เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 26 มีนาคม 2561 - 17:06

Nissan เปิดตัว GT-R Premium Edition 2018 พร้อมอาละวาดในเมืองไทยด้วยราคา 13.5 ล้านบาท

 

          Nissan ย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจสู่ประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว Nissan GT-R Premium Edition 2018 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาประสบการณ์การขับขี่สไตล์ GT (แกรนด์ทัวริ่ง) และ R (เรซซิ่ง) โดยเฉพาะ

          GT-R จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 13.5 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดย สยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของ Nissan แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หรือ Nissan High Performance Center เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด GT-R ผลิตที่โรงงานระดับโลกของนิสสันในเมืองโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น

 

มร.อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)

 

          “ผมมีความตื่นเต้นที่ได้นำเสนอรถซูเปอร์สปอร์ตที่มีความทันสมัย ประณีต และก้าวหน้าที่สุดเท่าที่นิสสันเคยผลิตมาสู่ประเทศไทย” มร.อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าว “นิสสันสามารถมอบนวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจเพื่อทุกคนอีกครั้ง เรานำลูกค้ามาเป็นหัวใจสำคัญในทุกๆ อย่างที่เราทำซึ่งเป็นเหตุผลที่นิสสันริเริ่มพัฒนารถซูเปอร์คาร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เราได้ยินเสียงเรียกร้องที่ดังกระหึ่ม และชัดเจนจากแฟนของนิสสันในประเทศไทยที่ต้องการรถระดับตำนานอย่าง GT-R”   

 

 

          GT-R คือ ซูเปอร์สปอร์คาร์ตระดับตำนานของนิสสันที่ได้รับการพัฒนา และปรับแต่งระบบวิศวกรรมจากประสบการณ์กว่า 35 ปี ของนิสสันในการพัฒนารถแข่งในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก นี่คือหนึ่งในรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลก ตัวถังแบบแกรนด์ทัวริ่ง 2+2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ประกอบด้วยมือ ให้พละกำลังสูงสุด 555 แรงม้า ผ่านระบบเกียร์ซีเควนเชียลดูอัลคลัตช์ 6 สปีดที่ สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ภายในเวลาชั่วพริบตา เพียง 0.15 วินาที เมื่ออยู่ในโหมด R-Mode ถ่ายกำลังลงพื้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

 

มร. ฮิโรชิ ทามูระ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายผลิตภัณฑ์ GT-R ของ Nissan

 

          มร. ฮิโรชิ ทามูระ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายผลิตภัณฑ์ GT-R ของ Nissan กล่าวว่า “GT-R มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ทำให้หัวใจของใครก็ตามที่เข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยเต้นแรงได้เสมอในทุกการเดินทาง เราผลักดันการพัฒนาสมรรถนะของรถรุ่นนี้จนถึงขีดสุด และ GT-R รุ่นนี้มีพละกำลังมากกว่าที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังมีความประณีตมากขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์ขับขี่ทั้งหมดให้สูงขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอที่สุดแห่งรถสปอร์ต GT (แกรนด์ทัวริ่ง) ให้แก่ลูกค้า GT-R เพียบพร้อมทั้งสมรรถนะน่าอัศจรรย์ใจ ความสะดวกสบายที่เหนือชั้น และตำนานแห่งความสำเร็จจากสนามแข่งอันยาวนาน”

 

 

          ลูกค้าสามารถเลือกสีภายในห้องโดยสารได้ 4 สี คือ Black Amber, Ivory, Saddle Tan และ Red Amber กับสีตัวถังภายนอกทั้ง 6 สี ได้แก่ Katsura Orange, Vibrant Red, Pearl BlackGun Metallic, Pearl White และ Pearl Blue

คุณสมบัติสำคัญของ Nissan GT-R Premium Edition 2018

  • ล้อฟอร์จอัลลอยจากเรยส์ (Rays®) น้ำหนักเบาพิเศษ ซูเปอร์ไลต์เวต ขนาด 20 นิ้ว
  • กระจังหน้า V-motion รุ่นใหม่ยกระดับแอโรไดนามิก
  • ฝากระโปรงใหม่เพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก
  • แผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าคาร์บอน แบบ เอสเอ็มซี (Carbon SMC) และแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังคาร์บอนคอมโพสิทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก
  • ดีไซน์ด้านหลังใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศ
  • แผงแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่พร้อมแผงมาตรวัดหุ้มหนังตัดเย็บด้วยมือ
  • แผงควบคุม Display Command ใหม่บนคอนโซลกลางแบบคาร์บอนไฟเบอร์
  • พวงมาลัยรุ่นใหม่พร้อมแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
  • หน้าจอกลางทัชสกรีนมัลติฟังค์ชั่นขนาด 8.0 นิ้ว

 

 

การออกแบบภายนอกที่ก้าวล้ำหน้า

          สไตล์การออกแบบที่ปราดเปรียวของ GT-R ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและการใช้งาน กระจังหน้า V-motion หนึ่งในเอกลักษณ์การออกแบบล่าสุดของนิสสันถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มการทำความเย็นเครื่องยนต์ โดดเด่นด้วยวัสดุโครเมียมแบบด้าน และแพทเทิร์นโครงร่างตาข่าย ฝากระโปรงที่มีเส้นนำสายตาจากกระจังหน้าได้อย่างไร้ที่ติถูกเสริมความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มเสถียรภาพขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง สปอยเลอร์ชิ้นล่างด้านหน้าทรงโค้งถูกขยายให้กว้างขึ้นเล็กน้อยและมีตำแหน่งต่ำลงไม่กี่มิลลิเมตรเพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศบริเวณมุมล่างของตัวรถ เสาหลังคาท้ายถูกปรับดีไซน์ใหม่ที่ส่วนบนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการไหลเวียนอากาศให้ดียิ่งขึ้น

 

 

          ด้านหลังของ GT-R ยังคงเอกลักษณ์ระดับตำนานด้วยไฟท้ายทรงกลม แผงดิฟฟิวเซอร์สีเงิน และช่องรีดอากาศด้านข้างถูกติดตั้งเคียงข้างกับปลายท่อไอเสียไทเทเนียม 4 ชุดซึ่งช่วยเพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ

 

 

ห้องโดยสารตอบสนองการควบคุมของผู้ขับขี่

          ห้องโดยสารที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันของ GT-R 2018 มอบที่สุดแห่งความสะดวกสบาย ความหรูหรา และการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างลงตัว แผงควบคุมกลางถูกปรับปรุงใหม่ และมีความเรียบง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยจำนวนสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและระบบนำทางลดลงจาก 27 ชิ้นเหลือเพียง 11 ชิ้น หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้วมีข้อมูลทุกด้านที่ผู้ขับขี่ต้องการในที่เดียวโดยแสดงผลด้วยไอคอนขนาดใหญ่บนหน้าจอเพื่อเพิ่มความง่ายดายให้ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบเครื่องเสียง การใช้โทรศัพท์ และฟังค์ชั่นอื่นๆ ในระบบอินโฟเทนเมนท์

 

 

เครื่องยนต์ผลิตด้วยมือ และระบบวิศวกรรมชั้นแนวหน้า

          เครื่องยนต์ V6 Twin Turbo 24 วาล์ว ความจุ 3.8 ลิตร ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพของ GT-R 2018 ผลิตในเมืองโยโกฮามาโดยฝีมือของทาคูมิ หรือ ช่างเทคนิคระดับมาสเตอร์ของนิสสัน มีพละกำลัง 555 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิด 632 นิวตัน-เมตร ท่อไอเสียไทเทเนียมชุดใหม่ของ GT-R ที่มาพร้อมระบบวาล์วแบบเปิดมอบเสียงคำรามที่เร้าใจ และดุดันยิ่งขึ้น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบซีเควนเชียล ดูอัลคลัตช์ 6 สปีดได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการทำงานที่ไหลลื่นนุ่มนวลมากขึ้น และสมรรถนะที่ดีกว่าเดิมในสถานการณ์ขับขี่หลากหลายรูปแบบ

 

 

          โช๊คอัพบิลสไตน์ แดมพ์โทรนิก (Bilstein® DampTronic) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งได้ 3 โหมดคือ Normal, Comfort และระบบกันสะเทือนที่ตอบสนองระดับสูงสุดคือ R จีที-อาร์ มาพร้อมยางรันแฟลต ของ Dunlop รุ่น SP Sport Maxx GT 600 DSST CTT สมรรถนะสูงระดับอัลตร้าที่รองรับแรงดันลมไนโตรเจน และออกแบบมาเพื่อการทำงานของช่วงล่างโดยเฉพาะ โดยมีขนาดยางมาตรฐานด้านหน้า 255/40ZRF20 และด้านหลัง 285/35ZRF20

          ระบบเบรกเป็นของ Brembo แบบ Monobloc คาลิปเปอร์ 6 สูบที่ด้านหน้า และ 4 สูบที่ด้านหลัง พร้อมจานดิสก์เบรกของ Brembo ลอยตัวสองชิ้นแบบเจาะรู และเซาะร่องกลางจานขนาด 390 มม. ที่ล้อหน้าและ 380 มม. ที่ล้อหลัง ทำงานคู่กับผ้าเบรกที่มีสมรรถนะ และความทนทานสูงที่ช่วยลดอาการเบรกเฟด และมีประสิทธิภาพการหยุดรถอย่างมั่นใจ

 

 

          “GT-R ได้รับการออกแบบเพื่อผู้บริโภคที่หลงใหลในสมรรถนะ ปรารถนาความตื่นเต้นเร้าใจจากสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ตและเชื่อในความหรูหรา GT-R ทุกคันถูกผลิตขึ้นด้วยความพิถีพิถันสูงสุดแบบงานหัตถกรรมโดยสุดยอดช่างเทคนิคที่มีทักษะเป็นเลิศที่สุด ผมรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ไม่เพียงได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นถึงรถระดับตำนาน” มร. บาร์เตส กล่าว “GT-R ผลิตขึ้นด้วยความทุ่มเทเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด และความเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่ารถซูเปอร์คาร์ที่แท้จริงต้องมีสมรรถนะเพื่อการใช้งานจริงสำหรับทุกคน ทุกที่ และทุกเวลา สมรรถนะที่สมบูรณ์แบบและศักยภาพขั้นสูงสุดทำให้โลกยานยนต์ต้องหันมาให้ความสนใจกับรถรุ่นนี้”

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook