Land Rover เปิดตัว All-New Range Rover Evoque พรีเมี่ยม SUV เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมกับการยกระดับเทคโนโลยีการขับขี่, เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถ่ายทอดจากรถเอสยูวีสุดล้ำอย่าง Range Rover Velar พร้อมกับยกระดับการรักษ์โลก ด้วยวัสดุจากธรรมชาติ กับวัสดุที่รีไซเคิลใหม่ได้ที่ได้รับการบรรจุมากยิ่งขึ้น และขุมพลังไฮบริดใหม่ล่าสุด
โดยบุคลิกภายนอกของ Range Rover Evoque จะยังคงบุคลิกโดยรวมเป็นแบบเดิมเหมือนเจนเนอเรชั่นเดิม แม้จะได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ แต่ด้านบุคลิกต่างๆ นั้นจะได้รับการถ่ายทอดจาก Range Rover Velar ตั้งแต่ดีไซน์กระจังหน้า, กันชนหน้า, ไฟหน้า LED ที่ได้รับการออกแบบแถบให้ยาวตัดซุ้มล้อหน้า, ดีไซน์ไฟท้าย LED ร่วมกับกันชนท้าย จนดูเผลอ Range Rover Velar ที่ถูกอัพไซส์ให้ใหญ่ขึ้น ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ ตัวรถได้รับการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่โดยสาร และพื้นที่ห้องสัมภาระท้าย ซึ่งจะเพิ่มความจุมากถึง 6% โดยรูปแบบปกติจะมีความจุมากถึง 610 ลิตร และหากพับเบาะทั้งหมดจะสามารถเพิ่มความจุมากถึง 1,430 ลิตร เลยทีเดียว
ด้านภายในได้ถ่ายทอดความล้ำสมัยจาก Range Rover Velar ด้วยจออินโฟเทนเมนต์และจอควบคุมระบบภายนรถ ขนาด 10 นิ้วทั้งสองจอ "Touch Pro Duo" เรือนไมล์ดิจิตอล, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ระบบปรับอากาศพร้อมระบบฟอกอากาศ air ionization แต่สิ่งที่สร้างความโดดเด่นให้กับ Range Rover Evoque โฉมใหม่นี้ก็คือการใช้วัสดุตกแต่งจากธรรมชาติ และวัสดุรีไซเคิล รวมไปถึงวัสดุภายในรถสามารถนำไปรีไซเคิลคืนได้อีก ซึ่งมีปริมาณมากถึง 33 กิโลกรัม และการออกแบบภายในห้องโดยสารเพื่อลดการสั่นสะเทือนไปจนถึงเสียงเล็ดลอดให้น้อยที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารสูงสุด ดุจนั่งในห้องส่วนตัว
ด้านขุมพลัง ทางบริษัทฯ ได้ประเดิมนำเสนอเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่จับคู่กันระหว่าง เครื่องยนต์ 4 สูบ กับมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลต์ สมรรถนะรวม 296 แรงม้า พร้อมระบบกู้คืนพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยตัวเครื่องยนต์จะหยุดการทำงานเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกในความเร็วไม่เกิน 17 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเมื่อเหยียบคันเร่งพลังงานที่เก็บไว้จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อสนับสนุนการทำงานเครื่องยนต์อีกครั้ง สำหรับระบบส่งกำลังจะใช้เกียร์อัตโนมัติ ZF 9 สปีด ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ นั้นทางบริษัทฯ จะมีแผนเผยโฉมในลำดับต่อไป
ด้านระบบขับเคลื่อนนั้น Range Rover Evoque ได้ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ผสานด้วยระบบ Terrain Response system ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้มากถึง 6 โหมด ได้แก่ General, Eco, Sand, Grass-Gravel-Snow, Mud-Ruts และ Auto ซึ่งแต่ละโฆมดจะทำการปรับเซ็ตช่วงล่างและระบบกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม และลดการสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น
และทีเด็ดของรถรุ่นใหม่นี้ก็คือระบบ ClearSight Ground View ประกอบไปด้วยกล้องรอบคันตั้งแต่ด้านหน้า, ใต้กระจกมองข้าง และกล้องด้านหลัง ที่สามารถฉายภาพผ่านจอออนโฟเทนเมนต์ หรือกระจกมองหลัง เพื่อสังเกตจุดบอดต่างๆ อาทิ ด้านหน้าห้องเครื่อง, ด้านหลัง ไปจนถึงการแสดงภาพด้านหลังในกรณีที่มีสิ่งของบังกระจกหลังรถ แถมตัวกล้องยังได้รับการเคลือบสารเพื่อป้องกันละอองน้ำ หรือแม้แต่โคลนเกาะหน้ากล้องได้
โดย Range Rover Evoque เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2019 เป็นต้นไป โดยตัวรถจะได้รับการเปิดเผยข้อมูลเต็มๆ ในงาน Chicago Auto Show ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นที่ได้รับการถ่ายทอดจาก Range Rover Evoque โฉมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า, หูฟังไร้สาย และนาฬิกาข้อมือร่วมด้วย
