Chevrolet Malibu เผยราคาที่ทุกคนต้องบอกว่า คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
Chevrolet (เชฟโรเลต) ได้ประกาศเปิดตัวราคาของรถซีดานขนาดกลางที่แฟนๆ ต่างเฝ้ารอกันมานานอย่าง Malibu (มาลิบู) ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 22,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 811,000 บาท
โดย Chevrolet Malibu รุ่น L ได้ถูกติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และออฟชั่นต่างๆ มาให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ CD พร้อมลำโพง 6 ตัว ต่อด้วยกระจกไฟฟ้า และเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังมี Push Start มาให้อีกด้วย ส่วนทางด้านเครื่องยนต์ของ Malibu รุ่น L จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Ecotec 1.5 ลิตร ให้กำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 249 นิวตันเมตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ออโต้ 6 สปีด สามารถประหยัดได้มากถึง 15.87 กม./ลิตร เลยทีเดียว โดย Chevrolet Malibu รุ่น L จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 22,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 811,000 บาท
ต่อด้วย Chevrolet Malibu รุ่น LS ที่จะเพิ่มหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ที่รองรับระบบ MyLink infotainment, ระบบ Apple CarPlay / Android Auto และกล้องมองหลังเข้ามา โดยรุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 23,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 865,000 บาท บาท
ส่วน Malibu รุ่น LT จะติดตัั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมาให้มากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL และเบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง นอกจากนี้ยังจะมาพร้อมเครื่องยนต์ที่แรงขึ้นอีกด้วย โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Ecotec ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ออโต้ 8 สปีด แต่ก็ยังคงมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Ecotec 1.5 ลิตร ให้ได้เลือกใช้กันเหมือนเดิม โดยรุ่น LT จะมีราคา 25,895 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 933,000 บาท
ปิดท้ายด้วย Chevrolet Malibu รุ่น Premier ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด ที่จะติดตั้งฟังก์ชั่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายสุดแสนพิเศษมาให้ โดยเริ่มจากระบบ MyLink infotainment ที่ทำงานผ่านหน้าจอทัชสกรีนใหญ่สุด 8 นิ้ว และเบาะที่นั่งด้านหน้ามีระบบอุ่นให้ได้ใช้งานในยามอากาศหนาว โดย Malibu รุ่น Premier จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Ecotec ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่มีให้เลือกใช้แค่ตัวเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ Chevrolet Malibu ยังมีความพิเศษอีกหนึ่งจุด ที่ทำให้เป็นรถที่น่าจับตามอง นั่นก็คือตัวถังของรถที่ยาวกว่าเดิมถึง 58 มม. และฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่าเดิม 91 มม. แต่จะให้น้ำหนักที่เบาลงกว่า 136 กก. อีกทั้งยังเพิ่มความสะบายในการเดินทางด้วยห้องโดยสารด้านหลังขยายเพิ่มขึ้นอีก 33 มม. จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงมีคนติดตามรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการมากมาย
