Nissan Teana VS. Honda Accord ประชันที่สุดแห่งความสะดวกสบาย
สำหรับรถยนต์ซีดานขนาดกลาง (D Segment) เป็นรถยนต์หรูสำหรับครอบครัวไม่เกิน 5 ที่นั่ง ต้องการความสุขสบายในการขับขี่ภายในเมือง หรือต้องการความกว้างขวางของห้องโดยสาร รถยนต์ประเภทนี้ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้ดีทีเดียว ซึ่งทาง BoxzaRacing ได้ทำการนำคู่เปรียบเทียบรถขนาดใหญ่ที่ทำตลาดในเมืองไทย ได้แก่ Nissan Teana VS. Honda Accord แม้ทั้งสองจะเปิดตัวมานาน แต่ความสะดวกสบายและความทันสมัยก็ยังสามารถสู้กันได้อย่างขับเคี่ยวไม่แพ้รถรุ่นใหม่ล่าสุดได้อยู่ และนี่เป็นที่มาของการจับคู่เปรียบเทียบในครั้งนี้
สำหรับรุ่นที่จะเปรียบเทียบวันนี้ ทางด้านนิสสัน ขอส่งรุ่น Nissan Teana 2.5 XV NAVI ส่วนทางฮอนด้า ขอส่งรุ่น Honda Accord 2.4 TECH โดยจะเป็นรุ่นท็อปสุดทั้งคู่ เมื่อได้คู่ที่เหมาะสมกันแล้วก็จะเริ่มเจาะรายละเอียดทีละส่วนๆ กัน
ภายนอก
ด้านภายนอกของ Nissan Teana ให้ความสวยงามที่เรียบง่าย และจัดอ็อพชั่นพื้นฐานที่ครบครัน โดยเฉพาะไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟกลางวัน LED Daylight และไฟตัดหมอก, เสริมโครเมียมในจุดต่างๆ ทั้งกระจังหน้า ขอบหน้าต่าง กับฝากระโปรงท้าย พร้อมท่อไอเสียคู่ ทั้งนี้อ็อพชั่นไฟหน้ารถเพิ่มความกิ๊บเก๋ด้วยระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้าเพื่อทำความสะอาดโคมไฟหน้า พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ อ้อ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
สำหรับ Honda Accord มีการออกแบบตัวถังภายนอกที่ให้ความทันสมัย สวยงาม ด้วยโคมไฟหน้า โปรเจคเตอร์พร้อมไฟกลางวัน LED Daylight ที่ออกแบบอยู่ในชุดเดียวกัน ไฟตัดหมอกที่มาในรูปแบบหลอด LED สวยงาม ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่กล้องใต้กรอบกระจกมองข้างสำหรับการจับภาพบริเวณจุดบอดของรถ และล้ออัลลอย 18 นิ้ว
หลังจากเปรียบเทียบภายนอกกันแล้วก็เข้าสู่การเปรียบเทียบของมิติตัวถัง ระหว่าง Nissan Teana และ Honda Accord ซึ่งจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
มิติตัวถัง | Nissan Teana | Honda Accord |
พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,875 x 1,830 x 1,490 |
4,870 x 1,850 x 1,465 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,775 | 2,775 |
ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
1,585 - 1,585 | 1,584 - 1,586 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 135 | 141 |
น้ำหนักรถ (กก.) | 1,516 | 1,575 |
ความจุของถังน้ำมัน (ลิตร) | 65 | 65 |
ภายใน
ด้านการออกแบบภายในนั้น Nissan Teana ได้ออกแบบให้มีความหรูแต่เรียบง่ายด้วยห้องโดยสารสีดำ(มีสีเบจให้เลือก) และแต่งด้วยวัสดุสีเงินแบบพรีเมี่ยม พร้อมอ็อพชั่นอำนวยความสะดวกที่ครบทุกการใช้งานจริง ไม่ขาด ไม่เกิน เริ่มจากการออกแบบแผงคอนโซลที่ประกอบไปด้วย มาตรวัดหน้าปัดคู่พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ 3 มิติ ที่ให้ทั้งความสวยงามและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจสอบข้อมูลรถ, ระบบแจ้งเตือนต่างๆ, ระบบแจ้งทางแยก เป็นต้น โดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาไปมองที่จอตรงกลางบ่อยๆ ระบบจออินโฟเทนเมนต์ที่รองรับทุกระบบอำนวยความสะดวก ทั้งระบบนำทาง กล้องมองหลังและกล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบความบันเทิง เป็นต้น และ ดื่มด่ำกับคุณภาพเสียงชั้นเยี่ยมของระบบเครื่องเสียง BOSE ที่มาพร้อมซับวูฟเฟอร์และลำโพง 9 จุดรอบคัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบควบคุมความเร็ว (Criuse Control) ปุ่มระบบ ECO Mode และปุ่มสตาร์ทรถที่มาพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะ ไฮไลท์อยู่ที่...ในรุ่นนี้จะมีหลังคาซันรูฟเพิ่มความหรูหราด้วย
ด้านความสะดวกสบาย ประกอบไปด้วยเบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง 3 ที่นั่งที่ให้เข็มขัด ELR 3 จุด 3 ที่นั่งครบ แถมเบาะกลางสามารถพับเพื่อเป็นที่วางแขนพร้อมที่วางของได้อีกด้วยพร้อมช่องปรับอากาศด้านหลังเพื่อให้ความเย็นเข้าถึงได้ทั่วห้อง สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายได้เผยว่ามีขนาดอยู่ที่ 488 ลิตร แถมเบาะหลังสามารถพับเบาะหลังแบบ 40:60 เพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นได้อีกด้วย
ทางด้าน Honda Accord เองก็มีการออกแบบห้องโดยสารให้หรูพร้อมอ็อพชั่นอันทันสมัยมากมาย แต่ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่กระจกสีเขียวสำหรับกรองแสงจากภายนอกไม่ให้แรงเกินไปจนทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารลำบากใจ แถมยังปรับสภาพแสงของวิสัยทัศน์ให้ดูสบายตายิ่งขึ้น เสริมม่านบังแดดแบบดึงด้วยมือและระบบไฟฟ้าเพื่อลดแสงและอุณหภูมิภายในห้องได้ตามต้องการ พร้อมหลังคาซันรูฟสีชาเพิ่มความหรูและความโปร่งสบายมากขึ้น
สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสารที่มากกว่าคำว่าหรูหรา แต่ให้ความทันสมัยทุกมุมมอง โดยสีห้องโดยสารหลักจะเป็นสีเบจตัดกับสีดำพร้อมเสริมลายไม้บนแผงคอนโซล, แผงเกียร์และพวงมาลัย มาตรวัดแบบสปอร์ตพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาดเล็ก ทีเด็ดอยู่ที่จอบนคอนโซลกลางที่มีทั้ง 2 จอ โดยจอแรกเป็นจอฉายภาพ ส่วนจอด้านล่างเป็นจอควบคุมแบบสัมผัส เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้ดียิ่งขึ้นแถมใช้งานไม่ยุ่งยากเกินไป, ระบบปรับอากาศแยกซ้าย-ขวา, ระบบควบคุมความเร็ว (Criuse Control) ปุ่มระบบ ECON Mode และปุ่มสตาร์ทรถที่มาพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะก็มีให้เหมือนกัน
ทางด้านความสะดวกสบายของเบาะที่นั่งโดยสาร ประกอบไปด้วย ที่นั่งคนขับแบบปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ ส่วนผู้โดยสารนั่งหน้าก็มีปุ่มปรับที่นั่ง 4 ทิศทางบนพนักพิงเบาะหลัง กดสะดวกยิ่งขึ้น ด้านเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง 3 ที่นั่งที่ให้เข็มขัด ELR 3 จุด 3 ที่นั่งครบ แถมเบาะกลางสามารถพับเพื่อเป็นที่วางแขนพร้อมที่วางของแถมยังสามารถเปิดฝาทะลุห้องสัมภาระท้ายได้ด้วย จึงทำให้พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีอุณหภูมิที่เหมาะสม และช่องปรับอากาศด้านหลังเพื่อให้ความเย็นเข้าถึงได้ทั่วห้อง
เครื่องยนต์
ในส่วนของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
Nissan Teana ใช้เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Twin C-VTC ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 173 แรงม้า (127กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 234 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วย XTRONIC CVT
ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย ระบบช่วงล่างหน้าเป็นแบบ อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบช่วงล่างหลังอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคหน้า ดิสก์เบรคแบบมีช่องระบายความร้อน กับระบบเบรคหลังเป็นดิสก์เบรค ส่วนระบบพวงมาลัยเป็น HEPS (Hydraulic Electric Power Steering System) พร้อม Speed Sensor ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.1 เมตร
เครื่องยนต์ของ Honda Accord
Honda Accord ใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร DOHC 4 สบู 16 วาลว์ i-VTEC Earth Dream Technology ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 174 แรงม้า (128กิโลวัตต์) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมระบบ Eco Assist สำหรับปรับโหมดประหยัดพลังงาน
ส่วนระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยระบบช่วงล่างหน้าเป็นแบบ อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบช่วงล่างหลังมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคหน้า ดิสก์เบรคแบบมีช่องระบายความร้อน กับระบบเบรคหลังเป็นดิสก์เบรค แร็คแอนด์พิเนียน พร้อมเพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.9 เมตร
ระบบความปลอดภัย
ในรายละเอียดของระบบความปลอดภัย ทั้ง Nissan Teana และ Honda Accord มีรายละเอียดดังนี้
ระบบความปลอดภัย (ทั้งหมด) |
Nissan Teana |
Honda Accord |
เทคโนโลยีเด็ด |
ระบบช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ - ระบบเตือนให้รักษา - ระบบเตือนจุดอับสายตา - ระบบเตือนวัตถุ |
- ระบบเตือนการชน - ระบบแสดงภาพ |
ชุดถุงลงนิรภัย | คู่หน้า ด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมด้านข้าง |
คู่หน้า Dual i-SRS |
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR |
แบบดึงรั้งกลับ |
แบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรง อัตโนมัติ |
เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR |
3 ตำแหน่ง 3 ที่นั่ง |
3 ตำแหน่ง 3 ที่นั่ง |
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) | * | * |
ระบบกระจายแรงเบรค(EBD) | * | * |
ระบบเสริมแรงเบรค (BA) | * | * |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) | * | * |
ระบบควบคุมเสถียรภาพ การทรงตัว (VSA) |
VDC | * |
ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MA-ESP) |
- | * |
ระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (ATC) | * | - |
ระบบช่วยออกตัว บนทางลาดชัน (HSA) |
* | * |
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ | * | * |
ไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
ไฟเบรคดวงที่ 3 | * | แบบ LED |
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) |
* | * |
ที่ฉีดน้ำทำความสะอาดไฟหน้า | * | - |
ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
สัญญาณเตือนกะระยะ | ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมเชื่อมต่อกับ หน้าจอแบบ 3 มิติ (3D Display) |
- |
ไฟสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรคกระทันหัน |
* | * |
กล้องรอบทิศทาง (Around View Monitor) |
* | - |
กล้องมองหลัง | * | ปรับมุมมอง 3 ระดับ |
ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobiliser | * |
* |
ระบบแจ้งเตือนกันขโมย | * |
* |
ราคา
Nissan Teana 2.5 XV NAVI มีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 1,641,000 บาท
Honda Accord 2.4 TECH มีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 1,799,000 บาท
สรุป
Nissan Teana อาจเป็นรองเรื่องความทันสมัยของภาพลักษณ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าย Nissan ยังคงจุดยืนในสไตล์ที่หรูหรา เหนือระดับตามที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ทางด้านความทันสมัยของเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยที่สดใหม่ และจัดเต็มมากที่สุด พร้อมเทคโนโลยีส่งกำลัง XTRONIC CVT ที่ยังให้ประสิทธิภาพการควบคุมความเร็วที่ดีอยู่ แถมมีราคาที่ไม่แพงด้วย แม้จะเป็นเครื่องเบนซินขนาด 2.5 ลิตร อีกทั้ง...หากพูดถึงเรื่องความสะดวกสบายและคุณภาพในห้องโดยสาร ค่าย Nissan ไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
Honda Accord ได้เปรียบทั้งรูปลักษณ์ที่ทันสมัยในด้านของหน้าตากับกระจกกรองแสงสีเขียว, ความทันสมัยของห้องโดยสารภายใน พร้อมเครื่องยนต์ขนาดเล็กแค่ 2.4 ลิตร แต่ให้สมรรถนะที่โดดเ่น ภายใต้ตัวรถที่มีขนาดกะทัดรัด, ระบบความปลอดภัยที่เหมาะสมและเพียงพอ
สำหรับโอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป ก็อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ