Range Rover 2018
หลังจากการมาของ Range Rover Vela ยนตกรรมเอสยูวีพรีเมี่ยมขนาดกลางที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ล้ำที่สุดในบรรดารุ่นพี่ แถมยังการันตีด้วยความสำเร็จของยอดขายและการใช้งานหลังจากเปิดตัวมาได้ไม่นาน จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะถ่ายทอดให้กับ Range Rover 2018 เอสยูวีหรูโฉมไมเนอร์เชนจ์ด้วย
รายละเอียดภายนอกของ Range Rover 2018
เริ่มจากรายละเอียดการปรับโฉมภายนอกมีการปรับโฉมกระจังหน้า พร้อมไฟหน้า Pixel-laser LED และไฟเลี้ยว รวมไปถึงรับรายละเอียดไฟท้ายให้ดูกระชับขึ้น
รายละเอียดภายในของ Range Rover 2018
ห้องโดยภายในห้องโดยสารนั้น ได้รับการเปลี่ยนแปลงจนดูทันสมัยอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบอินโฟเทนเมนต์ Touch Pro Duo พร้อมจอสัมผัส 10 นิ้ว ทั้งสองจอ, เรือนไมล์ดิจิตอล 12 นิ้วใหม่, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสัมผัส, เบาะคู่หน้าปรับ 24 ทิศทาง, ปรับเปลี่ยนวัสดุตกแต่งประตูด้านในใหม่, เบาะหลังปรับเอนได้ถึง 40 องศา พร้อมระบบนวด 25 รูปแบบ, ระบบเชื่อมต่อ WIFI, 4G, พอร์ตชาร์จหลายจุด, ระบบตรวจสอบข้อมูลและสั่งการรถผ่านสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์ เป็นต้น
นวัตกรรมอำนวยความสะดวกรูปแบบใหม่ที่ได้รับการบรรจุลงไปในรถรุ่นนี้ เช่น ระบบ Touch Pro Duo กับระบบสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน
สำหรับขุมพลังของ Range Rover 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์นี้ ได้ชูเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที่ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 13.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้สมรรถนะสูงสุด 404 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตัน-เมตร ในแง่ของประสิทธิภาพ PHEV Range Rover ให้อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ใน 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม. / ชม. และใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถวิ่งได้ไกลถึง 51 กม.
Range Rover SVAutobiography Dynamic
นอกจากนี้ยังมีรุ่น Range Rover SVAutobiography Dynamic ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ความจุ 5.0 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 565 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 - 96 กม. / ชม. ใน 5.1 วินาที รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนวัสดุตกแต่งภายนอกและภายในหลายรายการ โดย Range Rover 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์จะเริ่มส่งมอบแก่ลูกค้าในประเทศอังกฤษช่วงปลายปีนี้
