Mercedes-Benz เผยโฉม All-New Mercedes-Benz CLS 2018 สปอร์ตซีดานเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการออกแบบให้สัท้อนความโดดเด่น มีบุคลิกที่สะกดสายตา จดจำได้ดี เปี่ยมไปด้วยความหรูหราและความล้ำสมัย
การออกแบบ Mercedes-Benz CLS โฉมใหม่นี้ แทบจะเรียกได้ว่ามีการปรับบุคลิกให้ดูใหม่ขึ้นกว่าแบบเดิมที่เคยสัมผัส ซึ่งถอดแบบมาจาก AMG GT มาบางส่วน อาทิ กระจังหน้าทรง 5 เหลี่ยม พร้อมตราสัญลักษณ์ตรงกลาง รับกับโคมไฟหน้า LED ทรงใหม่ จนให้บุคลิกด้านหน้ารถที่สวยงาม ลงตัว พร้อมไฟ LED ท้ายรถ ซึ่งการออกแบบโคมไฟหน้าท้ายนี้ช่วยสะท้อนถึงภายในที่มีความกว้างขวางอีกด้วย
สำหรับภายในนั้นได้รับการถ่ายทอดการดีไซน์และเทคโนโลยีจาก E-Class โฉมใหม่ ที่สะท้อนทั้งความหรูหรา ล้ำสมัย ดูกว้างขวาง เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดล้ำ อาทิ เรือนไมล์จอดิจิตอลพร้อมจออินโฟเทนเมนต์, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน, ช่องแอร์ทรงกลม, ไฟส่องห้องโดยสารที่สามารถปรับได้มากถึง 64 สี โดยไฟส่องห้องโดยสารสามารถปรับโทนสีตามการตั้งค่าระบบอุณหภูมิภายในรถด้วย, เบาะนั่งปรับไฟฟ้า, เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ 40:20:40 เพื่อช่วยขยายพื้นที่ความจุห้องสัมภาระท้ายได้มากถึง 520 ลิตร
สำหรับข้อมูลขุมพลัง จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่น CLS 450 4MATIC จะบรรจุเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง พร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า EQ Boost และแบตเตอรี่ 48 โวลต์ ให้สมรรถนะสูงสุด 370 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร หากใช้ฟังก์ชั่น EQ Boost ก็จะสามารถช่วยเพิ่มแรงม้าได้อีก 22 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ 7.5 ลิตร/100 กม. อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม ที่ 4.8 วินาที
ส่วนรุ่น CLS 350d 4MATIC รุ่น CLS 400d 4MATIC จะบรรจุเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เรียงความจุ 3.0 ลิตร ซึ่งจะให้สมรรถนะที่แตกต่างกัน ได้แก่ สมรรถนะ 340 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม ที่ 5.0 วินาที ในรุ่น CLS 400d 4MATIC กับสมรรถนะ 286 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม ที่ 5.7 วินาที ในรุ่น CLS 350d 4MATIC ทั้งสองรุ่นให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเท่ากับ เฉลี่ยอยู่ที่ 5.6 ลิตร/100 กม.
Mercedes-Benz CLS โฉมใหม่ ยังได้รับการถ่ยทอดเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก S-Class 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์มาหลายรายการ ได้แก่ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน Active Brake Assist, ระบบแจ้งเตือนออกนอกเส้นเลน Lane Keeping Assist, ระบบแจ้งเตือนอาการเหนื่อยล้าระหว่างขับขี่ Attention Assist, ระบบจำกัดความเร็วอัตโนมัติ Speed Limit Assist และ PRE-SAFE เป็นต้น ซึ่งจะเป็นออพชั่นมาตรฐาน
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเพิ่มแพ็คเกจ Driving Assistance Package เสริมความปลอดภัยให้เหนือยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย Active Distance Control, Active Steering Assist, Active Speed Limit Assist, Active Brake Assist พร้อมฟังก์ชั่น Cross-Traffic, Evasive Steering Assist, Active Blind Spot Assist, Active Lane Keeping Assist และ PRE-SAFE Plus เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้บรรจุไฟหน้า LED พร้อมระบบ Ultra Range high beam ที่ช่วยให้มีค่าความสว่างของแสงไม่น้อยกว่า 1 lux ในระยะ 650 เมตร ให้แสงสว่างได้คงที่กว่า
Mercedes-Benz CLS 2018 โฉมใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในราวๆ เดือนมีนาคมปี 2018 เป็นต้นไป ส่วนในตลาดสหรัฐฯ จะเริ่มจวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลัง 2018 เป็นต้นไปเช่นกัน
