Mercedes-Benz รุกตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเสริมทัพรถยนต์ตระกูล Mercedes-AMG ด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้พันธุ์แรงรุ่นล่าสุด Mercedes-AMG C63S Coupé โฉมใหม่ สุดลงสู่ตลาดเมืองไทย อีกทั้งเพื่อเป็นการเดินหน้าเสริมทัพพอร์ตโฟลิโอของทาง Mercedes-AMG ให้เต็มรูปแบบ
Mercedes-AMG C63S Coupé โฉมใหม่นี้ ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความปราดเปรียวเร้าใจมากยิ่งขึ้นในแบบฉบับของ Mercedes-AMG โดยเฉพาะส่วนกระจังหน้า ได้รับการปรับปรุงให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า AMG specific radiator grille แบบด้าน ด้านฝากระโปรงหน้าได้รับการปรับแต่งใหม่ด้วยเส้นสายใหม่ที่ให้ความลงตัว และสวยงามมากกว่าเดิม โดยเฉพาะโครงสร้างการบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะด้านหน้าของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น
สเกิร์ตข้างถูกดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ที่มีน้ำหนักเบาจาก AMG โดยช่องลม และองศาก้านล้อได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการพัฒนาล้ออัลลอยนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักรถ และความร้อนที่ระบบเบรก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะ รวมถึงอัตราการใช้พลังงาน ส่วนดีไซน์ของฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับปีกแบบ AMG ที่มีโครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ดูสะดุดตา รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถ
นอกจากนี้ Mercedes-AMG C63S Coupé ยังมาพร้อมกับประตูแบบไร้ขอบ พร้อมตกแต่งรอบคันด้วย AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง) เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสงโดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้
ซึ่งระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟ LED มาตรฐาน เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย นอกจากนี้ ระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะทำงานอัตโนมัติหากระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่ใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ โดยสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร พร้อมกันนี้ยังเสริมความหรูหราด้วย หลังคาแก้วแบบ panoramic sliding sunroof ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย
ส่วนภายในห้องโดยสาร Mercedes-AMG C63S Coupé มาพร้อมชุดเบาะที่นั่ง AMG Performance seats ที่ถูกหุ้มด้วยหนังแท้ เสริมทั้งพนักพิงหลัง และปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อปกป้องด้านข้างของผู้ขับขี่ขณะขับรถด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น พนักพิงศีรษะที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยปลุกเร้าความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับการอุ่นเบาะ ที่ปรับได้ถึง 3 ระดับ
เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่มีโหมดการแสดงผล 3 แบบ ในสไตล์ AMG คือ Classic, Sport และ Super sports พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกคำสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว และสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสริมด้วยความความสปอร์ตเร้าใจด้วยพวงมาลัยรุ่นใหม่แบบ AMG Performance Steering Wheel ที่หุ้มด้วยหนัง Nappa ตัดสลับกับ DYNAMICA Microfibre ที่มีรูปทรงสปอร์ตท้ายตัดที่ออกแบบเป็นวงโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับปุ่ม AMG steering wheel button สามารถใช้คำสั่งหรือก้านควบคุมต่างๆ
ส่วนที่คันเกียร์ที่คอพวงมาลัยชุบวัสดุโลหะ และรองรับโหมดเกียร์ธรรมดา และTouchpad 2 ข้าง ที่คอพวงมาลัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรุ่นนี้ โดยด้านซ้ายใช้ควบคุมแผงหน้าปัด และ Cruise Control ด้านขวาใช้ควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบโทรศัพท์ ระบบสั่งการด้วยเสียง นอกจากนี้ Mercedes-AMG C63S Coupé ยังมีระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ด้านระบบ Infotainment มาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานร่วมกับ COMAND Online พร้อม Touchpad และ Controller ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester® และยังมีระบบ Premium Ambient Lighting ที่สามารถปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร ถึง 64 สี
ด้านระบบความปลอดภัย ที่มีอย่างมากมาย อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE®, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ,ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน, ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA, ระบบรักษาความเร็ว และจำกัดความเร็ว, ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่, พร้อมถุงลมนิรภัย 7 ลูก 9 ตำแหน่ง, เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth
ส่วนระบบเทคโนโลยี Mercedes-AMG C63S Coupé คันนี้ก็ใส่มาให้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นชุดคำสั่ง AMG เพื่อที่จะรับทราบข้อมูลต่างๆของตัวรถเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ให้มีความสปอร์ตจนถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออุณหภูมิของเหลว (Warm-up) ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และแรงดันในโหมด Boost, หน้าจอการตั้งค่า (Setup) แสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบกันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบ ESP® และเกียร์ที่ใช้อยู่, หน้าจอแรงจี (G-Force) แสดงแรงจีปัจจุบันที่กดลงมาที่ตัวรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วใดๆ และให้คำแนะนำในการขับขี่ให้เหมาะสม, หน้าจอจับเวลา (Race Timer) สำหรับการจับเวลาโดยตัวผู้ขับขี่เอง ซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบพร้อมทั้งแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อย และมากที่สุดได้พร้อมกัน รวมถึงระยะที่ขับขี่และความเร็วเฉลี่, หน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์ (Engine data) แสดงแรงบิด และกำลังเครื่องยนต์แบบกราฟแท่ง รวมถึงแรงดันในโหมด Boost นอกจากนี้ Mercedes-AMG ยังติดตั้งหน้าจอดิจิทัลสำหรับแสดงความเร็ว และเกียร์ปัจจุบัน เมื่อเปิดการใช้งานโหมดเกียร์ธรรมดา โดยสัญลักษณ์ตัว M สีเหลืองจะปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอ และรถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Comfort, Sport, Sport+, Race และ Slippery เพื่อช่วยกระจายกำลังให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และเหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝนหรือหิมะ
ด้านขุมพลังความแรง ของ Mercedes-AMG C63S Coupé มากับเครื่องยนต์ เบนซิน V8 ขนาด 4 ลิตร Bi-turbo ขนาดความจุ 3,982 ซีซี. ที่มาพร้อมกับความเร้าใจถึง 510 แรงม้า ที่มากับแรงบิด 700 นิวตัน-เมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด 290 กม./ ชม. ส่วนราคาของ Mercedes-AMG C63S Coupé อยู่ที่ 10,129,000 บาท
