มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โชว์รถต้นแบบ XR-PHEV II พร้อมเปิดตัวไทรทัน ใหม่ สําหรับตลาดยุโรปในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 85
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เผยโฉมมิตซูบิชิ XR-PHEV II รถต้นแบบเอสยูวีขนาดเล็กสไตล์ครอสโอเวอร์ มาพร้อมกับระบบไฮบริดแบบ plug-in EV (PHEV) เป็นครั้งแรกในโลก พร้อมประกาศเปิดตัวรถกระบะมิตซูบิชิไทรทันใหม่ เป็นครั้งแรกในทวีปยุโรปในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 85 ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะเริ่มวางขายในแถบประเทศยุโรปในเดือนมิถุนายนนี้
รถยนต์ต้นแบบ MITSUBISHI XR-PHEV II เป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นที่สองของมิตซูบิชิภายหลังจากการแนะนํารถรุ่น Outlander PHEV ในเดือนมกราคมปี 2556 ที่ผ่านมา สําหรับระบบ PHEV ใหม่ในรถต้นแบบ MITSUBISHI XR-PHEV มีขนาดเล็ก น้ําหนักเบาและมีประสิทธิภาพสูง มาพร้อมเครื่องยนต์แบบวางหน้า และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสําหรับรถครอสโอเวอร์ที่ขับขี่ในเมือง
นอกจากนี้ยังผลิตก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ต่ํากว่า 40 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับรถในกลุ่ม PHEV ด้วยกัน โดย MITSUBISHI XR-PHEV II มีพละกําลัง และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
รวมถึงการตอบสนองอันฉับไวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกําลัง 163 แรงม้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ ยังได้คิดค้นและพัฒนาระบบ PHEV ให้เหมาะสําหรับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ซึ่งมีแผนจะแนะนําสู่ตลาดในอนาคตอีกด้วย
รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เปิดตัวในยุโรปในชื่อ “แอล 200 (L200)” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ได้รับการพัฒนาในเรื่องประโยชน์ใช้สอย และความทนทาน โดยวิศวกรตั้งเป้าหมายในการพัฒนารถรุ่นใหม่นี้ให้เป็นรถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต The ultimate sport utility truck โดยมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้าง และมีความสะดวกสบายเทียบเท่ารถยนต์นั่ง
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ (New MITSUBISHI TRITON) สําหรับตลาดในภูมิภาคยุโรปนั้น จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไมเวค คลีนดีเซล อลูมินัม อัลลอย บล็อก ขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดของยุโรป โดยเครื่องยนต์มีค่าไอเสีย CO2 ที่ต่ําเพียง 169 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งถือว่าต่ํากว่ารถในประเภทเดียวกัน และให้พละกําลังสูงสุด 181 แรงม้า รวมถึงมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-II ซึ่งเป็นระบบที่มีในปาเจโร และมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมด เพื่อตอบสนองการขับขี่บนทุกสภาพถนน
MITSUBISHI Concept XR-PHEV II เป็นรถครอสโอเวอร์สําหรับคนเมืองซึ่งมีความโดดเด่นที่ระบบ PHEV ขนาดกระทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูง มีการติดตั้งเครื่องยนต์ด้านหน้าและถ่ายกําลังสู่ล้อคู่หน้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีสมรรถนะสูงสุด
การออกแบบภายนอกของ XR-PHEV II แสดงให้เห็นถึงเส้นสายการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ตัวถังขนาดสันทัด และดูมีพลังรวมไปถึงเส้นสายทรงสปอร์ตที่ด้านข้างตัวรถลากยาวไปจนขอบซุ้มล้อด้านหลัง ด้านหน้าถูกออกแบบและพัฒนามาจากโครงสร้างของปาเจโร
โดยส่วนหน้าของ XR-PHEV II บ่งบอกถึงสัญญลักษณ์รูปเกราะกําบังที่มีความแข็งแกร่งสามารถปกป้องทั้งผู้โดยสารและตัวรถ ทั้งนี้มีการขยายขนาดกันชนและแผ่นใต้ท้องและเพิ่มความสูงขึ้นตามลําดับ
การออกแบบภายใน เน้นความแข็งแกร่งด้วยเฟรมอะลูมินัม ซึ่งแยกตัวออกมาจากคอนโซลกลางไปทางด้านข้าง และผ่านหน้าปัดแนวตั้งแบบเรียบง่าย ห้องโดยสารถูกออกมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่ โดยมีสวิทช์ควบคุมระบบต่างๆ อยู่บนคอนโซลกลางและพวงมาลัย
นอกจากนี้ยังมีระบบ PHEV ใหม่ ที่ถูกออกแบบมาสําหรับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์วางหน้าและขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเป็นการผสานเครื่องยนต์ MIVEC เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องกําเนิดไฟฟ้า โดยนําระบบขับเคลื่อนไว้ด้านหน้า ประกอบด้วยอินเวอร์เตอร์ขนาดเล็กประสิทธิภาพสูง และระบบกระแสไฟผันแปรที่ช่วยเพิ่มแรงม้าและแรงบิดที่สูงขึ้น โดยมีค่าก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ในขณะที่ใช้งานต่ำเพียง 40 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นรถ Plug-In Hybrid ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดคันหนึ่งทีเดียว
อีกทั้งระบบ PHEV ได้ถูกออกแบบมาให้ทํางานในโหมดไฟฟ้า (All-Electric) เป็นหลัก โดยเครื่องยนต์ทําหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ (Generator) ช่วยเสริมกําลังขณะกําลังเร่งแซง โดยระบบจะเลือกโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติตามลักษณะการขับขี่และปริมาณไฟสํารองที่เหลือ
โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกการขับขี่แบบ Full-Electric โดยการเลือกโหมด Battery Save หรือ Battery Charge ซึ่งนอกเหนือจากพละกําลังที่เหลือเฟือและสมรรถนะแบบสปอร์ตแล้ว ยังมีห้องโดยสารที่เงียบสนิท และการส่งกําลังของเครื่องยนต์ที่ลื่นไหลไร้การกระตุกของเกียร์ ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่
นับครั้งแรกกับการแนะนําระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Smartphone Link Display Audio ของมิตซูบิชิที่สามารถเชื่อมต่อกับ Android Auto และ Apple Car Play
ระบบ Android Auto ถูกออกแบบมาโดยคํานึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เช่น การเชื่อมต่อระหว่าง สมาร์ทโฟนที่ถ่ายโอนข้อมูล และเชื่อมต่อกันได้ง่าย โดยใช้ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย และคําสั่งเสียง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขจัดสิ่งรบกวนต่างๆ ให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการขับขี่
ต่อด้วยระบบ Apple Car Play ที่เป็นวิธีที่ฉลาด และปลอดภัยกว่าในการใช้ iPhone ในรถ โดยผู้ขับขี่สามารถใช้งานง่ายและสะดวกในการ โทรเข้าออก ใช้งานแผนที่ ฟังเพลง และ อ่านข้อความ โดยการกดปุ่มหรือใช้คําสั่งเสียงผ่าน Siri ด้วยการกดปุ่มสั่งการด้วยเสียงบนพวงมาลัย
โดยระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน จะถูกแสดงที่บูธของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในงาน เจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
