ราคาน้ำมันลง อู่ติดแก๊สได้ปิดกิจการอย่างต่อเนื่อง

อู่ติดแก๊สได้ปิดกิจการลงอย่างต่อเนื่อง จากสาเหตุราคาน้ำมันที่ลดลง

          จากการที่ราคาน้ำมันทำการลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้อู่ติดแก๊สระบบแอลพีจี (LPG) และเอ็นจีวี (NGV) ทำการปิดตัวลงอย่างมากมาย โดยทางบิ๊กเอนเนอร์ จีรีฟอร์มได้เปิดเผยข้อมูลว่ามีอู่ได้ปิดตัวลงแล้วถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอู่ขนาดเล็ก

          ทางด้านร้านย่านลาดพร้าว และลาดปลาเค้า ได้ระบุว่า ในแต่ละเดือนเหลือมาติดตั้งเพียง 10 คันเท่านั้น ส่วนลูกค้าในอู่ที่โคราชก็หายไปเกือบหมดเช่นกัน เหลือเพียงบริการซ่อมบำรุงเท่านั้น โดยได้สูญเสียรายได้ไปร้อยละ 90 รวมถึงอู่ในเชียงใหม่ก็ประสบอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

          โดยเนื่องจากน้ำมันมีการลดราคาลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเฉลี่ยนแล้วน้ำมันได้ลงลงไปถึงลิตรละ 3-4 บาท อู่ติดตั้งแก๊สจึงจึงเริ่มซบเซาลงจากเมื่อก่อนอย่างมาก เพราะทางประชาชนได้หันกลับไปใช้รถยนต์กันอย่างแพร่หลาย

          ร้านโมดิฟาย คาร์ออดิโอ โคราช ที่ได้ตั้งอยู่ที่ริมถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองจ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอู่ติดแก๊สรายใหญ่ที่ปกติจะมีผู้คนนำรถเข้ามาติดแก๊สเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันกลับต้องหยุดบริการชั่วคราว เนื่องจากไม่มีลูกค้าเข้ามารับบริการเลยนานกว่า 2 เดือน

          โดยนายอนุชิต ค้ากระบือ ผู้จัดการร้านโมดิฟาย คาร์ออดิโอ โคราช ได้เปิดเผยข้อมูลว่า "ปกติที่ร้านจะมีลูกค้านำรถยนต์มาติดตั้งระบบแก๊สประมาณ วันละ 4-5 คัน เฉลี่ยค่าบริการติดตั้งเครื่องหัวฉีดคันละ 25,000 บาท แต่หลังราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศไทยลดลงตามไปด้วย จึงทำให้ลูกค้าติดตั้งระบบแก๊สลดน้อยลง จนกระทั่งช่วงต้นเดือนธ.ค.2557 ถึงปัจจุบัน พบลูกค้าหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีลูกค้ามาใช้บริการแม้แต่รายเดียว ทำให้แผนกติดตั้งระบบแก๊สเงียบเหงา เหลือเพียงแผนกเซอร์วิสที่คอยให้บริการหลังการขายเท่านั้น"

          รวมถึง "ช่วงหลังลูกค้าไม่มาใช้บริการติดตั้งระบบแก๊สในรถ ทำให้ร้านสูญเสียรายได้มหาศาลหรือคิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งร้าน ส่วนพนักงานแผนกติดตั้งระบบแก๊สที่มีอยู่ 9 คน ก็ได้รับผลกระทบเพราะไม่มีงานทำ แต่ร้านก็ยังไม่ให้ออก เพราะถือเป็นบุคลากรสำคัญที่ช่วยสร้างความเติบโตให้ร้านมาตลอด ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องมองหางานอื่นภายในร้านให้ช่วยทำไปก่อน โดยเชื่อว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเป็นอีกไม่นาน เพราะลูกค้าที่เคยใช้แก๊สแล้วก็จะรู้ว่าประหยัดกว่าน้ำมันแน่นอน” นายอนุชิตกล่าว

          ทางด้านจ.เชียงใหม่ ได้มีผู้สื่อข่าวออกสำรวจอู่ติดแก๊สในพื้นที่ โดยพบว่าอู่ส่วนมากได้ทำการปิดกิจการลง เนื่องจากผู้คนหันมาใช้น้ำมันแทนแก๊ส แต่ทางด้านอู่รายใหญ่ยังทำการเปิดบริการปกติ แต่ก็รับผลกระทบเหมือนกัน

          นายรังสฤษฏ์ ฉัตรอุทัย เจ้าของอู่เอ็ม.เอส.สามบี หรือเรืองชัยยนต์ ที่ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวนรอบสาม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวว่า "ตอนนี้สถานการณ์ร้านติดตั้งระบบแก๊สให้รถยนต์ในพื้นที่ต่างชะงัก เนื่องจากประชาชนหันไปใช้น้ำมันที่ราคาลดลง โดยร้านขนาดเล็กหลายแห่งเริ่มทยอยปิดตัว เหลือเพียงร้านขนาดใหญ่ประมาณ 2-3 แห่งที่ยังให้บริการ"

          นายรังสฤษฏ์ได้กล่าวต่ออีกว่า "ส่วนร้านของตนถือยังโชคดี เพราะมีบริการอื่นเสริมด้วย ทั้งทำสี ซ่อมเครื่อง ติดตั้งอุปกรณ์อะไหล่ และอีกหลายอย่าง ทำให้ยังสามารถเปิดบริการอยู่ได้ ที่ผ่านมาเคยติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์ไปประมาณ 4,000 คัน ซึ่งตอนนี้ก็มีลูกค้าบางรายเข้ามาให้บริการซ่อมบำรุง จึงมีรายได้มาจุนเจือร้านและรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้"

          ขณะที่นายวิพากษ์ ผิวเณร เจ้าของบริษัท ไฮเวย์ เซอร์วิส คาร์ 2003 จำกัด อู่ติดตั้งแก๊ส ที่ตั้งอยู่ที่ 97/216 ซอยโพธิ์แก้ว หรือลาดพร้าว 101 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ได้กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อร้านติดตั้งแก๊สรถยนต์เต็มๆ เนื่องจากยอดผู้ที่นำแก๊สมาติดลดลงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในแต่ละเดือนสามารถนับจำนวนรถที่นำมาติดแก๊สได้เลย เพราะมีประมาณ 10-20 คันเท่านั้น แต่ยังดีที่ร้านยังอยู่ได้ เพราะมีรายได้จากการให้บริการลูกค้าในส่วนอื่นๆ เข้ามา"

          "แม้ลูกค้าจะน้อย แต่ถ้าจะให้ลดราคาการติดแก๊สลงมาก็ทำได้ยาก หากอู่มีสต๊อกสินค้าที่สั่งมาเก็บไว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้นทุนที่รับมานั้นยังมีราคาแพง แต่หากอู่ไหนที่ไม่มีสต๊อกสินค้า ก็สามารถลดราคาได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในช่วงหลังที่ราคาน้ำมันลดลงมานั้น มีคนนำรถยนต์ที่ติดแก๊สมาถอดออกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และเท่าที่ได้พูดคุยกับลูกค้า หลังจากจากราคาน้ำมันลดลงมาใกล้เคียงกับแก๊ส จากเดิมที่ห่างกันเกือบ 3 เท่า เหลือเพียงไม่กี่บาทนั้น ส่งผลให้ลูกค้าหันไปใช้น้ำมันกันมากขึ้น โดยอนาคตของร้านติดตั้งแก๊สค่อนข้างน่าเป็นห่วง นอกจากราคาน้ำมัน ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ในอนาคตยังมีการผลิตรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน รถยนต์ ไฮบริดเข้ามา ส่งผลให้อาจไม่มีคนใช้แก๊สในอุตสาหกรรมยานยนต์อีกต่อไป" นายวิพากษ์ กล่าว

          ทางด้านนายสมชาย กลีบมาลัย เจ้าของอู่อาร์มี่แก๊ส เซอร์วิส ที่ตั้งอยู่ย่านลาดปลาเค้า กทม. ได้กล่าวว่า "การที่น้ำมันลดราคาส่งผลให้คนที่มาติดแก๊สลดลงจากเดิมถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นฐานลูกค้าเก่า ที่มาเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ ท่อแก๊สหรือติดชุดกรองแก๊ส ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่จะไม่กลับไปใช้น้ำมันอีก เพราะราคาแก๊สถูกกว่าราคาน้ำมัน ซึ่งตอนนี้ร้านได้เพิ่มโปรโมชั่น เพื่อดึงดูดลูกค้า อย่างเช่น ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ 10 เดือน ลดราคาค่าติดตั้ง เติมลม ปะยางฟรี และมีของแถมต่างๆ ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ"

          นายสมชาย กล่าวเสริมว่า "อยากให้รัฐบาลช่วยให้ราคาน้ำมันและราคาแก๊สเป็นไปตามกลไกตลาดคือ น้ำมันลดราคา ก๊าซก็ต้องลงราคาลงตาม ไม่ใช่ราคาน้ำมันลด แต่ราคาแก๊สขึ้น ทำให้ยอดคนนำรถยนต์มาติดแก๊สลดลงอย่างเห็นได้ชัด"

          รวมถึงนายสุรชัย นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้แทนจำหน่ายชุดอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ได้กล่าวภายในวันเดียวกันว่า "วันนี้ตลาดติดตั้งแก๊สรถยนต์หดตัวลงค่อนข้างรุนแรง คาดว่าไม่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และศูนย์ติดตั้งทั่วประเทศคาดว่ามีการปิดตัวไปแล้ว 20-30 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่มีรายได้อื่น นอกจากการติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์ เช่น บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซ่อมบำรุงตามระยะ เนื่องจากลูกค้าชะลอการติดตั้ง ทำให้รายจ่ายสูงกว่ารายได้อย่างมาก แต่กลุ่มรายใหญ่ที่มีการลงทุนสูง ให้บริการหลากหลายประเภทและมีสายป่านยาวกว่ายังคงอยู่ได้ และเชื่อว่าเมื่อราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะราคาน้ำมันที่ลดลงในวันนี้ไม่ได้มาจากสภาวะเศรษฐกิจโลก แต่เป็นปัญหาของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน เชื่อมั่นว่าเมื่อตกลงกันได้ราคาก็จะปรับตัวขึ้น"

          นายสุรชัยกล่าวเสริม "วันนี้ลูกค้าหยุดติดตั้งแก๊สรถยนต์ เพราะแรงตกใจ เป็นเรื่องทางจิตวิทยา อาจจะชะลอการตัดสินใจช่วงหนึ่ง แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ อย่างไรเสีย ก็ต้องกลับมาติดตั้ง เพราะราคาแก๊สคิดเป็นครึ่งหนึ่งของราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นมาตรฐานแบบนี้เหมือนกันทั่วโลก เป็นพลังงานทางเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ถามว่าติดตั้งแล้วคุ้มหรือไม่ ตอบได้เลยว่าคุ้มแน่นอน แต่เวลาในการคืนทุนจะช้าลงกว่าแต่ก่อนเท่านั้นเอง"

          นายสุรชัย กล่าวปิดท้ายว่า "การที่ศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ได้รับผลกระทบเช่นนี้ ยังมีมุมที่ดี เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการที่ไม่มีมาตรฐาน ต้องหลุดไปจากธุรกิจนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาความต้องการสูงมาก จนทำให้ใครก็ต้องการเปิดศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ จึงเป็นปัญหาในเรื่องคุณภาพมาตรฐานการติดตั้ง จนส่งผลให้เกิดรถไฟไหม้ให้ได้เห็นอยู่บ่อยๆ จากนี้ไป ผู้ที่จะอยู่ได้ต้องเป็นกลุ่มที่มีมาตรฐานการติดตั้ง พร้อมทั้งบริการหลังการขายและสายป่านยาว ทำธุรกิจระยะยาว ถือว่าเป็นการล้างไพ่ให้กับวงการนี้ไปในตัว และเมื่อราคาน้ำมัน กับแก๊ส นิ่งกว่าที่เป็นอยู่ ความต้องการกลับมาแน่ และจะกลับมาแรงมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน”

รูปภาพจาก ข่าวสด