Mercedes-Benz เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่น ที่ประกอบในไทยอย่าง GLA Class และ CLA Class
Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดด้วยการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่น ที่ประกอบในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอย่าง Benz GLA รถ SUV ระดับพรีเมี่ยม ที่แฝงไปด้วยความสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยว ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น คือ GLA 200 Urban ที่ประกอบในบ้านเราจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,090,000 บาท ส่วนรุ่น GLA 250 AMG Dynamic จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,440,000 บาท ต่อด้วย Benz CLA รถคอมแพ็คคูเป้ 4 ประตู ที่ให้รูปลักษณ์ภายนอกสุกปราดเปรียว โดยจะมาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่นคือ CLA 200 Urban ที่ประกอบในบ้านเราจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,140,000 บาท ส่วนรุ่น CLA 250 AMG Dynamic จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,490,000 บาท
เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม Mercedes-Benz จึงไม่หยุดนิ่งที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสะท้อนคุณค่าหลักของแบรนด์ ที่ให้ความสมบูรณ์แบบ และความหลงใหล โดยแนวทางการทำตลาดของ Benz ในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าในกลุ่มยังก์เจนเนอเรชั่น ด้วยการสร้างสีสันครั้งใหม่อย่าง Mercedes-Benz GLA รถ SUV ระดับพรีเมี่ยม และ Mercedres-Benz CLA รถคอมแพ็คคูเป้ 4 ประตู ซึ่งรถ 2 รุ่นนี้ นับเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย
มร.มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท Mercedes-Benz (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “Benz GLA 2015 และ Benz CLA 2015 รุ่นประกอบในไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่กลุ่มลูกค้ายังก์เจนเนอเรชั่นในการเป็นเจ้าของรถยนต์ Mercedes-Benz ที่มาพร้อมการดีไซน์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และทรงพลัง ต่อด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถพบกับ Benz GLA 2015 และ Benz CLA 2015 พร้อมกับยนตกรรมอีกหลายรุ่นภายในงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดม ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 4 ตุลาคมนี้ ณ สตาร์โดม ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือผู้จำหน่าย Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงาน พร้อมจัดไฟแนนซ์กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่ง ภายใต้โปรแกรม mySTAR Special รับสิทธิพิเศษในการชำระค่างวดขั้นต่ำเพียง 1% ของราคารถยนต์ทันที อีกทั้งยังประหยัดดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้นตลอดอายุสัญญา”
Mercedes-Benz GLA 2015 จะมาพร้อมการออกแบบที่ห้ความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และปลอดภัย โดยดีไซน์ภายนอกจะสื่อถึงพลัง และความสุขุม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าครีบระบายอากาศคู่ ที่ช่วยเน้นให้ตัวรถกว้างขึ้น โดยครั้งนี้ได้เปิดตัว GLA 200 Urban และรุ่น GLA 250 AMG Dynamic ที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเงิน เสริมด้วยโครเมี่ยม 2 แถบ ต่อด้วยกันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมี่ยม และขอบหน้าต่างโครเมี่ยม อีกทั้งยังเสริมความสวยงามด้วยไฟหน้า bi-xenon และไฟ Daytime ทั้งนี้ GLA 200 Urban จะมาพร้อมล้ออัลลอยทูโทน 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ส่วน GLA 250 AMG Dynamic จะมาพร้อมล้ออัลลอยที่ใความสปอร์ตที่มากกว่า คือล้ออัลลอยจาก AMG ขนาด 19 นิ้ว เสริมด้วยชุดแต่ง AMG bodystylling ที่บริเวณด้านหน้า-หลัง และข้าง เสริมความสปอร์ตด้วยดิสก์เบรคหน้าที่มีช่องระบายความร้อน และคาลิปเปอร์ที่มีสัญลักษณ์ของ Mercedes-Benz แต่ทั้งนี้ก็ยังเพิ่มความเหนือระดับด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ด้านดีไซน์ภายในได้ถูกออกแบบให้มีความทันสมัย และความสปอร์ตที่สง่างาม โดย GLA 200 Urban จะถูกตกแต่งห้องโดยสารด้วยเบาะนั่ง และแผงประตูหุ้มหนัง Artico อีกทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เครื่องเสียง วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ส่วน GLA 250 AMG Dynamic จะถูกตกแต่งเบาะที่นั่งด้วยหนัง ARTIC สลับ DINAMICA microfiber สีดำตัดด้วยด้ายสีแดง ต่อด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น แผงประตูที่บุด้วย DINAMICA microfiber สีดำ นอกจากนี้ยังติดตั้งปุ่ม Push Start ระบบเชื่อมต่อสื่อบันเทิง และอุปกรณ์เครื่องเสียงอย่าง วิทยุ-ซีดี MB Audio20 พร้อมเครื่องเล่น CD 6 แผ่น
นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังติดตั้งเบาะที่นั่งที่สามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยสามารถพับได้ทั้ง 1:3/2:3 ตามความต้องการในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น สำหรับ GLA 250 AMG Dynamic จะเพิ่มความพิเศษตรงที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ แบบ 2 โซน และระบบปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติ
โดย Mercedes-Benz GLA 200 Urban จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบแถวเรียง พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งจะให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที สามารถทำอัตรารการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลา 8.1 วินาที และยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 215 กม./ชม. ส่วนเวอร์ชั่นที่ประกอบในบ้านเราจะมีเครื่องยนต์เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งตัว นั่นก็คือ Benz GLA 250 AMG Dynamic ที่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 กม./ชม. แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที ซึ่งทำให้มีอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียงเวลา 6.6 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กม./ชม. โดยจะทำงานร่วมกับเกียร์ออโต้ 7 สปีด แบบ 7G-DCT
ส่วน CLA 200 Urban จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1.6 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที สามารถทำอัตรารการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลา 7.9 วินาที และยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กม./ชม. ส่วนในรุ่น CLA 250 AMG Dynamic จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งจะให้พละกำลัง 211 แรงม้า ที่ 5,500 กม./ชม. แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที และจะมีอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.5 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม. เลยทีเดียว
