Nissan Leaf 2018 สเปคยุโรป
Nissan เผยโฉม All-New Nissan Leaf รถแฮทช์แบ็คไฟฟ้า 100% (EV) เจเนอเรชั่นที่ 2 อย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรุ่นใหม่ล่าสุดหลายรายการ ไฮไลท์หลักคือ ระบบ ProPILOT, e-Pedal ฯลฯ ร่วมกับอัพเกรดระบบขับเคลื่อนใหม่ และการดีไซน์บุคลิกที่มอบความทันสมัย โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น โดยในเวลานี้ได้เผยทั้งสเปคยุโรป และสเปคอเมริกา
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่
นิสสัน ลีฟ โฉมใหม่ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง เชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ซึ่งทั้งหมดได้รับการพัฒนาใหม่ ให้สมรรถนะสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,283 - 9,795 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 3,283 รอบ/นาที ซึ่งจากรายงานการทดสอบในยุโรป นิสสัน ลีฟ เจเนอเรชั่นที่ 2 สามารถวิ่งได้ไกลสุด 378 กม. (235 ไมล์) ในขณะที่รายงานของ EPA จากอเมริกา สามารถวิ่งได้ไกลถึง 150 ไมล์ สำหรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 144 กม./ชม. (90 ไมล์/ชม.) ทั้งสองสเปคจะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 16 ชั่วโมง ผ่านปลั๊ก 3kW กับ 8 ชั่วโมงจากปลั๊ก 6kW และยังรองรับระบบชาร์จไฟแบบพิเศษ ที่สามารถชาร์จได้มาถึง 80% ภายใน 40 นาที
ปุ่มควบคุม ProPILOT
ไฮไลท์เด็ดของรถ นิสสัน ลีฟ โฉมใหม่ นั่นคือ ได้บรรจุระบบขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT ใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการเผยโฉมครั้งแรกใน Nissan Serena เจเนอเรชั่นใหม่ ที่ช่วยควบคุมคันเร่ง เบรก และพวงมาลัยได้อัตโนมัติเพียงแค่กดปุ่ม ProPILOT บนพวงมาลัย โดยสามารถทำความเร็วได้ตั้งแต่ 19 ไมล์/ชั่วโมง ถึง 62 ไมล์/ชั่วโมง (30 กม./ชม. - 100 กม./ชม.) โดยระบบ ProPILOT รองรับได้การใช้งานบนช่องเลนตรงทางเดียว ไม่ว่าจะเป็นถนนทางโล่ง ไปจนถึงการจราจรที่คับคั่ง ทั้งนี้หากต้องการปิดระบบก็สามารถกดปุ่ม ProPILOT ได้อีกครั้ง
แผงเรือนไมล์ดิจิตอลที่รองรับระบบควบคุมรถแบบใหม่
นอกจากนี้ ระบบ ProPILOT ยังรองรับการควบคุมจอดรถอัตโนมัติ ด้วยการใช้เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 จุด รอบตัวรถเพื่อคำนวณระยะ และองศาของวัตถุเพื่อช่วยในการควบคุมให้ตัวรถเข้าช่องจอดรถโดยอัตโนมัติ
แผงเกียร์ และ e-Pedal
อีกหนึ่งระบบใหม่ที่บรรจุใน Nissan Leaf ใหม่ นั่นคือ e-Pedal ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ผู้ขับขี่สามารถสั่งการได้ทั้งเร่งความเร็ว, ชะลอตัว และหยุดรถค้างไว้ตลอดเวาลาที่เหยียบคันเร่ง ซึ่งทางนิสสันอ้างว่าผู้ขับขี่สามารถสั่งการทำความเร็วและการหยุดรถได้มากถึง 90% เพียงแค่เหยียบแป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว
Nissan Leaf 2018 สเปคอเมริกา
ท้ายรถ Nissan Leaf 2018 สเปคอเมริกา
รวมไปถึงได้บรรจุระบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในนิสสัน ลีฟ ใหม่ หลายรายการ ได้แก่ ระบบควบคุมตัวรถให้อยู่ในช่องเดินรถอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention) ระบบแจ้งเตือนป้องกันรถออกจากเส้นเลน (Lane Departure Warning), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Intelligent Emergency Braking), ระบบตรวจจับจุดบอด (Blind Spot Warning), ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition), ระบบแจ้งเตือนป้องกันรถตัดท้ายขณะถอยออกจากช่องจอดรถ (Rear Cross Traffic Alert), กล้องมองรอบตัวรถ (Intelligent Around View Monitor) เป็นต้น
รูปแบบท้ายรถ Nissan Leaf 2018 สเปคยุโรป
ไฟหน้า LED
กระจังหน้าสีดำพร้อมลูกเล่นลายกราฟฟิกสีน้ำเงินที่สะท้อนผ่านแผงกระจังหน้า
ล้ออัลลอย
ทางด้านบุคลิกตัวรถนิสสัน ลีฟ 2018 ได้รับการปรับการดีไซน์ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยว คมเข้ม ทันสมัยกว่าเดิม โดยเฉพาะการออกแบบตัวถังที่ให้ประสิทธิภาพหลักอากาศพลศาสตร์ Aero Dynamic ได้ดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับบุคลิกจะมอบความทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า - ท้าย LED ดีไซน์ใหม่, ไฟ LED Daylight, ไฟตัดหมอก LED, เสา C ลงสีดำให้รับกับกระจกหน้าต่าง ดูปราดเปรียว, กระจังหน้าสีดำที่ส่องผิวกราฟฟิกสีน้ำเงิน, สปอยเลอร์ท้าย, กันชนท้ายพร้อมแถบสีเงิน รวมไปถึงบางรุ่นจะมีหลังคาสีดำ กับสีน้ำเงินให้เลือกด้วย ทั้งนี้ที่ชาร์จไฟด้านหน้า ยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม
ข้อมูลทางเทคนิคและมิติตัวถัง Nissan Leaf 2018 ประกอบไปด้วย
ภายใน Nissan Leaf 2018 พวงมาลัยขวา
ภายใน Nissan Leaf 2018 พวงมาลัยซ้าย
รายละเอียดเบาะนั่ง
ระบบอินโฟเทนเมนต์ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เช่น Apple Carplay
สำหรับภายในได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัย กว้างขวาง พร้อมออพชั่นที่ครบครัน ทั้งเรือนไมล์อนาล็อกเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ระบบอินโฟเทนเมนต์พร้อมจอสัมผัส รองรับระบบ Apple Carplay ระบบนำทาง, ปุ่ม Push Start ย้ายมาตำแหน่งใต้แผงควบคุมระบบปรับอากาศ เป็นต้น ทั้งนี้แผงควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ได้ถ่ายทอดการดีไซน์จาก Nissan Leaf เจเนอเรชั่นแรกแทบจะไม่ผิดเพี้ยนมากนัก
ชุดสายชาร์จไฟ
ช่องชาร์จไฟ (Nissan Leaf 2018 สเปคอเมริกา)
Nissan Leaf 2018 จะได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Frankfurt Motor Show 2017 โดยจะเริ่มจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นที่แรกของโลกในเดือนตุลาคมนี้ และจะเริ่มทยอยจำหน่ายในภูมิภาคสหรัฐฯ และยุโรปในต้นปี 2018 สำหรับราคาเริ่มต้นในสหรัฐฯ อยู่ที่ 29,990 เหรียญสหรัฐฯ และสำหรับในประเทศไทยนั้น ก็มีแนวโน้มอาจได้เข้ามาจำหน่ายในไทย ซึ่งทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ ทั้งการกำหนดเพดานภาษีสรรพสามิตรที่ 2% การส่งเสริมผู้บริโภคให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า และการส่งเสริมการจัดตั้งโรงงานผลิต ซึ่งก็ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
Nissan Leaf 2018 สเปคยุโรป
