เขียนโดย: boytaku boxza

เมื่อ: 31 กรกฏาคม 2561 - 14:28

Toyota ปรับประมาณการตลาดรถยนต์ปี 2561 แนวโน้มตลาดดี คาดยอดขายรวม 980,000 คัน เพิ่มขึ้น 12%

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมคณะ ร่วมแถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2561

          มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2561 พร้อมปรับประมาณการตลาดรถยนต์ไทยปี 2561 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ   

          มร.ซึงาตะ กล่าวว่า "เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาโตโยต้าได้ฉลองยอดการผลิตครบ 10 ล้านคัน ผมขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านอีกครั้ง ที่มีส่วนร่วมทำให้ผลิตภัณฑ์โตโยต้าเป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และในวันนี้ผมขอแจ้งผลตลาดรถยนต์ในครึ่งปีแรกของปี 2561 มียอดขายรวมอยู่ที่ 489,118 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% ขอขอบคุณภาครัฐสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในครึ่งปีแรกเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว"

 

 

สถิติการขายรถยนต์ ครึ่งแรกของปี 2561

  ปริมาณการขาย (คัน) เปลี่ยนแปลง (เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของ 2560)
ปริมาณการขายรวม  489,118 คัน +19.3%
รถยนต์นั่ง 190,310 คัน +17.9%
รถเพื่อการพาณิชย์ 298,808 คัน +20.2%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 237,429 คัน +18.1%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 207,405 คัน +20.2%

 

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ครึ่งแรกของปี 2561

  • ปริมาณการขาย Toyota 141,989 คัน เพิ่มขึ้น 26.2% ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 29%
  • รถยนต์นั่ง 53,512 คัน เพิ่มขึ้น 18.5% ส่วนแบ่งตลาด 28.1%
  • รถเพื่อการพาณิชย์ 88,477 คัน เพิ่มขึ้น 31.4 % ส่วนแบ่งตลาด 29.6%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 76,758 คัน เพิ่มขึ้น 21.6 % ส่วนแบ่งตลาด 32.3%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 63,908 คัน เพิ่มขึ้น 22.5% ส่วนแบ่งตลาด 30.8%

 

 

          มร.ซึงาตะ กล่าวว่า "สำหรับยอดขายโตโยต้าในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 141,989 คัน เพิ่มขึ้น 26.2% มีปัจจัยหลักมาจากกระแสการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ อาทิเช่น Yaris, Yaris ATIV, Hilux Revo ROCCO และ C-HR สำหรับการส่งออกในครึ่งปีแรก โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 145,080 คัน เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าสถานการณ์การส่งออกในตลาดตะวันออกกลางมีการปรับลดลง ขณะเดียวกันการส่งออกไปยังตลาดเอเชียและโอเชียเนียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งเราได้เริ่มต้นทำการส่งออกรถกระบะไฮลักซ์ไปยังประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าญี่ปุ่น จนทำให้มียอดส่งออกสะสมจนถึงมิถุนายนปีนี้ รวมแล้วทั้งสิ้น 5,400 คัน ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปคิดเป็นมูลค่า 74,250 ล้านบาท และมีการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 29,875 ล้านบาท รวมมูลค่าการส่งออกที่ 104,125 ล้านบาท และในส่วนของเป้าหมายการส่งออกในปี 2561 นั้น เราคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกของโตโยต้ายังคงอยู่ที่ 300,000 คัน ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา"

          สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2561 มร.ซึงาตะ คาดการณ์ว่า "จากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า GDP จะเติบโตอยู่ที่ 4.4% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลาย รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ จากค่ายรถยนต์ถือเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นตลาดรถยนต์ โดยคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศปี 2561 จะปรับจาก 900,000 คัน เป็น 980,000 คัน เพิ่มขึ้น 12.4% จากปีที่แล้ว"

 

 

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2561

  • ปริมาณการขายรวม 980,000 คัน เพิ่มขึ้น 12.4%
  • รถยนต์นั่ง 381,000 คัน เพิ่มขึ้น 10%
  • รถเพื่อการพาณิชย์ 599,000 คัน เพิ่มขึ้น 14%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 478,900 คัน เพิ่มขึ้น 12.9%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 418,000 คัน เพิ่มขึ้น 14.6%

          มร.ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เนื่องจากตลาดรวมที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงปรับเป้าหมายการขายของโตโยต้าสำหรับตลาดในประเทศจาก 300,000 คัน เป็น 315,000 คัน เพิ่มขึ้น 31.2% จากปีที่แล้ว ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งด้วยการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้อง การของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ผ่าน "ALIVE SPACE" โชว์รูมรูปแบบใหม่ที่มีความทันสมัย ตอบรับกับ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางการตลาดอีกมากมายที่เตรียมไว้ เพื่อแสดงความขอบคุณลูกค้าของเราในโอกาสฉลองความสำเร็จยอดการผลิตครบ 10 ล้านคัน ซึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นและไว้วางใจผลิตภัณฑ์โตโยต้าของลูกค้าทุกคน"

 

 

ประมาณยอดขายรถยนต์ในประเทศของโตโยต้า ปี 2561

  • ปริมาณการขายรวม 315,000 คัน เพิ่มขึ้น 31.2% ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
  • รถยนต์นั่ง 116,000 คัน เพิ่มขึ้น 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 30.4%
  • รถเพื่อการพาณิชย์ 199,000 คัน เพิ่มขึ้น 38.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 171,300 คัน เพิ่มขึ้น 28.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.8%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 145,000 คัน เพิ่มขึ้น 31.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.7%

          มร.ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า "นอกจากเป้าหมายทางด้านธุรกิจที่โตโยต้ามุ่งมั่นสร้างสรรค์ยนตรกรรมแห่งการขับเคลื่อนที่ดียิ่งกว่า (ever-better mobility) เรายังมีความตั้งใจที่จะดำเนินงานเพื่อสังคมให้ดียิ่งขึ้น (ever-better society) ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม อย่างโครงการที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โตโยต้า ถนนสีขาว ครบรอบ 30 ปี ซึ่งมีแนวคิด มุ่งเน้นการสร้างสังคมคนขับรถดี โดยเน้นการพัฒนาทักษะการขับรถด้วยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้าที่ Toyota Driving Experience Park เพื่อสร้างสังคมผู้ขับขี่ที่ดี นอกจากนี้ยังได้พัฒนา ปรับปรุงถนนต้นแบบโดยการปรับลดจุดเสี่ยง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์บริเวณหน้าโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์และเกตเวย์

          เพื่อตอบรับกับ "พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า พ.ศ. 2593" โดยหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดคือการลด CO2 ให้เป็นศูนย์ เรายังได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ "โตโยต้า เมืองสีเขียว" เริ่มต้นจากภายในโรงงาน เราใช้พลังงานทดแทนและระบบการจัดการของเสียที่ได้มาตรฐานระดับโลก อีกทั้งยังส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่โรงงานบ้านโพธิ์ ซึ่งถือเป็นโรงงานที่มีระบบนิเวศแห่งความยั่งยืนแห่งแรกของโตโยต้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

          ยิ่งไปกว่านั้นเรายังส่งเสริมความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นผ่านกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกโรงงาน เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น กิจกรรมลดเมืองร้อนด้วยมือเรา กิจกรรมปลูกป่าชายเลนและกิจกรรมปลูกป่านิเวศ ตลอดจนโครงการ "โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา" ศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมนอกโรงงานแห่งแรกที่จะเปิดในเดือนพฤศจิกายนนี้ และหนึ่งในองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม คือ การเดินทางอย่างยั่งยืน (Sustainable Transportation) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวของอยุธยาด้วยรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก HA:MO ซึ่งทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบยนตรกรรมแห่งการขับเคลื่อนที่ดียิ่งกว่า (ever-better mobility) ให้กับคนไทยผ่านทางผลิตภัณฑ์และการบริการของเรา ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าที่ว่า เราจะเติบโตควบคู่ไปกับสังคมไทยมร.ซึงาตะกล่าวในที่สุด        

 

 

ประมาณการปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2561

         1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 87,854 คัน เพิ่มขึ้น 25.9%                               

     อันดับที่ 1 Toyota 27,814 คัน เพิ่มขึ้น 54.9% ส่วนแบ่งตลาด 31.7%

     อันดับที่ 2 Isuzu 12,947 คัน เพิ่มขึ้น 16.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

     อันดับที่ 3 Honda 10,549 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 12%

          2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 37,131 คัน เพิ่มขึ้น 26.2%                                 

     อันดับที่ 1 Toyota 10,312 คัน เพิ่มขึ้น 38.2% ส่วนแบ่งตลาด 27.8%

     อันดับที่ 2 Honda 8,589 คัน ลดลง  4.8% ส่วนแบ่งตลาด 23.1%

     อันดับที่ 3 Mazda 5,289 คัน เพิ่มขึ้น 78.6% ส่วนแบ่งตลาด 14.2%

          3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 50,723 คัน เพิ่มขึ้น 25.6%                  

     อันดับที่ 1 Toyota 17,502 คัน เพิ่มขึ้น 66.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%

     อันดับที่ 2 Isuzu 12,947 คัน เพิ่มขึ้น 16.2% ส่วนแบ่งตลาด 25.5%

     อันดับที่ 3 Ford 4,985 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%

           4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 40,197 คัน เพิ่มขึ้น 29.5%                  

     อันดับที่ 1 Toyota 14,891 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% ส่วนแบ่งตลาด 37%

     อันดับที่ 2 Isuzu 11,859 คัน เพิ่มขึ้น 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.5%

     อันดับที่ 3 Ford 4,948 คัน เพิ่มขึ้น 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 12.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,536 คัน

  • Toyota 2,007 คัน
  • Mitsubishi 1,055 คัน
  • Isuzu 914 คัน
  • Ford 450 คัน
  • Chevrolet 110 คัน

          5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 35,661 คัน เพิ่มขึ้น 36.1%                  

     อันดับที่ 1 Toyota 12,884 คัน เพิ่มขึ้น 59.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.1%

     อันดับที่ 2 Isuzu 10,945 คัน เพิ่มขึ้น 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 30.7%

     อันดับที่ 3 Ford 4,498 คัน เพิ่มขึ้น 32.8% ส่วนแบ่งตลาด 12.6%

 

 

ประมาณการสถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม - มิถุนายน 2561

          1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 489,118 คัน เพิ่มขึ้น 19.3%                               

     อันดับที่ 1 Toyota 141,989 คัน เพิ่มขึ้น 26.2% ส่วนแบ่งตลาด 29%

     อันดับที่ 2 Isuzu 86,363 คัน เพิ่มขึ้น 12% ส่วนแบ่งตลาด 17.7%

     อันดับที่ 3 Honda 59,838 คัน ลดลง 2.6% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%

          2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 190,310 คัน เพิ่มขึ้น 17.9%                                 

     อันดับที่ 1 Toyota 53,512 คัน เพิ่มขึ้น 18.5% ส่วนแบ่งตลาด 28.1%

     อันดับที่ 2 Honda 46,287 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 24.3%

     อันดับที่ 3 Mazda 24,378 คัน เพิ่มขึ้น 43.6% ส่วนแบ่งตลาด 12.8%

         3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 298,808 คัน เพิ่มขึ้น 20.2%                     

     อันดับที่ 1 Toyota 88,477 คัน เพิ่มขึ้น 31.4% ส่วนแบ่งตลาด 29.6%

     อันดับที่ 2 Isuzu 86,363 คัน เพิ่มขึ้น 12% ส่วนแบ่งตลาด 28.9%

     อันดับที่ 3 Ford 32,574 คัน เพิ่มขึ้น 29.5% ส่วนแบ่งตลาด 10.9%

          4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 237,429 คัน เพิ่มขึ้น 18.1%

     อันดับที่ 1 Isuzu 78,997 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%

     อันดับที่ 2 Toyota 76,758 คัน เพิ่มขึ้น 21.6% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%

     อันดับที่ 3 Ford 31,910 คัน เพิ่มขึ้น 33.6% ส่วนแบ่งตลาด 13.4%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 30,024 คัน

  • Toyota 12,850 คัน
  • Mitsubishi 6,338 คัน
  • Isuzu 5,994 คัน
  • Ford 4,394 คัน
  • Chevrolet 448 คัน

          5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 207,405 คัน เพิ่มขึ้น 20.2%

     อันดับที่ 1 Isuzu 73,003 คัน เพิ่มขึ้น 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%

     อันดับที่ 2 Toyota 63,908 คัน เพิ่มขึ้น 22.5% ส่วนแบ่งตลาด 30.8%

     อันดับที่ 3 Ford 27,516 คัน เพิ่มขึ้น 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.3%

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook