องยอมรับว่าในบ้านเราช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงฮอตของกีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบประเภทเซอร์กิต (Circuit) ถือว่าเป็นการแข่งที่บ้านเราเริ่มมีตั้งแต่รุ่นคาร์คลับไปจนถึงพวกซุปเปอร์คาร์กันเลยทีเดียว ทำให้การพัฒนาด้านการทำรถแข่งนั้นมีศักยภาพที่สูงมาก เทียบเท่ากับหลายๆ ประเทศที่เป็นต้นฉบับการแข่งขันรถประเภทนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งในคอลัมน์ Racing Magazine ครั้งนี้เราได้จับเอารถแข่งที่อยู่ในการแข่งขัน Thailand Super Series (TSS) ที่ต้องบอกว่ารถคันนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเพราะผ่านการแต่งรถจากช่างและทีมงานที่มีประสบการณ์สูงอย่างสำนัก Tuned By Lim ซึ่งผ่านงานด้านสนามแข่งเซอร์กิตมาหลายปี และด้วยประสบการณ์จากการทำรถลงในรุ่นซุปเปอร์คาร์นั้นเอง บวกกับความสามารถของนักแข่งระดับแถวหน้า จึงทำให้เจ้า Honda Civic FD2 TYPE R คันนี้ สามารถคว้าแชมป์สนามแรกจากรายการ Thailand Super Series (TSS)ของปี 2014 ที่จัดขึ้นที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (Sepang International Circuit) ประเทศมาเลเซีย ในรุ่นของ Super 2000 Class B ได้ทั้งสนาม 1 และสนาม 2 แถมพ่วงด้วยการคว้าที่ 3 ใน Over All สนามที่ 1 และ คว้าที่ 2 ใน Over All สนามที่ 2 อีกด้วย ซึ่งรายงานกันแบบสดๆ ร้อนๆ กันเลยทีเดียวเพราะเพิ่งแข่งจบไปไม่นานนี้เอง อ้อลืมบอกไปครับว่ารถคันนี้อยู่ในสังกัดทีมของ Singha Eight TongLor By Pn90 ซึ่งขับโดยคุณเก่ง พิษณุ ศิริมงคลเกษม (หากต้องการทำความรู้จักกับคุณเก่ง สามารถคลิกที่ชื่อได้เลยครับ) แหมข้อมูลมาซะแน่นขนาดนี้แล้วเราไปดูเรื่องของตัวรถกันบ้างดีกว่าครับ
ภายนอกดิบ ดุ ดัน สไตล์รถแข่ง
เริ่มจากภายนอกที่ต้องบอกว่าเหมือน Honda Civic ที่วิ่งอยู่ทั่วไปในถนนบ้านเรา แต่เมื่อต้องมาสู้ศึกรบในสนามแข่งจำเป็นมากในเรื่องของชุดแต่งรอบคัน ที่ทำให้ FD2 คันนี้ไหลลื่นตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด เริ่มจากกันชนด้านหน้าที่เพิ่มช่องดักลมขนาดใหญ่ทั้งซ้าย และขวาเพื่อใช้ลมที่ปะทะเข้ามาทำหน้าที่ระบายความร้อนให้ส่วนอื่นๆ เช่น แผงหม้อน้ำ และแผงออยคูลเลอร์ ต่างๆ เพื่อลดความร้อนได้เร็ว และดีที่สุด เสริมครีบดักลมซ้าย และขวาเพื่อให้อากาศผ่านตัวรถไปได้เร็วที่สุดเช่นกัน กระจกมองข้างทรงซิ่งในแบบของ Spoon ด้านข้างทั้งล้อหน้า-หลัง เสริมโป่งล้อเพื่อรองรับกับล้อแม็กที่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อความดุดันตามแบบฉบับรถแข่งเซอร์กิต เพราะมีฐานล้อที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร ในส่วนของด้านหลังเสริมเติมแต่งด้วยกันชนที่มาพร้อมกับแผง Diffuser ที่ทำหน้าที่รีดอากาศใต้ท้องรถให้ออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเมื่อมีลมไหลผ่านใต้ท้องรถน้อยก็ทำให้มีแรงต้านน้อยตามไปด้วย เหมาะมากสำหรับพวกรถแข่ง และรถที่ทำความเร็วสูง ที่ขาดไม่ได้คือหางหลังขนาดใหญ่สำหรับกดอากาศเพื่อเพิ่มแรงกดให้กับท้ายรถ ซึ่งทำจากวัสดุ Carbon Kevlar ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน ก็ถือว่าครบถ้วนสำหรับรถแข่ง ที่ขาดไม่ได้คือสติ๊กเกอร์จากสปอนเซอร์ หรือผู้สนับสนุนต่างๆ นั้นเอง ถือว่าสำคัญมากครับอันนี้ อิอิ
ภายในจัดเต็มด้วย COCKPIT FULL RACE
จะว่าไปแล้วส่วนที่ผมชอบที่สุดสำหรับพวกรถแข่ง หรือรถซิ่งนั่นก็คือบรรยากาศภายในห้องโดยสารนั่นเอง ลองมองเข้าไปแล้วมันชวนฝันจริงๆ เพราะด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ มันช่างยั่วน้ำลายยิ่งนัก แต่สำหรับรถแข่งที่ใช้งานจริงๆ แล้วอุปกรณ์ภายในนั้นจะต่างจากรถแต่ง ซิ่งเยอะอยู่พอสมควร เพราะจะใช้ของแค่ที่จำเป็นต้องมีเท่านั้น เนื่องจากระบบเรื่องของความปลอดภัย และเรื่องของการใส่อะไรเข้าไปเยอะแล้วไม่ได้ใช้มันจะหนักรถเปล่าๆ เป็นเหตุผลเหล่านี้เองจึงจำเป็นจะต้องทำการรื้อทุกอย่างทิ้งให้หมด ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลังรวมถึงพื้นพรมต่างๆ เพราะมันจะติดไฟได้ง่ายเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา เมื่อรื้อแล้วจำเป็นต้องสร้าง ROLLCASE หรือที่เราเรียกติดปากว่า ROLL BAR นั่นแหล่ะครับ เพื่อเสริมความแข็งแรงภายในห้องโดยสาร และเพื่อป้องกันนักแข่งเวลาเกิดอุบัติเหตุทั้งชน หรือพลิกคว่ำ จะช่วยให้นักแข่งปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นเปลี่ยนเบาะในสไตล์ Full Bucket Seat ของ Bride Gasdis เพื่อเพิ่มความกระชับคล่องตัวเวลาแข่งขัน และเสริมความมั่นใจด้วยเข็มขัดนิรภัยจาก Schroth Racing ที่เป็นของคู่กันแบบขาดไม่ได้ของรถแข่งเลยทีเดียว ด้านหน้าคอนโซลจัดการรื้อเรือนไมล์ชุดเดิมออก เพราะไม่สามารถบอกค่ารถต่างๆ ได้เพียงพอและจัดการใส่ Motec Display ตัวเดียวเท่านั้น รู้ละเอียดแบบครบเครื่องเลย พวงมาลัยก็เป็นของ OMP แบบหนังกลับสามารถถอดได้เวลาขึ้น-ลงจะไม่ลำบาก และโมดิฟายแกนพวงมาลัยใหม่ รวมทั้งชุดคันเกียร์แบบพิเศษที่มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ Sequential 6 speed พร้อมแป้นคลัตช์ แป้นเบรกและคันเร่ง ซึ่งออกแบบโดยสำนัก TUNED BY LIM นั่นเอง ที่เหลือก็จะมีระบบความปลอดภัยเช่น ถังดับเพลิง สวิทช์ตัดไฟ ฯลฯ รวมทั้งระบบ AIR JACK เพื่อสะดวกในการเซอร์วิสเวลาเปลี่ยนล้อ และยาง
ENGINE K20A BORN TO WIN
พาดหัวรองซะขนาดนี้แฟนๆ เครื่องยนต์อื่นๆ อย่าเพิ่งหมั่นไส้นะครับ เพราะเราคงต้องยอมรับกันแบบตรงๆ ว่า ยุคนี้ถ้าถามเรื่องเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีกำลังแรงมาก และโมดิฟายง่าย ของเล่นมากมาย คงหนีไม่พ้นเจ้า K20A ของทาง HONDA ซึ่งต้องบอกว่ามันตรงรุ่นสำหรับ Honda Civic FD2 TYPE R คันนี้ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดิมๆ ติดมาจากโรงงานเลย ที่มีแรงม้าติดตัวมาแค่ 225 แรงม้าเท่านั้น จะไปฟัดเหวี่ยงกับคนอื่นมันต้องมีของเด็ดกันหน่อยครับ ทางสำนัก TUNED BY LIM เลยต้องจัดเรื่องของความอึด และเหนียวขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก เริ่มจากก้านสูบที่หันมาใช้ของ ARP จากนั้นก็เปลี่ยนลูกสูบเป็นของ TODA ส่วนขนาดเท่าไหร่ และขั้นตอนการปรับแต่งในส่วนของเสื้อสูบอันนี้เรายังไม่ได้ข้อมูลที่ละเอียดนัก ซึ่งเป็นความลับทางราชการของสำนักนี้เท่านั้นเอง จากนั้นข้ามมาดูทางด้านฝาสูบอย่างรวดเร็วก็จะมีแคมชาร์ฟ TODA และ สปริงวาล์ว TODA และก็ตามสูตรของสำนักเช่นเคยซึ่งใครอยากรู้คงต้องนำรถไปลองทำกันเอง ในเรื่องของการนำเข้าอากาศเปลี่ยนลิ้นปีกผีเสื้อเป็นของ Skunk2 ขนาด 74 มิล. พร้อมท่อร่วมไอดีใหม่เช่นกัน และจัดการระบบไอเสียด้วยเฮดเดอร์ของ Skunk2 และชุดท่อไอเสียของ J’s Racing สำหรับในเรื่องของระบบน้ำมันก็มีปั๊มติ๊กขนาดจิ๋วแต่แจ๋วเป็นของ SARD ถึงตัวจะเล็กแต่แรงถึงใจกันเลยทีเดียว เลยทีเดียว โดยส่งผ่านรางหัวฉีดซิ่งของ OBX และเข้าสู่หัวฉีด Bosch ขนาด 720 ซีซี. ทำให้สบายใจได้ในเรื่องของการส่งเชื้อเพลิงทั้งรอบต่ำ และรอบสูง รับรองว่าไม่มีขาดช่วงแน่นอน และยังมีในส่วนอื่นๆ จุกจิกทั้งที่มองเห็น และมองไม่เห็นอีกมากมายเพราะรถค่อนข้างใช้ความละเอียดในการทำเป็นอย่างมาก บรรยายก็คงไม่หมดเอาเป็นว่าเรานำมาเล่าให้ฟังกันแบบคร่าวๆ แล้วกัน ซึ่งทำหมดที่บอกมานั้นก็ถูกควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งหมดด้วยเจ้า MOTEC M800 สมองกลอัจฉริยะสุดๆ และปรับจูนให้มันทำงานกันอย่างเมามันส์ และเข้ากันได้ด้วยดีจากปลายนิ้วของพี่ลิ้มนั่นเองครับ
เกียร์ลูกละล้าน + ระบบเบรค และช่วงล่าง แบบ Racing Circuit
อย่าเพิ่งตกใจไปครับ ครั้งแรกที่ได้ยินผมก็ไม่เชื่อว่า เกียร์บ้าอะไร มันจะแพงขนาดนั้น ได้ยินไม่ผิดครับแต่อันที่จริงแล้วมันเกินกว่านั้นอีกครับ เพราะของเดิมๆ ที่ติดรถมาจะเป็นเกียร์ธรรมดาแบบ H – PATTERN ทั้งหมด 6 สปีด ซึ่งก็เหมือนเกียร์รถบ้านทั่วๆ ไปครับ แต่นี่มันเป็นเกียร์ซิ่ง สั่งทำพิเศษ สำหรับรถคันนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทางเราต้องคำนวณน้ำหนักตัวรถ ระยะทางและเส้นทางของสนามแข่งรวมถึงส่วนควบอื่นๆ แล้วคำนวณเองว่าอยากได้ประมาณไหน จึงค่อยสั่งอัตราทดแต่ละเกียร์ และอัตราทดเฟืองท้ายไปตามผู้ผลิตเกียร์ ซึ่งเกียร์ลูกนี้เป็นของยี่ห้อ Sadev เป็นแบบ Sequential 6 speed ระบบการทำงานของมันก็ง่ายๆ ครับ ดึงเพิ่ม ดันลด เท่านั้น ซึ่งของที่มาในชุดนี้ก็จะมีแค่เกียร์ เพลา ชุดคลัทช์ มาให้ นอกนั้นเราต้องทำเองทั้งหมด ยากไหมล่ะ สำหรับชุดคลัทช์ที่เลือกใช้ตอนนี้ก็เป็นของ TILTON เพื่อสามารถจับแรงม้าที่เราผลิตทั้งหมดลงพื้นได้อย่างครบถ้วนทุกตัว และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของระบบเบรคและโช๊คอัพ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรถแข่งตัดสินกันตรงนี้ล่ะ ทำแค่รถแรงใครๆ ก็ทำได้ แต่เซ็ทช่วงล่างนี่สิมันยากยิ่งกว่า เคยได้ยินพวกเซียนๆ ในสนามเค้าพูดว่า ดูโช๊คอัพ ก็พอรู้แล้วว่าวิ่งอยู่ในตำแหน่งไหน นั่นแสดงว่ามันต้องสำคัญจริงๆ ก็สำหรับเจ้า Honda Civic FD2 คันนี้ ได้จัดชุดโช๊คอัพ ของ Titan Damper ซึ่งเหมาะสำหรับการแข่งขันมากเพราะผลิตมาเพื่อการแข่งเซอร์กิตโดยเฉพาะ และระบบเบรคหน้าก็เป็นของ Brembo 4 Pot พร้อมจานเบรก AP Racing เบรคหลังเป็น Project MU ก็สามารถหยุดฝูงม้าหลายร้อยตัวได้อย่างมั่นใจแล้ว และปิดท้ายด้วยชุดล้อแม็กสวยๆ จาก Enkei RPF1 ขอบ 17 นิ้วพร้อมกับยางสลิคของ Kumho รุ่น S700 ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของรถคันนี้นั่นเอง
ก็ถือว่า เป็นอันเสร็จสิ้น จบพิธีการสำหรับ FD2 คันนี้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม เพราะรถคันนี้มีการพัฒนาต่อไปอีกเรื่อยๆ ซึ่งสนามหน้าใครที่ติดตามการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในรายการ Thailand Super Series (TSS) 2014 ก็ลองดู และเชียร์รถแข่งคันนี้ได้นะครับ รับรองว่าทั้งรถแข่ง และนักแข่งจะทำให้คุณไม่ผิดหวัง นั่งลุ้นเชียร์กันแบบก้นไม่ติดเก้าอี้กันเลยทีเดียว รอบนี้ลากันไปก่อน รอบหน้า Boxzaracing.com จะจัดรถเจ๋งๆ อะไรมาให้พวกเราดูอีก ก็คอยติดตามรับชมกันแล้วกันนะคร้าบบบ
Tech Spec.
ภายนอก
ภายใน
เครื่องยนต์
ช่วงล่าง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook