องค์กรสถาบันประกันความปลอดภัยทางหลวง หรือ IIHS (The Insurance Institute for Highway Safety) ได้เผยถึงสถิติอุบัติทางรถยนต์ที่เกิดจากสารเสพติด หนึ่งในนั้นคือ "กัญชา" ได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐหรือประเทศที่ให้การรับรองว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติดที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะมีอัตราที่สูงกว่ารัฐที่ยังไม่รับรองให้กัญชาถูกกฎหมาย
ทาง IIHS ได้สำรวจสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชาเพื่อสันทนาการ โดยมุ่งเน้นที่ที่รัฐโคโลราโด, เนวาดา, โอเรกอน และวอชิงตัน ควบคู่กับสำรวจสถิติในรัฐที่ใกล้เคียง เช่น ไอดาโฮ, มอนแทนา, ยูทาห์ และไวโอมิง โดยวิเคราะห์สถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2012 ถึงเดือนตุลาคม 2017 ร่วมกับคำนวณปัจจัยต่างๆ เช่น ประชากร สภาพอากาศ และสภาพถนนระหว่างเมืองกับชุมชน ซึ่งผลลัพธ์นั้นได้เผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในรัฐที่มีการจำหน่ายกัญชาสำหรับสูบได้อย่างถูกกฎหมายทั้ง 4 รัฐ มีสถิติอุบัติเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 สอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจได้เผยว่าสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นถึง 5.2% หลังจากที่กัญชาถูกรับรองให้เป็นพืชที่ถูกกฎหมาย
ซึ่งผู้ที่ได้รับสารเตตร้าไฮโดรแคนนาบินอลจากกัญชา หรือ THC (Tetrahydrocannabinol) จะให้ผลแตกต่างจากผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สารดังกล่าวสามารถอยู่ในร่างกายตั้งแต่ในกระแสเลือดไปจนถึงในไขมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ ไปจนถึงนานเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เสพ รวมไปถึงอาการเมาก็จะแตกต่างกันด้วย แต่จะเหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ ความสามารถในการขับขี่จะลดลงจนสามารถสูญเสียการควบคุมได้ตลอดทุกเวลาที่สารออกฤทธิ์ นอกจากนี้การตรวจสารจากผู้เสพกัญชาก็มีความยุ่งยาก ต่างจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วยมีอุปกรณ์เฉพาะที่ใช้งานง่ายกว่า
Mr. David Harkey ประธานผู้บริหาร IIHS ได้เผยว่า "จากผลวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็นว่า เมื่อกัญชากลายเป็นพืชถูกกฎหมายที่ใครๆ ก็ซื้อได้ กลับส่งผลกระทบเชิงลบต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งหน่วยงานดูแลรัฐในอเมริกาที่ให้รับรองกัญชาเป็นพืชถูกกฎหมายควรคำนึงถึงผลกระทบนี้ต่อความปลอดภัยบนทางหลวงด้วย"
งานนี้หากกัญชาได้รับการขายได้อย่างถูกกฎหมาย ก็คงจะมีคำเตือนปรากฎเช่นเดียวกับคำเตือนบนซองบุหรี่หรือภาพประกอบโฆษณาว่า "การสูบกัญชาจะทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง" ไปจนถึงคำแนะนำว่าหากจะเดินทางไปสูบกัญชาเพื่อสันทนาการควรจะหาเพื่อนช่วยขับรถ หรือใช้บริการรถขนส่งเพื่อความปลอดภัยแทน
Cr. ข้อมูลจาก iihs.org, nbcnews.com, honestdocs.co
