ฟอร์ด ประเทศไทย ได้จัดทริปพิเศษเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดลองขับ Ford Ranger แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการทดสอบรถเท่านั้น แต่แฝงไปด้วยภารกิจที่พิเศษสุดคือภารกิจ “Mission Possible” นั่นคือการไปให้ถึงโรงเรียนที่อยู่ในเขตห่างไกล พร้อมกับเข้าไปช่วยเหลือ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร อีกทั้งร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิตของบรรดาเด็กนักเรียน ซึ่งเส้นทางที่จะเข้าไปนั้นต้องฝ่าฝันกับเส้นทางที่หลากหลาย ไม่วาจะเป็น บนเส้นทางเรียบ ทางโค้งลัดเลาะบนเขาสูง รวมถึงเส้นทางออฟโรดที่ยากจะเข้าถึง
ลัดเลาะฝ่าป่าเขาบนเส้นทาง On Road
ฝ่าสายฝนไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง
กับทางลาดชัน ด้วยพลังกำลังเครื่องยนต์ 2.0L Turbo กับเกียร์อัตโมมัติ 10 สปีด จึงไม่ใช่ปัญหาในการเดินทาง
โดยภารกิจ “Mission Possible” ในครั้งนี้จุดหมายปลายทางอยู่ที่ชุมชนเขตวัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง บ้านเลตองคุ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งพาหนะคู่กายที่จะร่วมทางในการทำภารกิจครั้งนี้เป็นเจ้า รถกระบะพันธุ์แกร่ง Ford Ranger รุ่น 2.0L Turbo Limited 10AT เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะชุดใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์
วันแรกกับภารกิจ Mission Possible
ในวันแรก หลังจากเดินทางมาถึงท่าอากาศยานอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คาราวานรถ Ford Ranger กว่า 10 คันด้วยกัน ได้จอดรอท่าที่สนามบินแม่สอด พร้อมเป็นพาหนะคู่กายตลอดทริปในการทำ ภารกิจสุดพิเศษนี้ เริ่มจากด้วยการจับจ่ายและเลือกซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับกิจกรรมที่ทางสื่อมวลชนจะเข้าไปร่วมพัฒนาชุมชนในเขตพื้นที่ทุรกันดาร ไม่ว่าจะเป็นอาหาร แท้งก์น้ำ เครื่องปั่นไฟ โซลาร์เซลล์ และวัสดุก่อสร้างเพื่อใช้ในการบูรณะโรงเรียนและสถานที่สาธารณะในชุมชน ซึ่งล้วนมีน้ำหนักมาก
โดยทาง BoxzaRacing กับสมาชิกในรถอีก 2 ท่าน ได้รับภารกิจให้ไปขนผลไม้ ซึ่งมีทั้งสับปะรด, กล้วย และแคนตาลูป ซึ่งรวมน้ำหนักว่า 300 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีน้ำหนักของสมาชิกในรถคันนี้ เข้าไปอีก 3 คน รวมกันไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม เป็นแน่ แต่เจ้า Ford Ranger นั้นได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ด้วยศักยภาพที่เหนือชั้นในการบรรทุกได้กว่า 961 กิโลกรัม และลากจูงได้สูงถึง 3,500 กิโลกรัม พร้อมพื้นที่ท้ายกระบะกว้างและฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift Tailgate ช่วยลดการออกแรงและเพิ่มความสะดวกในการปิดเปิดฝาท้าย ทำให้สื่อมวลชนจิตอาสาสามารถจัดการงานหนักได้อย่างง่ายขึ้น จากนั้นคณะจึงออกเดินทางพร้อมสัมภาระหนักต่างๆ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะและความทนทานของ Ford Ranger กันต่อ และด้วยช่วงล่างที่แข็งแกร่งและโครงสร้างพิเศษที่เชื่อมต่อด้วย Ford Smart Mount ช่วยกระจายน้ำหนักไปทั่วท้ายกระบะ
ขณะที่ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร กว้างขวางที่มากพอ นั่งได้สบายทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เบาะที่นั่ง นั่งสบายเข้ากับตัวได้ดี ส่วนในด้านการขับขี่ต้องบอกว่าดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นระบบพวงมาลัยไฟฟ้าและระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ทำให้การควบคุมรถและการทรงตัวผ่าน 2,019 โค้ง ตลอดเส้นทางกว่า 170 กิโลเมตร จากอำเภอแม่สอดไปยังอำเภออุ้มผาง เป็นไปได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย และปลอดภัย ถึงแม้ว่าตลอดเส้นทางในวันแรกนี้จะเป็นไปด้วยทางเขาที่คดเคี้ยวไปมาตลอดเส้นทางรวมทั้งยังมีฝนตกตลอดทาง ซึ่งก็ไม่ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใดกับเจ้า Ford Ranger Limited คันนี้
จุดหมายปลายทาง ภารกิจ Mission Possible ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ
ในวันถัดมา คณะสื่อมวลชนพร้อมออกเดินทางสู่บ้านเลตองคุ พื้นที่วัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงลัทธิฤาษีที่มีประวัติศาสตร์นานกว่า 200 ปี ที่ยังคงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลก วิถีชีวิตของกระเหรี่ยงเลตองคุ คือการปลูกพืชสวน พืชไร่ โดยยังคงรักษาวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อแบบดั้งเดิมไว้ เช่น การห้ามตัดผม โดยผู้ชายจะมวยผมไว้ตรงกลางหัว ส่วนผู้หญิงจะมวยผมไว้ที่ท้ายทอย ชาวเลตองคุจะไม่เลี้ยงและไม่กินเนื้อสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เช่น หมู เป็ด ไก่ สัตว์ที่เลี้ยงเช่น ช้าง วัว และควาย จะเอาไว้ใช้งานเท่านั้น ห้ามกินเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ มีบุญคุณ และถ้าสัตว์เหล่านี้ตายไปจะต้องทำพิธีเผาให้ด้วย ส่วนสัตว์ที่ชาว เลตองคุกินคือปลาและสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงไว้ นอกจากนี้ยังห้ามดื่มเหล้าด้วย หมู่บ้านเลตองคุเคร่งครัดเรื่องประเพณี ความเชื่อ และมีกฎระเบียบเป็นอย่างมาก
เส้นทางอันทุรกันดารก่อนเข้าถึงบ้านเลตองคุ
ในการเดินทางเข้าถึงบ้านเลตองคุ ซึ่งตั้งอยู่กลางหุบเขาบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ต้องเดินทางผ่านแนวเขาทางโค้งและขึ้นลงลาดชัน ต่อด้วยเส้นทางที่แคบและขรุขระ เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร คาราวานรถ Ford Ranger ได้ขับขี่ด้วยระบบ 4x4 พร้อมทดสอบอัตราเร่งและสมรรถนะของเครื่องยนต์และเกียร์ของรุ่นใหม่ Limited พร้อมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่มอบพละกำลังสูงถึง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร ทำให้การเดินทางบนเส้นทางที่ยากลำบากและทุรกันดารเป็นเรื่องง่ายดาย นอกจากนี้ ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (HDC) ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดแบบสมบุกสมบันอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ford Ranger
บูรณะสะพานไม้ที่ชำรุดที่ใช้เป็นทางเข้าออกหลักระหว่างหมู่บ้านกับชุมชนภายนอก
จุดหมายปลายทาง โรงเรียน ตชด. บ้านเลตองคุ
เมื่อเดินทางถึงบ้านเลตองคุ ทัพสื่อมวลชนได้ร่วมแรงร่วมใจทำภารกิจ เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนเขตวัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการบูรณะสะพานไม้ที่ชำรุดที่ใช้เป็นทางเข้าออกหลักระหว่างหมู่บ้านกับชุมชนภายนอก รวมถึงร่วมแรงร่วมใจกันปรับปรุงและฟื้นฟูโรงเรียน ตชด. บ้านเลตองคุ
เปลี่ยนหลังคาโรงอาหารที่ชำรุดทรุดโทรม
ติดตั้งเสาไฟโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มแสงสว่าง
ติดตั้งเครื่องกรองน้ำและแท้งก์น้ำ
โดยเปลี่ยนหลังคาโรงอาหารที่ชำรุดทรุดโทรม ปรับปรุงพื้นกระเบื้องยางในห้องเรียนเพื่อให้เด็กๆ เรียนหนังสือได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทาสีอาคารเรียนใหม่ ติดตั้งเสาไฟโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มแสงสว่าง ติดตั้งเครื่องกรองน้ำและแท้งก์น้ำเพื่อให้ชุมชนมีน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภค และปรับปรุงระบบแสงสว่างให้สุขศาลาประจำหมู่บ้าน โดยอุปกรณ์ต่างๆ ได้บรรทุกเข้ามาโดย Ford Ranger ทั้ง 10 คัน หลังเสร็จภารกิจ สื่อมวลชนได้ตั้งแคมป์พักแรม และรับประทานอาหารพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยงฤาษี พร้อมชมการแสดงพื้นบ้าน รำตง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน
รอยยิ้มของเด็กๆคือความสำเร็จในภารกิจครั้งนี้
จบภารกิจ ที่เป็นไปได้ Mission Possible
วันรุ่งขึ้น สื่อมวลชนได้ออกเดินทางสู่บ้านเปิ่งเคลิ่ง สุดเขตชายแดนประเทศไทย ติดบ้านห้วยแดนทางฝั่งพม่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่สำคัญและมีประวัติความเป็นมามากว่า 100 ปี ระหว่างการเดินทาง คณะสื่อมวลชนยังได้ทดสอบการขับขี่แบบต่างๆ
เส้นทางขาออกแสนหฤโหดทั้งลื่นและชัน
โดยเฉพาะในเส้นทางออฟโรด แบบเต็มๆ ก่อนออกจากหมู่บ้าน เพราะด้วยเส้นทางกลายเป็นเส้นทางที่ทั้งลื่นและแฉะ กลายเป็นดินโคลน หรือที่เรียกว่าถนนแบบหนังหมู เพราะเหตุจากฝนที่กระหน่ำตกลงมา แต่ด้วยการใช้ระบบ 4x4 Low ที่มาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้าย และได้เกียร์กับเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง จึงทำให้การขับขี่แบบออฟโรดบนเส้นทางโหดผ่านไปอย่างไม่อย่างลำบาก เป็นการปิดท้ายทริปภารกิจเพื่อชุมชนในพื้นที่ห่างไกล อย่างประทับใจ
ภารกิจ Mission Possible ของทาง Ford ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของ Ford Ranger กับคำนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าเส้นทางจะห่างไกล อุปสรรคนานา ทั้งหนทางที่ยากเข้าถึง ด้วยตัวรถที่เป็นแบบเดิมๆสแตนดาร์ดจากโรงงาน ไม่มีการแต่งเติมแต่อย่างใด เพียงรวมพาหนะที่ดี กับพลังใจที่จะเข้าไปให้ถึงสู่จุดหมาย ความสำเร็จ และภารกิจย่อมต้องผ่านไปด้วยดีเช่นกัน ตอกย้ำคำว่าเป็นไปไม่ได้ ให้ "เป็นไปได้" สมกับภารกิจของทาง Ford ที่บอกว่าเป็น Mission Possible
