Mazda ประเทศญึ่ปุ่นเผยโฉม Mazda 2 รุ่น Minorchange ปรับเปลี่ยนหน้าตาทั้งภายนอก และภายใน ให้มีความลงตัวมากกว่ารุ่นก่อน พร้อมเสริมฟังช์ชั่น และระบบความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ใช้โฉมเดิมมาแล้วเป็นเวลา 5 ปี พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Mazda 2 ให้เหมือนกันทั่วโลก แทนชื่อเดิมที่เรียกรุ่นนี้ในญี่ปุ่นว่า Demio
Mazda 2 รุ่นเดิม
Mazda 2 รุ่น Minorchange
ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นได้รับการปรับเปลี่ยน โดยตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อเผยให้เห็นรูปทรงที่เรียบง่าย โดยส่วนที่เปลี่ยนแปลงจะเป็นส่วนกระจังหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยได้รับ DNA มาจากรุ่นพี่อย่าง Mazda 6 โดยกระจังหน้าใหม่นี้ถูกออกแบบให้รับกับชุดไฟหน้าทรงเรียวบาง
กระจังหน้าใหม่ของ Mazda 2 รุ่น Minorchange เวอร์ชั่นญี่ปุ่น
ชุดไฟตัดหมอกบริเวณกันชนหน้าหายไปเปลี่ยนมาเป็นเส้นโครเมี่ยม
อีกส่วนที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คงเป็นชายกันชนหน้าที่ชุดไฟตัดหมอกที่หายไป โดยมีเส้นโครเมี่ยมเข้ามาแทนตรงช่องดักอากาศด้านหน้า
ด้านท้ายของ Mazda 2 รุ่นก่อน
ด้านท้ายของ Mazda 2 รุ่น Minorchange เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ปรับเปลี่ยนที่ตรงกันชนท้าย
ส่วนด้านท้ายมีปรับเปลี่ยนที่ตัวกันชนท้ายเพิ่มเส้นโครเมี่ยมตรงท้ายกันชนให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น ส่วนล้ออัลลอยเปลี่ยนลายใหม่ ขนาด 16 นิ้ว
ส่วนภายในห้องโดยสารยังคงความสปอร์ต พร้อมปรับปรุงใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพสุงขึ้น เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ต ส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่สามารถมาปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมมีฟังช์ชั่นจดจำตำแหน่งที่นั่งคนขับ, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ด้านระบบอินโฟเทนเมนท์ Mazda Connect รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay นอกจากยังได้ติดตั้งวัสดุป้องกันเสียงเพื่อตัดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยเพิ่มมาอีกด้วย
ด้านระบบความปลอดภัยถึงแมัจะเป็นรถขนาดเล็ก แต่ Mazda 2 Minorchange คันนี้ ยังจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (จะมีเฉพาะในในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ), ระบบรักษาช่องจราจร, รวมถึงชุดไฟหน้าแบบ Adaptive LED (ALH) ที่มากับชุดไฟ LED 20 ชุด ชุดที่แยกส่วนกันอย่างเป็นอิสระ โดยจะทำงานร่วมกับกล้องตรวจจับ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน
ด้านพละกำลังของ Mazda 2 Minorchange เวอร์ชั่นญี่ปุ่น จะมีขุมพลังให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ SKYACTIV-D ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัวนี้ จะจับคู่ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ Mazda 2 Minorchange เวอร์ชั่นญี่ปุ่น นี้จะมาพร้อมกับ ระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่สามารถปรับเปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการบังคับเลี้ยวเข้าทางโค้ง จึงทำให้มีการผสมผสานระหว่างแรงขับเคลื่อนด้านข้างและด้านหน้าได้อย่างสมดุล พร้อมกับ ช่วยให้ควบคุมรถระหว่างการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงให้ง่ายมากขึ้น รวมถึงยังลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีระบบ i-ELOOP (Intelligent Energy Loop) ที่ระบบสะสมพลังงานจากแรงเบรครถ แล้วแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไฟไปหล่อเลี้ยงเครื่องปรับอากาศ, ชุดเครื่องเสียงและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยระบบนี้จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกด้วย
Mazda 2 รุ่น Minorchange เวอร์ชั่นแดนปลาดิบนี้ จะเริ่มจำหน่ายในตลาดบ้านเกิดใน วันที่ 12 กันยายน 2019 ส่วนตลาดเมืองไทยนั้น คาดว่าจะได้สัมผัสตัวจริงของ Mazda 2 Minorchange ในช่วงต้นปีหน้า ส่วนในปีนี้บ้านเราคงต้องต้อนรับกับ Mazda 3 ใหม่ กับขุมพลังใหม่ SKYACTIV-X ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2019
Cr.motor1.com
