เขียนโดย: Mr Argus

เมื่อ: 22 เมษายน 2562 - 12:31

Mercedes-Benz GLC-class ไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนกระจังใหญ่ ไฟหน้าโต พร้อมพลิกดีไซน์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

          Mercedes-Benz GLC-class รถเอสยูวีขนาดกลางสุดหรู ได้เปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์ หรือปรับหน้าใหม่ ที่หันมาใช้ชิ้นส่วนด้านหน้าร่วมกับรุ่น GLC-Coupe ที่ไมเนอร์เชนจ์ไปพร้อมกันในปีนี้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เอกลักษณ์ด้านหน้าใหม่ พร้อมกับมีดีไซน์ท้ายรถที่พลิกประวัติศาสตร์การออกแบบของเบนซ์ไปด้วย

 

 

          ความเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดเจนตรงที่ด้านหน้า มีกระจังหน้าเปลี่ยนจากเดิมทรงชามหงาย มาเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูฐานกว้าง ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รับกับไฟหน้าทรงใหม่แบบสี่เหลี่ยมมุมมน ให้ความดุดันด้วยกันชนหน้าทรงใหม่ ที่มีเส้นสายป้านลงไปขอบล่างแบบคนหน้าบึ้ง มีแผงพลาสติกสีดำทรงยาว ที่เชื่อมต่อช่องข้างกันชนซ้ายขวาดูเป็นชิ้นเดียวกัน (จากเดิมที่แยกชิ้น) เป็นชิ้นส่วนที่ใช้ร่วมกับรุ่น GLC-Coupe พิมพ์เดียวกันเป๊ จนเรียกว่าถ้ามองหน้าตรงแล้วก็แยกไม่ออกเลยว่ามันคือ GLC-Class หรือ GLC-Coupe

 

 

          Mercedes-Benz GLC-class โฉมไมเนอร์เชนจ์ มีด้านข้างและด้านท้ายโดยรวมเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนลายไฟท้ายใหม่ จากเดิมที่เป็นเส้นลายขีดแนวนอน อันเป็นเอกลักษณ์ของเบนซ์มาตั้งแต่ยุค 70 ที่ดีไซน์โคมไฟหยักร่องลูกฟูกกันหิมะปกคลุม สืบทอดลายเส้นแนวนอนนี้มาเรื่อยๆจนถึงยุคนี้ ได้เปลี่ยนเป็นลวดลายไฟท้ายเป็นสี่เหลี่ยมคู่ ใช้ระบบเส้น LED นับเป็นการฉีกธรรมเนียมการดีไซน์ของเบนซ์ ส่วนชายล่างกันชนเพิ่มดิฟฟิวเซอร์ และเปลี่ยนแผงทับทิมแยกส่วนออกมาจากแผงพลาสติกกันกระแทก

 

 

          ภายในเด่นชัดเจนกับพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนทัชแพดตรงกลางเป็นทรงใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม  เปลี่ยนขนาดจอแสดงผลเป็น 10.25 นิ้ว พร้อมระบบ MBUX ทางด้านเรือนไมล์เป็นจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ที่เบาะนั่งสี Magma Grey หุ้มเบาะด้วยวัสดุหนังไวนิล MB-Tex หรือวัสดุหนังแท้เลือกได้ตามใจชอบ

          ด้านระบบความปลอดภัยที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ เพิ่มฟังก์ชั่นทั้งระบบป้องกันประตูกระแทกสิ่งกีดขวางเมื่อเปิดประตูรถ, ระบบเตือนหลบรถกู้ภัย, ระบบแปรผันความเร็วตามสภาพจราจร ฯลฯ

 

 

          ขุมพลังของ Mercedes-Benz GLC-Class เริ่มต้นกับรุ่น GLC 200 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ กำลัง 195 แรงม้า และแรงบิด 280 นิวตัน-เมตร ต่อมาเป็นรุ่น GLC 300 กับพลังไฮบริดที่ติดมอเตอร์แทนที่ไดสตาร์ท ให้กำลังเพิ่มขึ้นอีก 14 แรงม้า กับแรงบิดเพิ่มขึ้น 150 นิวตัน-เมตร

          ทางด้านเครื่องยนต์ดีเซล จะมีในรุ่น GLC 200d สมรรถนะ 163 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร, รุ่น GLC 220d สมรรถนะ 194 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร สุดท้าย GLC 300d สมรรถนะสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร

           Mercedes-Benz GLC-Class Minorchange เปิดตัวแล้วในยุโรปและอเมริกาเหนือ และพร้อมวางจำหน่ายเป็นรุ่นปี 2020 ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป ส่วนบ้านเรารอลุ้นมาแบบนำเข้าทั้งคันปลายปีนี้

 

 

CR : carscoop

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook