เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 6 กุมภาพันธ์ 2563 - 16:19

มโนยนต์ รุกหนักตลาดสินค้าอะไหล่รถยนต์ทดแทน ดัน TOKICO ครองตลาด ช็อคอับติดรถอันดับ 1 ต่อเนื่อง

ดร.ปรเมศร์ ลี้โกมลชัย กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทมโนยนต์ (ซ้าย) นายนิติ ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (ขวา)

 

         มโนยนต์ รุกหนักตลาดสินค้าอะไหล่รถยนต์ทดแทน ดัน TOKICO ครองตลาด โช้คอัพติดรถอันดับ 1 ต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้เติบโตกว่า 10% พร้อมออกช็อคอับ สำหรับรถรุ่นใหม่กว่า 10 รุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ขับ

         ในโอกาสนี้ ดร.ปรเมศร์ ลี้โกมลชัย กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทมโนยนต์ และ รองประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายช็อคอับ TOKICO (โทคิโคะ) ผู้เดียวในประเทศไทย เผยว่า กว่า 5 ทศวรรษ กลุ่มบริษัทมโนยนต์ ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับแถวหน้าของประเทศไทย โดยกลุ่มบริษัทมโนยนต์ในส่วนของธุรกิจสายการค้า (Trading Business) ดูแลตลาดสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน (Replacement Market) ทั้งในประเทศและส่งออก มีบริษัทในเครือ 14 บริษัท โดยจำหน่ายสินค้าอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ทดแทน เช่น สินค้าในกลุ่มคลัทช์, เบรก , ช่วงล่าง, กลุ่มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ของเหลว ชิ้นส่วนอะไหล่ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องยนต์สำหรับรถบรรทุก เครื่องจักรเพื่อการเกษตร และก่อสร้าง ที่มีคุณภาพ ด้วยแบรนด์สินค้าที่ได้มาตรฐาน OEM ส่งให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นแบรนด์ได้รับการยอมรับจากลูกค้า

 

 

         โดย รายได้จากกลุ่มธุรกิจสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนของกลุ่มบริษัทมโนยนต์  เติบโต 7% จากปี 2561 ยอดขายรวมกว่า 6,800 ล้านบาท และในปีนี้ 2563 บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, พม่า, เวียดนาม) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจากวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

 

         สำหรับตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนในประเทศ (REM) ยังคงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันตามจำนวนรถยนต์สะสม โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ตามอายุและระยะทางการใช้งาน โดยช็อคอับ TOKICO จะเป็นหนึ่งในสินค้าหลัก ที่จะมีส่วนผลักดันให้บริษัทบรรลุได้ตามเป้าที่วางไว้เนื่องจากเป็นแบรนด์ช็อคอับอันดับ 1 ที่ส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศ

         ซึ่งบริษัทได้นำช็อคอับ TOKICO เข้ามาทำตลาด Aftermarket เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และในช่วง 6 ปี ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง โดยหลังจากที่ได้ขยายตลาดมาที่ตลาดทดแทนช็อคอับ TOKICO มียอดขายเติบโตประมาณ 3 เท่า หรือ คิดเป็น 300% ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา TOKICO ได้ออกช็อคอับรุ่นใหม่มาแล้ว 3 Series และออกช็อคอับเบอร์ใหม่มาแล้วมากกว่า 150 เบอร์ โดยครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน และตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

 

 

       ในขณะที่ นายนิติ ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายช็อคอับ TOKICO (โทคิโคะ) ผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันช็อคในตลาด Aftermarket มีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น รอบการบำรุงรักษาของรถ อายุการใช้งานของช็อคอับ ทำให้เกิดการแข่งขันของแบรนด์โช้คอัพอย่างดุเดือด ดังนั้นทาง TOKICO จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับ และคุณภาพของที่ได้มาตรฐานระดับสากลในราคาที่เหมาะสมควบคู่กับการวางแผนกลยุทธ์ ได้แก่

         Leader in product coverage ออกสินค้ารุ่นใหม่ และเบอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้รถ

         Strong in distribution channel ผ่านผู้แทนจำหน่าย ร้านอะไหล่ และ Modern Trade ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังมี Warehouse และระบบ Logistic ที่มีประสิทธิภาพ สามารถจัดส่งและกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการของลูกค้า

         Leader in customer satisfaction จัดโปรโมชั่นตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีการสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด โดยผ่านกิจกรรม Below the line ไม่ว่าจะเป็น Trade Fair, Road show หรือการจัด Training ให้กับลูกค้า รวมทั้งการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Social Media อาทิเช่น line@, facebook, E-catalogue ผ่าน website และ application

 

 

         สำหรับปี 2563  TOKICO จะมีการออกช็อคอับรุ่นใหม่หลายรุ่น เพื่อรองรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้รถ ทุกประเภทการใช้งาน โดยนอกจากช็อคอับมาตรฐานติดรถแล้ว ยังเน้นไปในกลุ่ม Series ใหม่ ทั้ง 3 Series ได้แก่

         1. POWER-PLUS SERIES  ช็อคอับน้ำมันกระบอกยาว แกนใหญ่ 16 mm.(แท้) โดยเพิ่มความยาวขึ้นเหนือกว่ามาตรฐาน เหมาะสำหรับรถกระบะที่มีการเสริมแหนบช่วงล่าง ให้สูงขึ้น (ตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป) และทนต่อการใช้งานหนัก

         2. ALPHA-PLUS SERIES ช็อคอับขนาดใหญ่ขึ้นพิเศษชนิดแก๊ส สมรรถนะสูงที่ผ่านการออกแบบ และทดสอบจากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้ความเร็วแม้ขณะบรรทุกหนัก ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีไม่เสียการควบคุมเหมาะสำหรับรถกระบะ รถ MPV และรถตู้

         3. S-PLUS SERIES ช็อคอับเกรดพิเศษชนิดแก๊ส สมรรถนะสูงที่ผ่านการออกแบบ และทดสอบ จากประเทศญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นเพื่อสนองตอบการขับขี่ในสไตล์ มอเตอร์สปอร์ต สามารถใช้กับสปริงโหลดได้ (ไม่เกิน 40 มม.) เหมาะสำหรับรถเก๋ง ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่างให้เกาะถนนมากขึ้นขณะใช้ความเร็ว เพื่อความเร้าใจในการขับ

         ช็อคอับรุ่นใหม่ที่จะออกนี้ใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ ได้แก่

  • Toyota รุ่น ALTIS ปี 2019 / COMMUTER ปี 2019 / CAMRY ปี 2018 / C-HR ปี 2018 / ALPHARD, Honda รุ่น BR-V ปี 2016 / CR-V ปี 2012-2016 / FREED ปี 2013
  • Mazda รุ่น CX-3 ปี 2015 / CX-5 ปี 2017
  • Nissan รุ่น Teana ปี 2013 / Caravan E25  ปี 2001-12 / Caravan E26 ปี 2012
  • Suzuki รุ่น Swift ปี 2018 / Ciaz ปี 2015

 

 

          อย่างไรก็ตาม TOKICO ตั้งเป้าการเติบโตของปี 2563 ไว้กว่า 10% เพื่อรองรับ Demand ในตลาด ตามจำนวนรถยนต์สะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป ที่ถึงรอบระยะการบำรุงรักษา หรือเปลี่ยนช็อคอับ ที่เข้ามาใช้บริการกับศูนย์บริการโมเดิร์นเทรด , อู่ หรือร้านอะไหล่ทั่วไป

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook