เขียนโดย: AEFOTO

เมื่อ: 21 กันยายน 2562 - 14:01

Honda CR-V 2002 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่เมืองมะกัน ปรับลุคให้ดูสปอร์ต เสริมขุมพลังใหม่ Hybrid 2.0 ลิตร

 

          Honda CR-V ถือว่าเป็น ครอสโอเวอร์ ที่ได้รับการยอมรับมากทั้งในตลาดโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา จัดได้ว่าเป็นครอสโอเวอร์ที่ชนชาวมะกันให้ความนิยมมาตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ออกมาในเจนเนอเรชั่นแรกๆ แล้ว จนมาถึงเจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ล่าสุดที่ตลาดอเมริกา ค่าย Honda ได้เปิดผ้าคลุม Honda CR-V 2020 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงโฉมใหม่ พร้อมเสริมขุมพลังใหม่กับเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร

 

 

          Honda CR-V รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่นี้ ได้รับการดีไซน์ใหม่ บนพื้นฐานของรุ่นเดิม ให้ดูสปอร์ต และลงตัวมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในส่วนด้านหน้าของตัวรถได้มีก่ารปรับเปลี่ยนใหม่เสริมขอบโครเมี่ยมที่ชุดกันชนหน้า ให้รับกับชุดไฟตัดหมอกแบบ LED ที่เรียงกัน 5 ดวง ที่ฝังอยู่ในชุดกันชนหน้า ในส่วนกระจังหน้าปรับลุคให้ดูเข้มขึ้น ด้วยโทนสีดำ ในรุ่น ที่เป็น Hybrid ป้ายที่บ่งบอกเป็น Hybrid กับโลโก้ Honda ที่ติดตั้งอยู่บริเวณกระจังหน้าจะถูกเปลี่ยนให้เป็นสีน้ำเงิน 

 

 

          ส่วนด้านท้ายบริเวณกันชนท้านก็เติมแต่งเพิ่มความหรูหราด้วยเส้นสายโครเมี่ยน ส่วนชุดไฟท้าย LED ปรับเปลี่ยนใหม่รูปทรง L-shaped ด้านล้ออัลลอยลายมากับลวดลายใหม่ มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว จะอยู่ในรุ่นมาตรฐาน ส่วนขนาด 18 นิ้วจะถูกติดตั้งในรุ่น Hybrid และในรุ่น 19 นิ้ว จะอยู่ในรุ่น Touring  

 

 

          ภายในห้องโดยสารของ Honda CR-V รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ยังคงมากับความหรูหราเช่นเดิม เบาะนั่งถูกออกแบบให้โอบอุ้มทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเฉพาะด้านผู้ขับขี่ ส่วนในฝั่งผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง

 

 

          พวงมาลัยเป็น 3 ก้าน แบบมัลติฟังก์ชั่น, เสริมความสะดวกสบายด้วยระบบแป้นชาร์จไฟไร้สายระบบ Qi Wireless Charger, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT-LCD, ในส่วนแผงแดชบอร์ดมากับหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เสริมด้วยระบบนำทาง Honda Sattellite-Linked Navigation System พร้อมติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake (EPB) ส่วนเครื่องปรับอากาศในห้องโดยสารนั้นเป็นแบบปรับแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา ส่วนในห้องผู้โดยสารแถวที่ 2 นั้น มีช่องชาร์จไฟแบบ USB ติดตั้งไว้ให้ด้วย ส่วนในเบาะหลังสามารถปรับได้ 60 :40 

 

 

          ส่วนขุมพลังของ Honda CR-V รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ จะมีทั้งแบบเครื่องยนต์ Hybrid และเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา โดยในเคื่องยนต์ Hybrid นั้นจะเป็นตัวเดียวกับที่อยู่ใน Accord เป็นเครื่องยนต์ DOHC Atkinson เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 16 วาล์ว  ที่ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังอีก 2 ตัว ให้พละกำลังแรงม้ารวมกันถึง 212 แรงม้า โดยมีโหมดในการขับขี่ให้เลือกตั้งแต่โหมด Econ, Sport และ EV 

          ส่วนอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo รุ่น L15B ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 

 

 

          ด้านระบบความปลอดภัยนั้นถือว่าในตลาดสหรัฐอเมริกานั้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ Honda CR-V รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่นั้นจึงจัดเต็มด้วยระบบ Honda Sensing ที่ใส่มาให้ในทุกรุ่นย่อย ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์ (CMBS) ที่มาพร้อมกับระบบการเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ  (LKAS), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW), ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (CTM) และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)

 

 

          Honda CR-V รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่ในเมืองมะกันนั้น จะมีสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีใหม่ ได้แก่ สีเทา Sonic Gray Pearl, สีแดง Radiant Red Metallic และสีน้ำเงิน Aegean Blue Metallic ส่วนในเมืองนั้นในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ จะเป็นอย่างไร หรือจะยกทั้งหมดมาจาก สหรัฐอเมริกาทั้งชุด ต้องติดตามกันเป็นระยะๆ แต่มีรุ่นไมเนอร์เชนจ์ในเมืองนั้นมีอย่างแน่นอนอีกไม่นานเกินรอ

 

Cr.motor1.com, paultan.org

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook