B-Quik Racing เดินหน้าสู่รอบที่ 2 ของการแข่งขันรายการ Thailand Super Series(TSS) 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้ หลังทำผลงานคว้าโพเดี้ยมอันดับ 1 มาแล้ว 3 ครั้งในรายการนี้นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล สำหรับในการแข่งขันสนามนี้ ทีมได้มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อนักแข่งในรุ่น Super Car GT3 โดยได้ Martin Rump มาเป็นทีมเมทให้กับ แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ใน Audi R8 LMS Ultra หมายเลข 2 ในขณะที่ เฮงก์ กิกส์ และ แดเนียล บิลสกี จะยังคงใช้รถแข่ง Audi R8 LMS GT3 Evo หมายเลข 26 เช่นเคย รวมทั้งนักแข่งจูเนียร์โปรแกรมของ B-Quik ก็จะลงทำศึกครั้งนี้ด้วย
ทีมจะเดินทางกลับไปยังบุรีรัมย์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้อีกครั้ง หลังจากคว้าแชมป์รุ่น Am ในรายการ Blancpain GT World Challenge Asia ซึ่งจัดขึ้นที่นี่เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว โดยชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับเฮงก์และแดเนียลที่ต้องพยายามต่อสู้อย่างหนักกว่าที่เคยในการแข่งขันที่เรียกว่าดุเดือดที่สุดของเอเชีย การคว้าชัยในการแข่งขันเรซที่ 2 ของรายการ Blancpain GT World Challenge และการคว้าโพเดี้ยมอันดับที่ 3 ในการแข่งขันเรซแรก ทำให้จนถึงตอนนี้ทีมได้ขึ้นโพเดี้ยมมาแล้วถึง 5 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล ภายใต้รถแข่ง Audi R8 LMS GT3 Evo 2019 คันใหม่ ซึ่งทีมนั้นรู้สึกพอใจกับผลงานนี้เป็นอย่างมาก โดยผลงานทั้ง 5 โพเดี้ยมนี้ประกอบด้วยการคว้าแชมป์ 3 ครั้ง และโพเดี้ยมอันดับ 3 อีก 2 ครั้ง
ในปีนี้ ทีมได้ใช้รถแข่ง Audi R8 LMS GT3 Evo รุ่นใหม่ล่าสุดลงทำศึก เฮงก์และแดเนียลสามารถรีดฟอร์มและทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในการลงสนามแต่ละครั้ง ซึ่งนั่นคือเป้าหมายของทีมในปีนี้ในการพัฒนาทีมไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในทุกๆ ด้าน และในสุดสัปดาห์นี้ ทีมจะมุ่งหน้าไปยังการแข่งขันรอบที่ 2 ของรายการ TSS 2019 โดยรั้งตำแหน่งผู้นำบนตารางแชมป์ประเภทนักขับและประเภททีมในรุ่น Super Car GT3 ในขณะเดียวกัน รถแข่ง Audi R8 LMS Ultra หมายเลข 2 ซึ่งมีแซนดี้เป็นนักขับ ในสุดสัปดาห์นี้ แซนดี้จะได้ร่วมงานกับ Martin Rump นักแข่งชาวเอสโตเนีย วัย 23 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแข่งดาวรุ่งของการแข่งรถในเอเชีย และในปีนี้เขายังได้รับหน้าที่เป็นเมนเทอร์ให้กับนักแข่งในการแข่งขันรายการ Audi Sport R8 LMS Cup series อีกด้วย ด้วยฝีมือและความสามารถ แน่นอนว่าเขาได้พกพาเอาประสบการณ์มากมายในรถแข่งออดี้มาด้วย และทีมเองก็คาดหวังว่านักแข่งหนุ่มทั้งสองจะสามารถนำชัยชนะมาสู่ทีมได้
ทางด้าน 4 นักแข่งจูเนียร์โปรแกรมจะลงทำศึกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน โดย นรินทร์ แนวสถล และ สถาพร วีระเชื้อ จะแชร์รถแข่ง Dodge Challenger หมายเลข 26 ในรายการ TA2 Thailand ในขณะที่ในรุ่น Super Eco นั้นจะได้ 2 นักแข่งจูเนียร์โปรแกรมรุ่นที่ 2 คือ พงษ์ทนุ คำใส และ อดิศักดิ์ ตั้งพูลเจริญ รับหน้าที่นักขับในรถ Honda Brio หมายเลข 25 และ 26 ตามลำดับ โดยการแข่งสนามนี้เป็นการแข่งสนามแรกของพวกเขาในปีนี้ และเป็นการแข่งขันปีที่ 2 ของนักขับทั้งคู่ในรุ่นเล็กอย่าง Super Eco
ทางด้าน เฮงก์ กิกส์ ผู้ที่ทำหน้าที่ลงขับ Audi R8 LMS GT3 Evo หมาเลข 26 ในรุ่น Super Car GT3 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเริ่มต้นได้ดีมากในปีนี้ และเราต้องการแน่ใจว่าเราจะทำผลงานได้อีกในสุดสัปดาห์นี้ การแข่งในปีนี้ไม่ง่ายและดุเดือดขึ้นอีกในรอบนี้ การคว้าโพเดี้ยมและเก็บคะแนนให้มากที่สุดคือเป้าหมายของเราในสุดสัปดาห์นี้ และทุกคนในทีมก็พร้อมแล้วสำหรับการแข่งครั้งนี้ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับ มาร์ติน รัมพ์ มาร่วมทีม เขาเป็นคู่หูที่เพอร์เฟ็กต์มากสำหรับแซนดี้ในรถ Audi R8 LMS Ultra และเราคาดหวังผลงานที่ดีจากรถแข่งคันนี้ ตอนนี้ได้เวลาที่เราจะเริ่มต้นทำงานกันอย่างหนัก และหวังว่าเราจะสามารถสานต่อความสำเร็จที่เราได้รับมาในปีนี้"
ส่วนทางด้าน แดเนียล บิลสกี อีกหนึ่งนักขับ Audi R8 LMS GT3 Evo หมาเลข 26 ในรุ่น Super Car GT3 ก็ได้เสริมว่า “หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างสวยงาม เราได้มาถึงการแข่งขัน Thailand Super Series ด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเรามาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า และต้องการทำผลงานให้ดีกว่าเดิม การแข่งขันจะต้องดุเดือดอย่างมาก ดังนั้นเราจึงรู้ว่าเราต้องพยายามอย่างเต็มที่ ต้องโฟกัสและพยายามผลักดันตัวเราเองไปสู่ขีดจำกัดใหม่ พวกเราพร้อมแล้ว”
สำหรับ แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งที่ลงขับ Audi R8 LMS Ultra GT3 หมายเลข 2 ที่ลงแข่งในรุ่น Super Car GT3 ให้สัมภษณ์ว่า “ผมรอคอยที่จะได้ลงแข่งคู่กับมาร์ติน รัมป์ ในรถ Audi R8 หมายเลข 2 ผมมั่นใจว่าเราจะเป็นคู่ที่แข็งแกร่งในการแข่งที่บุรีรัมย์ ผมรู้สึกมุ่งมั่นและพร้อมสำหรับการแข่งขัน ตอนนี้ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะได้กระโดดกลับเข้าไปในรถแข่ง”
ส่วนมาร์ติน รัมพ์ คู่หูของทาง แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ก็เผยว่า “ผมตื่นเต้นมากที่จะได้มีส่วนร่วมเป็นครั้งแรกในรายการ TSS สุดสัปดาห์นี้ แล้วก็ยังเป็นครั้งแรกของผมในรถ Audi R8 LMS Ultra GT3 ด้วย ผมชอบสนามและบรรยากาศที่บุรีรัมย์ ดังนั้นผมจึงดีใจมากที่ได้กลับมาที่นี่ ผมรอที่จะได้สนุกและประสบความสำเร็จกับ B-Quik ในสุดสัปดาห์นี้!"
ด้านนรินทร์ แนวสถล ที่ลงขับ Dodge Challenger หมายเลข 26 ที่ลงทำการแข่งขันในรุ่น TA2 Thailand เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่จะได้กลับมาที่สนามบุรีรัมย์อีกครั้ง แต่ผมก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการแข่งมากขึ้น รถ Dodge Challenger นั้นแรงมาก แต่ก็มีบอดี้ที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ต้องใช้ทักษะในการขับมาก แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งผมและสถาพรได้รู้จักรถแข่งมากขึ้นจากการแข่งขันที่เซปัง ดังนั้นเราจึงคาดหวังผลงานที่ดีขึ้นที่บุรีรัมย์ เราสองคนจะทำให้ดีที่สุดในการแข่งครั้งนี้ครับ”
ปิดท้ายด้วย สถาพร วีระเชื้อ คู่หูของทาง นรินทร์ แนวสถล กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นมากกับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง การแข่งขันที่เซปังทำให้ผมได้เรียนรู้หลายอย่างและให้ประสบการณ์กับผมได้ดีมาก ผมเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และรู้ว่าจะต้องปรับปรุงอะไรในการแข่งครั้งต่อไป สนามที่บุรีรัมย์เป็นสนามที่ผมเคยขับทดสอบรถ TA2 มาแล้ว รวมถึงมีประสบการณ์ตอนแข่ง Brio ดังนั้นผมคิดว่าผมน่าจะทำผลงานที่สนามนี้ได้ดี ผมจะตั้งใจทำผลงานอย่างเต็มที่ รวมถึงนรินทร์ทีมเมทของผมด้วย เราจะทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อผลงานที่ดีครับ"
