Renault ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส เผยโฉม Renault Morphoz Concept Car ที่เป็นสไตล์ครอสโอเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบสุดล้ำ โดยได้จัดแสดงผ่านทางออนไลน์ แทนการเปิดตัวภายในงาน Geneva Motor Show 2020 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ต้องถูกยกเลิกจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า
Renault Morphoz Concept Car พลังงาน EV รุ่นใหม่ตัวนี้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากแม้จะเปิดตัวทางออนไลน์ เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกออกแบบให้ล้ำยุค ด้วยเส้นสายที่ลงตัว โฉบเฉี่ยว เป็นการผสมผสานระหว่างรถซาลูน เอสยูวี และคูเป้ ให้เข้ากันอย่างลงตัว แบบมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังสามารถที่จะยืด-หด ตัวถังได้ตามลักษณะ และไลฟ์สไตล์ของการเดินทาง และการใช้งาน
Renault Morphoz ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CMF-EV ใหม่ซึ่งจะถูกใช้กับรถไฟฟ้าตระกูลใหม่ของ Renault มาพร้อมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 3 โดยในการออกแบบได้ติดตั้งแบตเตอรีไว้ที่พื้นด้านหลังของรถ จึงทำให้สร้างจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ในส่วนฝากระโปรงที่สั้นจึงทำให้ส่งผลไปที่ห้องโดยสารทำให้ห้องโดยสารนั้นมีความยาวขึ้น และสามารถที่จะดันแผงแดชบอร์ดออกไปข้างหน้ามากว่าเดิม
เพื่อจะเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารให้มีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนห้องโดยสารด้านหลังจะเพิ่มพื้นที่ของส่วนการวางขาให้มากขึ้นเนื่องจากการที่ไม่มีอุโมงค์เกียร์
ในส่วนรูปลักษณ์ภายนอกของ Renault Morphoz สีตัวถังจะเป็นสีเงิน Metallic ทั้งคัน ส่วนภายในจะเป็นสีทอง Ivory Gold metallic กับสีเหลือง Electric Yellow พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ ดีไซน์ภานนอกดูล้ำสมัยไปทุกสัดส่วนเสมือนรถที่ออกมาจากจิตนาการ หรือประเภทหนังไซไฟ ชุดไฟหน้า LED แบบเรียวยาว, กันชนหน้าดีไซน์ปิดทึบส่วนฝาประโปรงหน้าเจาะช่องระบายอากาศ 2 ช่องด้านบน เพื่อสำหรับระบายความร้อนให้กับชุดคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งรวมอยู่กับส่งกำลังที่อยู่ด้านหน้า
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น ย่อมดีไซน์ให้ล้ำไม่ต่างจากรูปลักษณ์ภายนอก มาพร้อมกับพวงมาลัยดีไซนืสุดล้ำ, จอขนาด 10.2 นิ้วตรงกลางสำหรับแสดงข้อมูลการขับ มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อออนบอร์ด 5G ในส่วนเบาะนั่งที่สามารถปรับหมุนให้เข้าหากันได้ ยกเว้นเบาะคนขับ
แต่สิ่งที่โดดเด่นสุดๆของ Renault Morphoz Concept Car พลังงาน EV คงจะเป็นในส่วนเทคโนโลยีที่ตัวรถนั้นสามารถปรับยืด-หด โดยจะมีให้เลือกได้ 2 โหมด คือโหมด City ที่ใช้สำหรับใช้งานในเมือง และโหมด Travel สำหรับการเดินทางระยะไกลหรือท่องเที่ยว ในการปรับเปลี่ยนโหมดนั้นจะใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น
โดยเมื่อใช้รถในโหมด City ตัวรถจะปรับมีความยาว 4.40 เมตร ระยะฐานล้อ 2.73 เมตร และมีแบตเตอรีความจุ 40 kWh ติดตั้งที่พื้นด้านหลังของรถที่สามารถใช้เดินทางได้ถึง 400 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานในเมือง และชานเมืองภายใน 1 วัน
ส่วนโหมด Travel ระบบจะปรับตัวรถให้มีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 4.80 เมตร กับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นเป็น 2.98 เมตร ซึ่งด้วยการเพิ่มความยาวของรถ ส่งผลให้มีพื้นที่เพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร โดยในโหมดนี้รถจะสามารถติดตั้งแบตเตอรี Travel Extender ซึ่งทำให้มีความจุรวม 90 kWh สามารถเดินทางได้ไกลถึง 700 กิโลเมตร สำหรับการเปลี่ยนโหมดของรถเป็น Travel สามารถทำได้ที่สถานีแบตเตอรีที่ถูกกำหนดไว้เพื่อการติดแบตเตอรีเพิ่ม และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรีที่ถูกติดเพิ่มได้ในสถานีต่อไป เพื่อปรับเปลี่ยนให้มาเป็นโหมด City แบบเดิมเพื่อใช้งานตามปกติในเมือง
Renault Morphoz Concept Car พลังงาน EV คันนี้ถ้าผลิตออกมาจริงคงเป็นอะไรที่ว๊าวสุดๆแน่ ทั้งรูปลักษณ์ที่เสมือนรถหลุดมาจากอนาคต รวมถึงรูปแบบการใช้งานที่รักษ์โลกแบบสุดๆ
