เขียนโดย: AEFOTO

เมื่อ: 13 มีนาคม 2562 - 17:02

Top 10 ซุปเปอร์คาร์ ที่เร็วแรงและแพงสุดในโลก เปิดตัวแล้วที่งาน Geneva Motor Show 2019

 

          ถึงแม้ในปีรถที่ออกมาโชว์ในงาน Geneva Motor Show 2019 จะออกมาเป็นในแนวประเภทรถพลังงานทางเลือกธีมรักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อมกันเป็นส่วนใหญ่ แต่รถประเภท Supercars และ Hypercars ในงาน Geneva Motor Show 2019 ก็ยังมีให้ชมกันอยู่มากเช่นกัน คือมีทั้งประเภททั้งเร็วและแรง ที่สำคัญแบบแพงสุดในโลกก็มีอยู่ด้วย เราจึงคัด 10 ดาวเด่นภายในงานมาฝากกันไปดูกันว่า 10 ตัวที่ว่ามีอะไรกันบ้าง

 

 

          1.Ferrari F8 Tributo ถือว่าเป็นขาประจำในงาน Geneva Motor ทุกๆ ครั้ง และในปีนี้ Ferrari ได้เปิดตัว Ferrari F8 Tributo ม้าลำพองสายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นซูเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุด ด้วยแรงม้านี้ที่มีถึง 720 ตัว แรงบิดอยู่ที่ 770 นิวตัน-เมตร ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่เพียง 2.9 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ที่ 340 กม./ชม. รถรุ่นนี้มาแทนที่รุ่น Ferrari 488 GTB พร้อมกับได้รับการพัฒาใหม่หมดเพื่อเพิ่มขีดจำกัดการควบคุมให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่กับเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ อีกทั้งยังเบากว่า และมีประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาตร์ดีกว่าเดิมถึง 10% ถ้าเทียบดูแล้ว เจ้า Ferrari F8 Tributo คันนี้จะดูเหลื่อมๆและล้ำกว่า Mclaren 720S อยู่นิดๆ

 

 

          2.Lamborghini Huracan Evo Spyder กระทิงสายพันธุ์ดุ ซูเปอร์คาร์เวอร์ชั่นเปิดหลังคา  เป็นรุ่นหลังคาผ้าใบที่ควบคุ้มด้วยไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลาในการกางและเก็บหลังคาผ้าใบเพียง 17 วินาที มากับเครื่องยนต์บล็อก V10 ขนาด 5.2 ลิตร สามารถเค้นแรงม้าออกมาได้ถึง 640 ตัว แรงบิดอยู่ที่ 600 นิวตัน-เมตร  ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. นั้น อยู่ที่ 3.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดของกระทิงเปลี่ยวตัวนี้อยู่ที่ 325 กม./ชม. แต่ไฮไลท์น่าจะไม่ใช่อยู่ที่ความแรง แต่คงอยู่ที่ ราคาที่เรียกว่าไม่แรงอย่างที่คิดเพาะเคาะราคาไว้ที่  202,437 ยูโรหรือราว 7,220,000 บาท

 

 

          3.Lamborghini Aventador SJV Roadster เป็นกระทิงเปลี่ยวอีกตัวที่อยู่ในงาน Geneva Motor Show 2019 นี้ Lamborghini Aventador SVJ Roadster ที่มาพร้อมการยกระดับทั้งบุคลิกและสมรรถนะให้โดดเด่นเกินใคร ด้วยความแรงอย่างเหนือชั้นกับเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.5 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 770 แรงม้า แรงบิด 720 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ISR 7 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดทะลุ 350 กม./ชม. ที่สำคัญ Lamborghini Aventador SVJ Roadster จะถูกผลิตเพียง 800 คันเท่านั้น

 

 

          4.Aston Martin Vanquish Concept รถแรงสายพันธุ์ผู้ดีอังกฤษ ที่ประกาศก้องภายในงานว่ารถคันนี้จะมาเป็นคู่ต่อกรกับ McLaren 720S และ Ferrari F8 Tributo ในอนาคต ที่มาในขุมพลัง V6 Twin-Turbo ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องยนต์ ของ Aston Martin AM-RB 003 และเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ จะพร้อมเข้าสู้สายการผลิตในปี 2022

 

 

          5.Aston Martin AM-RB 0030 ไฮเปอร์คาร์พลังไฮบริด เป็นรถแรง 1 ใน 2 ของรถทางค่าย Aston Martin รถสัญชาติอังกฤษ ที่มาโชว์ในงาน Geneva Motor Show 2019 เป็นรถไฮเปอร์คาร์ เครื่องยนต์วางกลางรุ่นที่ 3 ของทาง Aston Martin รูปลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตารวมถึงพละกำลังได้รับ DNA ถ่ายทอดมาจาก Aston Martin Valkyrie โดยขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด V6 เทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Aston Martin AM-RB 0030 นี้ จะถูกผลิตออกมาว่างจำหน่ายเพียง 500 คัน เท่านั้น

 

 

          6.Ginetta Akula ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ผลิตชื่อดังเหมือนกับแบนด์อื่นๆ แต่ Ginetta Akula ก็ทำให้ผู้คนที่ในงาน Geneva Motor Show 2019 ต้องหยุดดูและพิจารณาเจ้า Ginetta Akula รถซุปเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษคันนี้ เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดุดัน และสมรรถนะที่ร้องแรงด้วยแรงม้าถึง 575 ตัว พร้อมที่จะมาเป็นคู่ต่อกรกับค่ายม้าลำพอง Ferrari หรือกระทิงดุ Lamborghini Ginetta ได้ใช้ชื่อ Akula ในรถรุ่นนี้ ซึ่งที่มาของชื่อแปลว่า ฉลาม ในภาษารัสเซีย ซึ่งก็เหมาะสมกับรูปร่างหน้าตาของมันที่เน้นการออกแบบได้มีความดุดัน และหน้าตาเหมือนกับปลาฉลามนั่นเอง  ซูเปอร์คาร์ของ Ginetta Akula มากับเครื่องยนต์ V8 ได้จับคู่กับระบบส่งกำลังผ่านเกียร์ Sequential 6 สปีด จึงทำให้มีแรงม้าติดตัวมาถึง 575 ตัว พร้อมกับแรงแรงบิดถึง 700 นิวตัน-เมตร เจ้า Ginetta Akula จะผลิตเพียงแค่ 20 คัน เท่านั้น แต่ว่ามีข้อมูลล่าสุดว่าได้จับจองเป็นเจ้าของไปแล้วถึง 12 คัน

 

 

          7.Bugatti La Voiture Noire ไฮเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดจากค่ายรถฝรั่งเศส ที่เรียกกระแสและผู้คนในงาน Geneva Motor Show 2019 ได้มากที่สุดคันหนึ่งในงาน เพราะด้วยค่าตัวที่ Bugatti ตั้งไว้สำหรับ Bugatti La Voiture Noire สูงถึง 18.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Bugatti La Voiture Noire รถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก นอกจากราคาที่สูงแล้วเครื่องยนต์ยังคงความแรงของ Bugatti La Voiture Noire นั้นก็สูงตามค่าตัว โดยขุมพลังของ Bugatti La Voiture Noire นั้นเป็นเครื่องยนต์ เบนซิน W16 สูบ ความจุ 8.0 ลิตร Quad-Turbo ทำกำลังสูงถึง 1,479 แรงม้า และแรงบิดที่ 1,600 นิวตัน-เมตร ให้ทำความเร็วสูงสุดที่ 380 กม./ชม. และไฮไลท์ที่สำคัญของ Bugatti La Voiture Noire คือมีเพียงคันเดียวในโลกเท่านั้น

 

 

          8.Koenigsegg Jesko ไฮเปอร์คาร์คันแรงจากดินแดนสแกนดิเนเวีย สวีเดน ได้ถูกออกแบบใหม่ทั้งตัว โดยเจ้า Koenigsegg Jesko จะมาทดแทนเจ้า Koenigsegg Agera RS โดยโครงสร้างทั้งหมดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ พละกำลัง  Koenigsegg Jesko  นั้นมาจากเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo ความจุ 5.0 ลิตร ทำให้ผลิตกำลังได้ 1,280 แรงม้า ด้วยน้ำมันออกเทน 95 แต่ถ้าหากใช้เชื้อเพลิง E85 จะปลดล็อคแรงม้าเพิ่มเป็น 1,600 แรงม้า กับแรงบิด 1,500 นิวตัน-เมตร พร้อมกับทำความเร็วสูงสุดที่ ทำความเร็วสูงสุดได้ 482 กม./ชม 

 

 

          9.Rimac C Two ไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า ผู้สืบทอดตำนานไฟฟ้าจาก Rimac Concept One ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากโครเอเชีย Rimac Automobili ได้เปิดตัว Rimac C Two ภายนอกถูกออกแบบในรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ในแบบของยานยนต์แห่งโลกอนาคต  ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ติดตั้งเอาไว้หมุนล้อคู่หน้า-หลัง จึงทำให้มีพละกำลังถึง 1,914 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม.-ชม. ในเวลาเพียง 1.85 วินาที เรียกได้ว่า Rimac C Two คันนี้เร็วและแรงในกลุ่มรถไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า ที่ว่า Tesla Roadster  แน่ๆเจอเจ้า Rimac Concept One ก็มีสะเทือนกันบ้าง

 

 

          10.Pininfarina Battista ปีนี้ในงาน Geneva Motor Show 2019 ค่ายรถยนต์ในประเทศอิตาลี รถที่ทืรงพลังที่สุดคงไม่ใช่ Lamborghini และ Ferrari แล้ว เพราะเจ้า Pininfarina Battista รถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากสำนักออกแบบชื่อดังในอิตาลี นั้นได้ตำแหน่งนี้ไปครอง โดยในปีนี้ Pininfarina Battista จัดเต็มทั้งในด้านความแรงและความงาม โดยรูปร่างภายนอกถูกออกแบบให้ดูสปอร์ตและงดงามเป็นอย่างมาก ด้วยโครงสร้างแบบ Monocoque ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนขุมพลังนั้นเป็นไฟฟ้าล้วนๆ 100% ที่ให้แรงม้ามากมกายมหาศาลถึง 1,900 แรงม้า ซึ่งมากที่สุดในโลกที่จะสามารถวิ่งบนถนนได้ มาพร้อมกับแรงบิด 2,300 นิวตัน-เมตร โดยทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 2 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุดทำได้ 350 กม./ชม. Pininfarina Battista นี้จะถูกผลิตออกมาเพียง 150 คันเท่านั้น

 

Cr.carbuzz.com , carscoops.com 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook