ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และ ณณิณ อินทร์พยุง กับผลงานใน Buriram Super GT Race
ในการแข่งขัน Buriram Super GT Race ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 19 - 21 มิถุนายน 2558 ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ มีนักแข่งไทย 2 ท่านได้เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่ พี่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ทีม Vattana MotorSport & Reiter Engineering และ โชกุน ณณิณ อินทร์พยุง กับทีม Arnage Racing ที่ได้ลงแข่งขันในรุ่น GT300 ส่วนผลงานของนักแข่งทั้ง 2 ท่านจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูกันเลยครับ
เริ่มด้วยพี่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และ Tomas Enge 2 นักแข่งจากทีม Vattana MotorSport & Reiter Engineering ที่ปีนี้ได้ใช้รถแข่งคันใหม่ REITER GALLARDO เบอร์ 28 เข้าลงแข่งขัน โดยในวันแรกในรอบ Official Practice นั้น สามารถทำเวลาได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของการซ้อมก่อนการแข่งขันในรุ่น GT300 เลยทีเดียว และเมื่อมาถึงการแข่งขันในรอบ Knock Out Qualify 300 สามารถทำเวลาตามหลังอันดับ 1 ซึ่งเป็นนักแข่งอาชีพระดับโลก เพียงแค่ 2 วินาทีเท่านั้น และ Qualify ออกมาเป็นอันดับที่ 22 แต่พอมาถึงในรอบ Free Practice ของการแข่งขันในวันที่ 21 มิถุนายนนั้น ผลปรากฎว่าสามารถทำเวลาต่อรอบมาเป็นอันดับที่ 1 ในรุ่น GT300 เลยทีเดียว
ซึ่งในการแข่งขันในรอบ Final Race 66 Laps นั้น นักแข่งทั้ง 2 คน จะต้องมีการสลับเปลี่ยนกันขับตามกฎและกติกา โดยเริ่มสตาร์ทจากอันดับที่ 22 และเริ่มไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนในรอบที่ 21 นั้น ทางพี่เอ๋ได้เข้า Pit ไปแล้วเปลี่ยนมาให้ทาง Tomas Enge ลงมาแข่งขันแทน ซึ่งหลังจากนั้นทาง Enge ก็ได้ไล่แซงคู่มาเรื่อยๆ จนได้ถึงที่อันดับที่ 8 แต่เป็นที่น่าเสียดายที่รอบสุดท้าย คาดว่าทาง Tomas Enge น่าจะหมดแรงกับอากาศที่ร้อนเสียก่อนทำให้แข่งต่อไปไม่ไหว จึงนำรถเข้า Pit ในรอบสุดท้ายพอดี และทำให้สุดท้ายแล้วนั้น พี่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และ Tomas Enge 2 นักแข่งจากทีม Vattana MotorSport & Reiter Engineering ทำผลงานได้ด้วยการจบอันดับที่ 12 ในรุ่น GT300
ต่อมาเป็นทางด้าน โชกุน ณณิณ อินทร์พยุง ที่จับคู่กับ Masaki Kano จากทีม Arnage Racing โดยได้ใช้รถ P.MU SLS เบอร์ 50 ลงแข่งขัน โดยผลงานในรอบ Knock Out Qualify 300 นั้น สามารถทำเวลาได้อยู่ที่อันดับที่ 15 ด้วยเวลา 1'36.087 นาที ซึ่งในการแข่งขันในรอบ Final Race 66 Laps นั้น โชกุน ณณิณ อินทร์พยุง ได้เป็นผู้ขับคนแรกโดยออกสตาร์ทจากอันดับที่ 15 จน สามารถขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 6 ในรอบที่ 32 จากนั้นในรอบที่ 34 ทางโชกุนตัดสินใจน้ำรถเข้า Pit เพื่อเปลี่ยนตัวให้ทาง Masaki Kano ออกมาขับแทน แต่ทาง Masaki Kano ก็ไม่สามารถจะรักษาตำแหน่งอันดับ 6 ไว้ได้และร่วงมาอยู่ในที่อันดับที่ 14 จนจบการแข่งขัน
ก็นับว่าตัวนักแข่งและทีมแข่งทั้ง 2 ท่านต่างก็พากันทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ซึ่งต้องยอมรับในความสามารถของตัวนักแข่งเอง รวมไปถึงความพร้อมของทีมงานที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ และไม่แน่ว่าในอนาคตหรือในปีต่อๆ ไปของการแข่งขันในรายการ Super GT อาจจะมีทีมนักแข่งสัญชาติไทยที่สามารถจะขึ้นไปยืนบนโพเดียมพร้อมกับคว้ารางวัลชนะเลิศมาฝากแฟนชาวไทยกันอย่างแน่นอน ส่วนผลการแข่งขันในรุ่น GT500 และ ผลการแข่งขันในรุ่น GT300 ของทีมแข่งอื่นๆนั้น ทุกท่านสามารถติดตามได้ทาง BoxzaRacing.com ของเราได้เลยครับ