เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 14 มกราคม 2565 - 13:13

อาวดี้ ประเทศไทย แรงไม่หยุด โตสวนกระแส ยอดขาย ปี 64 พุ่ง 30%

 

         นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรืออาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผย ว่าท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และความท้าทายธุรกิจจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนทั่วโลก ภายใต้กลยุทธ์เขย่าพอร์ต การปรับราคาให้จับต้องได้ การเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพรีเมี่ยม การนำยนตรกรรมตระกูล RS เข้ามาสร้างความเร้าใจให้ตลาด คุณภาพมาตรฐานการบริการหลังการขาย และการสนับสนุนของ Audi AG ส่งผลทำให้ยอดจำหน่ายยนตรกรรม Audi ในทุกเชกเมนต์ ในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาเติบโตสวนกระแส All Time High เกินความคาดหมาย ด้วยยอดขาย 1,308 คัน หรือเติบโตขึ้น 30%       

 

 

          โดยยนตรกรรมพรีเมี่ยมสปอร์ตสมรรถนะสูงตระกูล RS ที่ได้ชื่อว่าเป็นซุปเปอร์คาร์ราคาจับต้องได้ สามารถสร้างปรากฎการณ์สะท้อนภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งขึ้นของแบรนด์ Audi ในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน คือมียอดจำหน่ายคิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดจำหน่ายรวม หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ยอดขาย Audi ทุกๆ 10 คัน จะเป็นรถในตระกูล RS 1 คัน ขณะที่ยนตรกรรม A5 และ Q3 และยนตรกรรมพรีเมี่ยมสปอร์ต Audi TT Coupe ไอคอนตลอดกาลของ Audi เป็นสามรุ่นฮอตที่ได้รับความนิยมสูงต่อเนื่อง โดยมียอดจำหน่ายในปี 2564 รวมมากกว่า 70% ของยอด ขายรวม ส่วนยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าพรีเมี่ยม ซึ่งอาวดี้เป็นผู้นำตลาด Audi e-tron ที่อาวดี้นำเข้ามาจำหน่ายทั้ง 3 รุ่นนั้น ก็สามารถทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจ ถึงแม้จะประสบปัญหาจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็ตาม

 

 

         ขอบคุณแฟน Audi ที่เชื่อมั่น และให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาตลอด 5 ปี ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท-ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด (Meister Technik) Audi ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนอาจเรียกว่าเป็นกระแสอาวดี้ก็คงจะไม่ผิด เห็นได้จากจำนวนรถยนต์ Audi บนท้องถนน และยอดส่งมอบรถยนต์ Audi ที่ขณะนี้ได้ส่งมอบให้ลูกค้าในประเทศไทยไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 4 พันคัน

         สำหรับทิศทาง และแผนการดำเนินงานปี 2565 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ในด้านผลิตภัณฑ์มีแผนบุกตลาดด้วยเทคโนโลยียนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Audi AG ซึ่งจะทยอยนำเข้ามาอีกกว่า 10 รุ่น รวมถึงรถในตระกูล RS เพื่อสร้างสีสัน และเป็นทางเลือกตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนจะมีการนำเข้ารถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาเสริมทัพ โดยคาดว่าในปีนี้มีรถทุกเชกเมนต์ให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างจุใจ ด้านโชว์รูม และศูนย์บริการมีแผนที่จะขยายการบริการให้คลอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะมีการเปิดดีลเลอร์เพิ่มอีกอีกอย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ และภาคเหนือ 

 

 

        ในส่วนของแคมเปญส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นจุดเด่นในการทำตลาดของ Audi เพื่อสร้างความว๊าวให้ลูกค้าได้มีความคุ้มค่าในการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อยนตรกรรมอาวดี้ ในแต่ละช่วงจะมีการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ทั้งลิสซิ่ง ธนาคาร แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ และอื่นๆ เพื่อจัดแคมเปญพิเศษมาให้ลูกค้าได้เข้าถึงแบรนด์อาวดี้ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

 

 

         ในด้านการบริการหลังการขายที่เป็นความมุ่งมั่น และเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตของ Audi มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาโควิด-19 อาวดี้ก็ยังมีการลงทุนต่อเนื่องทั้งในส่วนของโชว์รูม และศูนย์บริการ โดยในปี 2564 ก็ได้เปิด อาวดี้ ราชพฤกษ์ และ อาวดี้ อุดรธานี เพื่อรองรับการเติบโตของประชากร Audiในประเทศไทย ในส่วนของบุคลากร Audi ก็ยังคงมีการฝึกอบรม และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีช่างวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ผ่านการรับรองจาก Audi AG เพิ่มเติมอีกนับ 10 รายในปี 2564 เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานการบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้าได้อย่างสูงสุด ตลอดจนมีแผนออกเซอร์วิสแคมเปญโดนใจเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าในการขับ จนทำให้ยอดขายอะไหล่ และบริการเติบโตขึ้นกว่า 26% ในปี 2564 เช่นเดียวกัน

 

 

         แม้ว่าจะเจอสถานการณ์ความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน ตั้งแต่ต้นปี แต่ก็มั่นใจว่าจากกลยุทธ์ เขย่าพอร์ต ซึ่งมีรถพรีเมียมให้ลูกค้าได้เลือกในราคาไม่ถึง 3 ล้านบาท แผนการรุกตลาดทุกด้าน รวมถึงการปรับแผนการตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง และความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และคุณภาพที่เหนือกว่าของยนตรกรรมอาวดี้ ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ 6 ของการทำตลาดของ อาวดี้ ประเทศไทย จะเป็นอีกปีที่อาวดี้สามารถสร้างสถิติ All Time High ได้อีกครั้ง โดยตั้งเป้าเติบโตที่ประมาณ 15-20% 

         Audi เป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศเยอรมันทุกรุ่น ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถไฟฟ้า Audi e-tron ใหม่ทุกรุ่นรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ลูกค้า Audi สามารถมั่นใจกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งมีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทุกสาขา โดยในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ เปิดบริการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.00-18.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-18.00 น.

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook