มร. อันตวน บาร์เตส ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงการประชุมวิสัยทัศน์ของนิสสันในอีก 5 ปีข้างหน้า
Nissan ประกาศเตรียมเปิดตัวและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ปี 2561 ภายในงานแถลงข่าวแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับ 5 ปี ซึ่งพระเอกของงานนั่นคือ All-New Nissan Leaf รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ที่เตรียมจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในปีงบประมาณนี้อย่างแน่นอน อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์แผนระยะกลางระดับโลกของนิสสันในชื่อ M.O.V.E 2022
มร. อันตวน บาร์เตส ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นิสสันเป็นแบรนด์ยานยนต์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 6.9 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ และเรามีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปนับตั้งแต่วันนี้จนถึงปี พ.ศ. 2565"
"นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) มีแผนงานที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต โดยวิสัยทัศน์ระยะ 5 ปีของเราสอดคล้องเป็นอย่างดีกับแผนงานของนิสสันในระดับโลกที่มีชื่อว่า M.O.V.E 2022 ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมยานยนต์ (Mobility), ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน (Operational Excellence), การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Value to Customers) และระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (Electrification)" มร. บาร์เตส กล่าว
โดยรถยนต์ที่จะเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการนี้จะเป็น All-New Nissan Leaf รถยนต์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่จะทำการจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ แม้จะไม่ได้เผยรายละเอียดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการทางการเมื่อไหร่ โดย มร. บาร์เตส กล่าวแต่เพียงว่า "ภายในปีงบประมาณนี้อย่างแน่นอน"
โดย นิสสัน ลีฟ โฉมใหม่ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง เชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ให้สมรรถนะสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,283 - 9,795 รอบ/นาที มากกว่านิสสัน ลีฟ รุ่นก่อนหน้านี้ 38 เปอร์เซ็นต์ แรงบิดเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ สามารถให้แรงบิดสูงสุดถึง 320 นิวตัน-เมตร ที่ 3,283 รอบ/นาที
โดย Nissan Leaf โฉมใหม่ สามารถขับขี่ได้ระยะทางโดยประมาณ ถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น) ส่วนทาง EPA ของสหรัฐฯ ได้เผยว่าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 150 ไมล์ หรือราวๆ 240 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพถนนและสภาพอากาศ ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 16 ชั่วโมง ผ่านปลั๊ก 3kW กับ 8 ชั่วโมงจากปลั๊ก 6kW และยังรองรับระบบชาร์จไฟแบบพิเศษ ที่สามารถชาร์จได้มาถึง 80% ภายใน 40 นาที
สำหรับเทคโนโลยีเด่นๆ ที่ได้รับการบรรจุลงไปในรถรุ่นนี้ ได้แก่ ระบบขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยควบคุมคันเร่ง เบรก และพวงมาลัยได้อัตโนมัติเพียงแค่กดปุ่ม ProPILOT บนพวงมาลัย โดยสามารถทำความเร็วได้ตั้งแต่ 30 กม./ชม. - 100 กม./ชม. รองรับการเดินทางไกลบนทางหลวง รวมไปถึงรองรับการควบคุมจอดรถเข้าซองโดยอัตโนมัติ และหากต้องการปิดระบบก็สามารถกดปุ่ม ProPILOT ได้อีกครั้ง กับระบบ e-Pedal ที่ผู้ขับขี่สามารถสั่งการได้ทั้งเร่งความเร็ว, ชะลอตัว และหยุดรถค้างไว้ตลอดเวาลาที่เหยียบคันเร่ง เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
"สำหรับการดำเนินงานในอนาคต นิสสันคาดการณ์ว่า ด้วยสภาพตลาดปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมจะมีความมั่นคงและมีอัตราเติบโตสูงขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ในปีงบประมาณ 2561 ของเรา (เดือนเมษายน พ.ศ. 2561 - มีนาคม พ.ศ. 2562) เราคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 950,000 คัน ด้วยแนวโน้มด้านบวกเช่นนี้ ผมมั่นใจว่ายอดขาย ส่วนแบ่งตลาดและจำนวนการผลิตจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง" มร. บาร์เตส กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม : Nissan Leaf 2018 รถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่น 2 อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำให้การเดินทางที่อิสระยิ่งขึ้น