TRUE VISION BOBBY HUNTER SUPER ONE RACE 2014

TRUE VISION BOBBY HUNTER SUPER ONE RACE 2014
 

 

          ศึกทางเรียบรายการ TRUE VISION BOBBY HUNTER SUPER ONE RACE 2014 (ทรูวิชั่นส์ บ็อบบี้ ฮันเตอร์ ซูเปอร์ วัน เรซ 2014 ) ในครั้งนี้จะเป็นสนามการแข่งขันที่ 3 แล้ว ซึ่งเปิดความแรงกันที่ สนามพีระฯ พัทยา (Bira International Circuit) กันอีกเช่นเลย ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมของการแข่งขันกันหลายๆ รุ่นไม่ว่าจะเป็น CLASSIC CAR OPEN, VIP BRACKET CLASS, PICK-UP 2500CC MODIFIED, 1600 MODIFIED, PICK-UP 2500CC PRODUCTION, JAPAN RETRO และเข้าสู่ช่วงถ่ายทอดสดใน TRUE VISION SPORT 3 ช่อง 683 ในรุ่น 1500 – 1600 PRODUCTION, OPEN UNLIMITED, ECO PRODUCTION + 1500 ONE MAKE RACE, 1500CC MODOFIED, 2000CC MODIFIED + AWD UNDER 3000CC, PICK-UP COMMONRAIL MODIFIED เดี๋ยวเราเริ่มมาดูบรรยากาศของการแข่งขันกันเลยดีกว่าครับ

          เริ่มต้นการแข่งขันในเรซที่ 5 ด้วยการแข่งขันในรุ่น CLASSIC CAR OPEN ที่มีรถเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 3 คัน  ซึ่งเป็นการประชันกันของรถ BMW E30 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) ประกอบไปด้วยตำแหน่งโพล โพซิซั่น หมายเลข 25 อัตตพจน์ ศรีพรหม หมายเลข 3 ภควัต สมบัติบูรณ์ และหมายเลข 24 Frank Teeuwen ทำการแข่งขันทั้งสิ้น 8 รอบสนาม โดยหมายเลข 25 ที่นำมาก่อนเกือบครึ่งทางการแข่งขันเกิดมีปัญหาทางด้านเทคนิค ปล่อยให้หมายเลข 24 และ หมายเลข 3 ขับเคี่ยวกันอย่างสบายๆ รับอันดับ 1 และ อันดับ 2 ตามลำดับ

          ต่อกันที่รุ่น VIP BRACKET CLASS ในเรซนี้ก็ยังคงเข้าร่วมการแข่งขันกันพร้อมหน้า 3 คัน กับรถแข่ง PORSCHE BOXSTER (ปอร์เช่) หมายเลข 32 ภิษณุ ภิษิตานนธกูร ในตำแหน่งโพล ตามมาด้วย CONCEPT CAR หมายเลข 58 พงษ์ พาวิทยลาภ, และ NISSAN GT-R (นิสสัน) หมายเลข 78 ไพรัตน์ จึงชิริยะ ทั้ง 3 คันนี้ขับเคี่ยวกันทั้งสิ้น 5 รอบสนาม ผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดต่อรอบสนาม ได้แก่ หมายเลข 32 อันดับ 2 หมายเลข 78 และอันดับ 3 หมายเลข 58 ตามลำดับ

        รุ่นที่ 3 ของการแข่งขันในเรซที่ 5 คือรุ่น PICK-UP 2500CC MODIFIED มีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 5 คัน วิ่งกัน 12 รอบสนาม แต่ละคันล้วนแล้วแต่มีนักแข่งดีกรีระดับประเทศใน คลาส เอ มาลงแข่ง ไม่ว่าจะเป็น ไพฑูรย์ ธรรมศิริกุล ในรถปิคอัพ ALL NEW ISUZU (อีซูซุ) หมายเลข 11, วรพจน์ บุญช่วยเหลือ ในรถปิคอัพ ISUZU V-CROSS หมายเลข 14, มานะ พรศิริเชิด ในรถ MITSUBISHI TRITON (มิตซูบิชิ ไทรทัน) หมายเลข 59 ซึ่งในรุ่นนี้ทำการปล่อยแบบ ROLLING START เข้าเบียดแย่งตำแหน่งผู้นำกันที่โค้งแรก โดยหมายเลข 11  สามารถเบียดขึ้นเป็นผู้นำในรอบแรกได้ ตามมาด้วยหมายเลข 59 และหมายเลข 14 ที่ต่างขับเคี่ยวกับขึ้นแย่งขึ้นตำแหน่งผู้นำกันอย่างหายใจรดต้นคอ จนมาถึงรอบกลางๆของการแข่งขัน หมายเลข 59 ก็อาศัยจังหวะเข้าโค้งเบียดขึ้นแซงหมายเลข 11 ที่เสียจังหวะไปก่อนหน้า ส่งผลให้หมายเลข 59 ขึ้นนำในรอบที่เหลือรับอันดับหนึ่งในเรซนี้ อันดับ 2 หมายเลข 11 และอันดับ 3 หมายเลข 14 สำหรับใน คลาส บี อันดับหนึ่ง ได้แก่ หมายเลข 7 ชวัลวิทย์ วาปีสิทธิพันธ์ และ คลาส ซี อันดับหนึ่ง ได้แก่ หมายเลข 98 อดิศักดิ์ สุขสว่าง

          เข้าสู่รุ่นที่ 4 ของการแข่งขัน TRUE VISION BOBBY HUNTER SUPER ONE RACE 2014 ในรุ่น 1600 MODIFIED (โมดิฟาย) รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีนักแข่งให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 18 คัน ส่วนใหญ่ใช้รถ HONDA (ฮอนด้า) อาทิเช่น HONDA BRIO (บริโอ้), HONDA CIVIC (ซีวิค) และ HONDA CITY (ซิตี้) เข้าแข่งขัน ทุกคันสามารถโมดิฟายด์รถแข่งได้อย่างเต็มที่ มีนักแข่งคลาส เอ หมายเลข 49 หทัย ชัยวรรณ รับอันดับ 1 ไปแบบชิวๆ ส่วนที่เหลือเป็นการขับเคี่ยวกันของนักแข่งในคลาส บี และ ซี โดยตำแหน่งออกสตาร์ทอันดับหนึ่ง คือหมายเลข 77 มาวิน บุญอิต นักแข่งคลาส บี อันดับ 2 หมายเลข 4 จิรัฐิ เศวตศิลา นักแข่งคลาส ซี จากทีม OMP VATTANA MOTORSPORT ทั้งสองอันดับ นักแข่งหลายคันต่างเร่งเครื่อง รีดพลังกำลัง กดคันเร่งกันสุดฝีเท้า จบ 12 รอบสนาม ส่งผลให้หมายเลข 77 หมายเลข 79 กนล ไชยกุลงามดี รับอันดับ 1 และอันดับ 2 ใน คลาส บี ส่วนใน คลาส ซี อันดับ 1 หมายเลข 4 จิรัฐิ เศวตศิลา นักแข่งคลาส ซี

          ตามมาติดๆ กับการแข่งขันรุ่น PICK-UP 2500CC PRODUCTION สาวกปิคอัพตัวแรงห้ามพลาดการประชันกันของรถกระบะ ALL NEW CHEVROLET (เชฟโรเลต), ISUZU และ MITSUBISHI ที่จัดเต็มกับการปรับแต่งเครื่องยนต์มาแรงเต็มพิกัด กับจำนวนรถแข่งรวม 10 คัน ที่พุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ทด้วยวิธี ROLLING START ผู้ที่เบียดแย่งตำแหน่งผู้นำในโค้งแรกไม่ใช่ใครที่ไหน หมายเลข 29 เล้ง มังกรไฟ จรัส แจ้งกมลกุลชัย นักแข่งเกรด A ในรถกระบะ CHEVROLET ที่นำแบบม้วนเดียวจบ 12 รอบสนาม รับอันดับ 1 ไปครอง สำหรับในคลาส บี อันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 7 ชวัลวิทย์ วาปีสิทธิพันธ์ ในรถปิคอัพ ISUZU และ คลาส ซี อันดับหนึ่ง ได้แก่ หมายเลข 98 อดิศักดิ์ สุขสว่าง ในรถปิคอัพ ISUZU เช่นเดียวกัน

          รุ่นสุดท้ายก่อนเข้าสู่ช่วงถ่ายทอดสดกับรุ่นที่เอาใจผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์ JAPAN RETRO จะได้เห็นรถที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองในสไตล์ญี่ปุ่นก่อนที่จะได้รับการพัฒนามาเป็นรถรุ่นต่างๆ ที่เราเห็นในปัจจุบัน สำหรับการแข่งขันในรุ่นนี้มีรถแข่งเข้าร่วมมากที่สุดในเรซนี้ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 29 คัน ไม่ว่าจะเป็นรถ TOYOTA KE70 (โตโยต้า), NISSAN SUNNY (นิสสัน), DATSUN (ดัทสัน) และ MAZDA 800 (มาสด้า) แข่งขันกันทั้งหมด 8 รอบสนาม ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลคือ หมายเลข 100 พรชัย รัตนกิจ แต่น่าเสียดายแข่งไม่จบการแข่งขันในเรซนี้ ทำให้หมายเลข 97 MARK PETER ในรถ TOYOTA KE70 ที่ออกตัวจากจุดสตาร์ทมาเป็นอันดับ 2 ขึ้นตำแหน่งผู้นำ รับอันดับ 1 ในรุ่น RETRO UNDER 2000CC คลาส บี ตามมาด้วย หมายเลข 66 สุเมธ อุตรวานิช ในรถ TOYOTA KE70 เช่นเดียวกัน รับอันดับ 1 ในรุ่น RETRO OPEN คลาส ซี และ มานะ พรศิริเชิด ในรถ TOYOTA DX ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นนี้ด้วย รับอันดับ 1 ในรุ่น RETRO UNDER 1600CC คลาส เอ (CLASS) ไปครอง

          เข้าสู่ช่วงถ่ายทอดสดทาง TRUE VISION SPORT 3 ช่อง 683 ในเวลา 15.00 น. กับรถรุ่นยอดนิยมในรุ่น 1500 – 1600 PRODUCTION รถที่เรียกได้ว่าใช้งานในชีวิตประจำวัน จับมาปรับแต่งเครื่องยนต์และแปลงสภาพตัวถังให้สามารถลงทำการแข่งขันได้ ส่วนใหญ่เป็นรถ TOYOTA VIOS, TOYOTA NEW YARIS, HONDA JAZZ, MITSUBISHI LANCER CEDIA  ในเรซ 5 นี้ มีรถเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 26 คัน นักแข่งที่ทำเวลาในรอบควอลิฟายด์ได้ดีที่สุดคือ หมายเลข 69 ฉัตรพล เจียมวิจิตร จากทีม RMI RACING TEAM BY WAXY เข้าตำแหน่ง โพล โพซิซั่น ในรถ HONDA JAZZ ตามมาด้วย หมายเลข 4 ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จากทีม PTT PERFORMAN-RPM-SINGHA ในรถ FORD (ฟอร์ด) วิ่งครบรอบ รับอันดับ 1 นักแข่งคลาส เอ ไปครอง สำหรับ คลาส บี อันดับ 1 ได้แก่ ฉัตรพล เจียมวิจิตร จากทีม RMI RACING TEAM BY WAXY และคลาส ซี ได้แก่ ยศรัณ แสนสุข จากทีม BILLIONAIRE BOY RACING (BBR) ซึ่งทั้ง 3 คันต่างก็รักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ตั้งแต่เริ่มสตาร์ทจนจบ 12 รอบการแข่งขัน โดยไม่มีการพลิกล็อกแต่อย่างใด

          ตามมาด้วยรุ่นแรงสุดกับรุ่น OPEN UNLIMITED ที่เห็นรายชื่อรถที่เข้าร่วมแข่งแล้วก็ต้องเกาะขอบสนามไว้ไม่ห่าง ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์คาร์ตัวแรงอย่าง LAMBORGHINI FL II (แลมโบกินี่) ของหมายเลข 28 ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ทีม OMP VATTANA MOTORSPORT หรือรถสายพันธุ์ญี่ปุ่นอย่าง MITSUBISHI EVOLUTION (อีโวลูชั่น‎) เกือบทุกเจเนอเรชั่น รวมไปถึงรถ TOYOTA KE70 เรทโทรตัวเก๋าเข้าร่วมการแข่งขันในเรซนี้ด้วย และเป็นไปตามคาดหมาย LAMBORGHINI หมายเลข 28 ของชนม์สวัสดิ์ก็ขึ้นนำตั้งแต่ออกตัวแบบ ROLLING START ทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่นทั้ง 12 รอบ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในนักแข่งคลาส เอ สำหรับคลาส บี อันดับ 1 หมายเลข 97 MARK PETER แบบลอยลำ ทำให้ต้องมาลุ้นนักแข่งใน คลาส ซี ที่มาให้ใจหายใจคว่ำกันรอบสุดท้ายทางตรงก่อนเข้าเส้นชัย เมื่อหมายเลข 90 ประทีป ตันประเสริฐ อาศัยกำลังเฮือกสุดท้ายของเครื่องยนต์กดไล่ตีคู่หมายเลข 82 ไมตรี แซ่เล้า แซงขวาขึ้นมา แต่ไมตรีเบียดสู้ทำให้ประทีปเกือบชนบังเกอร์ เสียจังหวะยกคันเร่ง ส่งผลให้ ไมตรี รับอันดับ 1 และ 2 ของนักแข่งคลาส ซี

          หลังจากลุ้นกับหายใจไม่ทันกับรุ่นที่แล้วไป มาถึงรุ่นเครื่องยนต์เล็กๆ อย่าง ECO PRODUCTION และ 1500 ONE MAKE RACE รถที่ใช้เครื่องยนต์ไม่เกิน 1500CC แบบเดิมๆ ที่มาร่วมแข่งขันเกือบล้นสนาม 25 คัน แข่งพร้อมกันในเรซเดียว ซึ่งในรุ่น ECO PRODUCTION มีรถอีโคคาร์ที่ใช้ในการแข่งขัน 3 รุ่น คือ HONDA BRIO, SUZUKI SWIFT (ซูซูกิ สวิฟ) และ MITSUBISHI MIRAGE (มิตซูบิชิ มิราจ) แต่เหมือนจะเป็นการชิงชัยของ HONDA BRIO มากกว่า โดยเรซนี้มีการสะกิดกันข้ามรุ่นเล็กน้อยในรอบแรกของการแข่งขันระหว่าง หมายเลข 24 เขมริช บอนพุดซา รถแข่ง MITSUBISHI MIRAGE กับหมายเลข 57 MOH TZE YANG แต่ไม่เป็นอะไรมากสามารถแข่งต่อไปได้ หลังจากนั้นไม่นานในรอบที่ 4 หมายเลข 78 พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธิ์ ในรถ HONDA BRIO เครื่องน็อค ต้องออกจากการแข่งขัน มาดูในตำแหน่งผู้นำรุ่นนักแข่งคลาส ซี ของหมายเลข 22 ภูมี พรหมาธรรม ที่ออกสตาร์ทตำแหน่งแรกก็ขึ้นนำจนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ตามมาด้วยหมายเลข 86 นพพล เชิดชูสัตย์ ในอันดับ 2 และหมายเลข 66 ชิติพงษ์ บุญบางยาง รับอันดับ 3 ทั้ง 3 อันดับใช้รถ HONDA BRIO ในการแข่งขัน และในคลาส บี อันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 44 เดวิธ อยู่เป็นสุข ส่วนรุ่น 1500 ONE MAKE RACE ที่ขับเคี่ยวกันอย่างเมามันที่ส่วนใหญ่ใช้รถ TOYOTA VIOS และ YARIS แข่งกันจนครบ 8 รอบสนาม หมายเลข 87 นิวัฒน์ กลิ่นจำปา เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 หมายเลข 78 ไพรัตน์ จึงพิริยะ ในรุ่น TOYOTA YARIS และ หมายเลข 33 ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญชนะเลิศในรุ่น TOYOTA VIOS คลาส ซี

          ขยับความแรงขึ้นมาอีกระดับในรุ่น 1500CC MODIFIED ที่มีรถแข่งเข้าร่วมในเรซนี้ 15 คัน รถแข่งที่สามารถปรับแต่เครื่องยนต์ได้หมด จึงมีรถหลากหลายรุ่นเข้ามาแข่งขันในเรซนี้ ในรุ่นนักแข่งคลาส บี ผู้ที่เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 34 คมกฤษณ์ เลิศล้ำประเสริฐ จากทีม T24 BIG THAILAND RACING CAR อันดับ 2 หมายเลข 3 ชนุชา ปัญญารุ่งเรืองจากทีม เงากลการ 33 AUTO และอันดับ 3 หมายเลข 13 เดวิธ อยู่เป็นสุข INNER LINE TPR PROJECT สำหรับนักแข่งในคลาส ซี รุ่นนี้ อันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 33 ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ ทีม 33 AUTO เงากลการ อันดับ 2 หมายเลข 8 อธิป ภูวนานนท์ ทีม ช.ช้าง เรซซิ่ง และอันดับ 3 หมายเลข 26 นราวุธ รักษากุล INNER LINE TPR PROJECT

          เรซนี้เป็นการแข่งขันในรุ่น 2000CC MODIFIED กับ AWD UNDER 3000CC ซึ่งมีรถแข่งทั้งสิ้น 18 คัน วิ่ง 10 รอบสนามพีระเซอร์กิต รุ่นนี้ก็มันสะใจไม่เบา เมื่อเสียงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่โมดิฟายด์กันมาอย่างเต็มพิกัด รวมทั้งเครื่องยนต์เกือบ 3.0 ลิตร ปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ท ต่างฝ่ายก็กดคันเร่งเพื่อแซงขึ้นเป็นผู้นำในคลาสของตัวเอง นักแข่งคลาส เอ รุ่น 2000CC MODIFIED อย่าง หมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ วิ่งสบายๆ รับอันดับ 1 หน้าที่การสร้างความมันจึงตกเป็นของนักแข่งในคลาส บี และ ซี ที่ไล่บี้กันเต็มที่แบบไม่ยอมกัน จบ 10 รอบ อันดับ 1 ของคลาส บี ได้แก่ หมายเลข 41 ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล จากทีม RAMINTRA TURBO (เทอร์โบ) และอันดับ 1 ของคลาส ซี ได้แก่ หมายเลข 4 จิรัฐ เศวตศิลา VATTANA MOTORSPORT ส่วน AWD UNDER 3000CC คลาส ซี อันดับ 1 กับรถแข่ง MITSUBISHI EVOLUTION 7 หมายเลข 55 ภิษณุ ภูษิตานนธกร จากทีม MILLERS OIL TOYOTA PATTAYA 1998

          สำหรับ PICK-UP COMMONRAIL MODIFIED (คอมมอนเรล โมดิฟาย) รถปิคอัพแรงสุด มันสุด เบียดจริง ชนจริง หลุดจริง พังจริง เกิดขึ้นในเรซนี้ กรรมการปล่อยรถรุ่นนี้โดยการ ROLLING START เมื่อไฟเขียวดับลง รถปิคอัพทั้ง 12 คัน ก็พุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ท เพื่อแย่งขึ้นนำก่อนได้เปรียบ และเป็นไปตามคาดของนักแข่งมือเก๋า วรพจน์ บุญช่วยเหลือก็ซิวอันดับ 1 นักแข่งคลาส เอ ไปในเรซนี้ ส่วนนักแข่งคลาส บี อันดับหนึ่ง หมายเลข 7 ชวัลวิทย์ วาปีสิทธิพันธ์ และคลาส ซี อับดับ 1 หมายเลข 18 HIRIYUKI KORAYASHI

สำหรับใครที่ติดตามการแข่งขันรายการ S1R นี้แล้วยังไม่สะใจ แนะนำว่าสนามหน้าไปเยี่ยมชมกันถึงขอบแทร็คเลยดีกว่าครับ รับรองว่าได้ลุ้นกันแบบนั่งไม่ติดเลยทีเดียว และได้เปลี่ยนบรรยากาศในการพักผ่อนอีกด้วย ส่วนจะเริ่มแข่งกันเมื่อไหร่และที่ไหนนั้น
สามารถติดตามได้ที่ BOXZARACING ได้เลยนะครับ...