เขียนโดย: IronCaptain

เมื่อ: 4 สิงหาคม 2558 - 01:05

Toyota Fortuner VS Mitsubishi Pajero Sport รถอเนกประสงค์ที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้

 

Toyota Fortuner 2015 VS Mitsubishi Pajero Sport 2015 คู่รถอเนกประสงค์ที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้



          รถยนต์อเนกประสงค์ หรือรถ PPV ในประเทศไทย ถือว่าเป็นรถที่มีความต้องการที่สูงในตลาด เนื่องจากเป็นรถที่ใช้ได้ดีทั้งในเมืองหลวง และต่างจังหวัด อีกทั้งยังให้ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยไม่แพ้รถประเภทอื่น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วันนี้ BoxzaRacing.com จึงได้นำรถยนต์ประเภท PPV ที่ได้รับความนิยม และเพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานมานี้มาเปรียบเทียบกัน ซึ่งนาทีนี้คงจะไม่มีรถรุ่นไหนที่เป็นกระแสเท่า Toyota Fortuner 2015 และ Mitsubishi Pajero Sport 2015 ไปได้ ส่วนใครจะมีอะไรที่เด่นกว่า...ไปดูกันเลยครับ

 

 

รูปลักษณ์ภายนอก

Toyota Fortuner 2015

 

Mitsubishi Pajero Sport 2015

          ด้านการออกแบบภายนอกของ Toyota Fortuner 2015 และ Mitsubishi Pajero 2015 ได้เน้นรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ดุดัน และทรงพลัง อีกทั้งยังผสมผสานความโฉบเฉี่ยว และปราดเปรียว ซึ่งแต่ละค่ายนั้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชวนให้หลงใหล โดย Fortuner จะมาพร้อมไฟหน้า Bi-Beam LED ส่วน Pajero จะมาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LED ซึ่งทั้ง 2 ยังเพิ่มความหรูหราให้กับตัวรถด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม แต่ในส่วนของไฟหลังของทั้งคู่ก็จะไม่เหมือนกัน โดย Fortuner จะติดตั้งไฟท้าย LED แบบ Light Guiding แต่ทาง Pajero จะติดตั้งไฟท้ายแบบ Spectrum LED แต่ทั้งนี้ Fortuner จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า Pajero เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รุ่น ก็ยังคงคอนเซ็ปต์รถอเนกประสงค์แห่งอนาคตที่เปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอย

 

 

การออกแบบภายใน

ภายในห้องโดยสาร Toyota Fortuner
 
 

ภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Pajero

          ด้านภายในของรถประเภทนี้จะมีจุดเด่น และเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดย Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport ได้ออกแบบให้ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางโอ่อ่า เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่หรูหราที่เหนือระดับใกล้เคียงกับรถในรูปแบบซีดานเข้าไปทุกขณะ โดยคอนโซลด้านหน้าจะติดตั้งหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB/AUX เหมือนกัน อีกทั้งยังติดตั้งระบบนำทางที่เหมือนกันอีกด้วย ทำให้การเดินทางไม่มีหลงอีกต่อไป แต่ในเรื่องความบันเทิงสำหรับผู้โดยยสารตอนหลังนั้น Pajero Sport ดูจะได้เปรียบอยู่พอสมควรทีเดียว เนื่องจากมีเครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอแบบ Wide Screen ขนาด 9 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลังโดยเฉพาะ ซึ่งทาง Fortuner จะไม่ติดตั้งมาให้ แต่จะมีระบบสั่งงานด้วยเสียงแทน ซึ่ง Pajero Sport จะไม่มีลุกเล่นนี้มาให้ 

 

 

ด้านเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรลของ Toyota Fortuner

 

เครื่องยนต์ดีเซล 4N15 แบบ 4 สูบ ไมเวคคลีนดีเซลของ Mitsubishi Pajero
 

           Toyota Fortuner จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด GD Efficient Boost ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (โดยจะมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร และเบ็นซิน 2.7 ลิตร มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติม) ส่วน Mitsubishi Pajero Sport จะมาพร้อมเครื่องยนต์บล็อคเดียว นั่นก็คือ ดีเซล 4N15 แบบ 4 สูบ MIVEC Clean Diesel ขนาด 2.4 ลิตร ที่จะให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตรที่ 2,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด (เป็นเกียร์ลูกใหม่สำหรับ Pajero Sport โดยเฉพาะ) ซึ่งนับได้ว่า Pajero Sport ได้เปรียบในเรื่องของแรงม้าสูงสุด ซึ่งส่งผลในเรื่องความเร็วสูงสุดที่ทำได้ แต่ทางด้าน Fortuner เน้นเรื่องแรงบิดเป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะเหนือกว่าแล้ว ยังมีช่วงการใช้งานที่ยาวกว่าด้วย จึงไม่แปลกหากรถจากค่ายสามห่วงจะให้อัตราเร่งที่เหนือกว่าและเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบที่ต้องเร่งๆ หยุดๆ มากกว่า

 

 

ระบบความปลอดภัย

 
 


          ต้องยอมรับว่าทาง Mitsubishi Pajero มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่จัดมมาให้มากกว่า Toyota Fortuner อยู่พอสมควร เพราะได้ติดตั้ง Forward Collision Mitigation หรือระบบป้องกันการชนด้านหน้าอัตโนมัติ ต่อด้วยระบบ Ultrasonic Misacceleration Mitigation ที่จะทำหน้าที่ตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง และรวดเร็วในระยะไม่เกิน 4 เมตร กับระบบ Blind Spot Warning ที่จะทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค เพื่อส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ที่ไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง นอกจากนี้เซ็นเซอร์รอบคัน และดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ ต่างจาก Fortuner ที่มีดิสก์เบรคที่ล้อคู่หน้า ส่วนล้อหลังเป็นแบบดรัมเบรค ซึ่งหากมองในเรื่องของภาพลักษณ์และความแม่นยำแล้ว การใช้ดิสค์เบรคทั้งสี่ล้อ อาจจะให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า แต่หากจะวัดกันด้วยเรื่องความแน่นอนของพละกำลังในการเบรคแล้ว โดยส่วนตัว...ผู้เขียนยังเชื่อว่าดรัมเบรค ยังคงเป็นระบบที่ไว้ใจได้เสมอ เนื่องจากมีหน้าสัมผัสในการสร้างแรงเสียดทานที่มากกว่านั่นเอง

 

สรุป

 
 


          โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต มาพร้อมภาพลักษณ์ที่สวยงาม ล้ำอนาคตแทบไม่ต่างกัน ทุกรายละเอียดถูกแต่งแต้มลงบนตัวถังของแต่ละรุ่นได้อย่างน่าดูชม เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารของทั้งคู่ที่ดูแล้ว จะมีความหรูหราไม่ต่างกันโดย Pajero Sport มาในโทนเคร่งขรึมด้วยสีดำ ส่วน Fortuner เน้นความหรูหรา สบายตาด้วยสีน้ำตาล สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคงเป็นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทั้งคู่มีออพชั่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป แต่โดยภาพรวมเมื่อหักลบกันไปแล้ว ก็คงต้องบอกว่าทุกลูกเล่นที่แต่ละคันให้มานั้น เพียงพอต่อทุกการใช้งานจริงๆ ด้านเครื่องยนต์ทาง Toyota อาจจะดูหลากหลายมากกว่า ซึ่งแม้ว่า Mitsubishi จะมีทางเลือกเพียงบล็อกเดียว แต่ก็ให้กำลังที่เหนือชั้นมากๆ อีกทั้งยังมาพร้อมเกียร์ 8 สปีด ก็ยิ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างอัตราเร่งให้มีความต่อเนื่อง และสร้างความประหยัดได้อย่างน่าพอใจ ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัยที่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า Pajero Sport จะให้ลุกเล่นเรื่องความปลอดภัยที่หลากหลายกว่าและสิ่งสุดท้ายที่อดพูดถึงไปไม่ได้นั่นก็คือ เรื่องของค่าตัวที่ Pajero Sport เปิดราคามาแบบช็อคโลก โดยรุ่นท็อปมีราคาช่วงโปรโมชั่นที่ต่ำกว่า 1.4 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับลูกเล่นทั้งหมดที่ให้มา และคิดจะเก็บไว้ใช้งานกันแบบยาวๆ ไม่สนเรื่องราคาขายต่อ งานนี้คงต้องบอกว่า..."เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่คุ้มค่าเกินคำบรรยายจริงๆ"

                                                                                                                                                                    

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook