มร. เอียน นิโคลส์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน นี้ โดยนิโคลส์จะประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และรายงานต่อ มร. สเตฟาน จาค็อบบี รองประธานบริหาร จีเอ็ม และประธานกรรมการ จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ประกาศเตรียมปรับรวมโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมุ่งเน้นการบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเพิ่มยอดขายของ Chevrolet และความสามารถในการสร้างผลกำไรที่ดียิ่งขึ้น
มร. สเตฟาน จาค็อบบี รองประธานบริหาร จีเอ็ม และประธานกรรมการ จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว "ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง เราไม่หยุดยั้งที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจของเราให้สอดคล้องกับตลาด ด้วยการพัฒนาให้จีเอ็มเป็นบริษัทที่มีแบบแผนและเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับภาพรวมในระดับโลก เรามีการดำเนินธุรกิจในตลาดที่ถูกต้องและมีศักยภาพในการสร้างผลกำไร อีกทั้งยังมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการจากธุรกิจ และมีการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาวซึ่งรวมถึงการดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย และในวันนี้ เราได้ก้าวสู่การพัฒนาส่วนการปฏิบัติงานต่างๆให้สามารถเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันและการบริหารต้นทุนที่ดียิ่งขึ้น"
มร. เอียน นิโคลส์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน นี้ โดยนิโคลส์จะประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และรายงานต่อจาค็อบบี ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์เกือบ 3 ทศวรรษ รวมถึงการทำงานกับจีเอ็มมานานกว่า 27 ปี นิโคลส์จะนำประสบการณ์มากมายในด้านการวางแผนผลิตภัณฑ์ การขาย และการตลาดมาใช้กับตำแหน่งใหม่นี้ เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายรถอเนกประสงค์และรถกระบะระดับโกลเบิลของ GM ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ จีเอ็มแอฟริกา เขตซับ-ซาฮารา
"เอียนเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์ในระดับโลกอย่างแท้จริง" จาค็อบบีกล่าว "ภายใต้การบริหารงานของเอียน เราจะควบรวมและปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจของเราให้มีความเรียบง่าย เพื่อพัฒนาการบริการแก่ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์เชฟโรเลตและเพิ่มยอดขาย การที่เรามีผู้นำระดับภูมิภาคเพียงคนเดียว พร้อมกับทีมผู้บริหารใหม่ทั้งหมดแทนการมีกรรมการผู้จัดการถึง 4 คน จะช่วยให้เอียนสามารถบริหารงานในโครงสร้างธุรกิจที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งครอบคลุมการบริหารธุรกิจในประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ตลอดจนตลาดผู้จัดจำหน่ายต่างๆ ภายใต้วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ระดับภูมิภาคภายในหนึ่งเดียว"
จาค็อบบีกล่าวเพิ่มเติมว่า "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่มีความสำคัญสำหรับจีเอ็ม เราผลิตยานยนต์มากมายหลายรุ่นในภูมิภาคนี้ รวมทั้งรถกระบะและรถอเนกประสงค์เอสยูวีที่ได้รับรางวัลต่างๆ ซึ่งผลิตที่โรงงานของเราในจังหวัดระยองของประเทศไทย ทั้งนี้ เชฟโรเลต รุ่นโคโลราโด และรุ่นเทรลเบลเซอร์ ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งกับตลาดเหล่านี้และตลาดส่งออก"
"โครงสร้างธุรกิจแบบปรับรวมจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถได้ในระดับภูมิภาคสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ เร่งกระบวนการตัดสินใจ และลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ล่าช้า" นิโคลส์กล่าว "การผนวกรวมโครงสร้างธุรกิจยังทำให้เราสามารถยกระดับการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแก่ลูกค้าที่ดีที่สุด พร้อมกับทำให้ธุรกิจของเรามีขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีฐานการผลิตที่มั่นคง มีทัศนคติของลูกค้าเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ในทั่วภูมิภาค และธุรกิจส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในการรับโอกาสเติบโตทางธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มที่"
มร. ซูมิโตะ อิชิ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม เวียดนาม และรักษาการกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จะเข้ารับตำแหน่งใหม่เป็นรองประธานฝ่ายขาย การบริการ และการตลาด (วีเอสเอสเอ็ม) ของจีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเขาจะช่วยนิโคลส์ในการดูแลรับผิดชอบฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายบริการหลังการขายในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ในขณะเดียวกัน อิชิจะยังคงกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของ GM ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง GM ดำเนินธุรกิจร่วมกับหุ้นส่วนท้องถิ่น (ประกอบด้วย บรูไน, กัมพูชา, ฟิจิ, ลาว, มาเลเซีย, มองโกเลีย, เมียนมาร์, นิว คาเลโดเนีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ตาฮิติ และวานูอาตู)
ขณะที่ มร. เการาฟ กุปตา ประธานอำนวยการ จีเอ็ม อินโดนีเซีย ตัดสินใจลาออกจาก GM เพื่อแสวงหาโอกาสทางอาชีพอื่น หลังจากที่ร่วมงานกับ GM มานานกว่า 20 ปี "ผมขอขอบคุณเการาฟสำหรับความมุ่งมั่นทุ่มเทที่มีต่อจีเอ็มในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและก่อนหน้านั้นที่เวียดนาม เขาเป็นผู้นำการปรับเปลี่ยนธุรกิจของ Chevrolet อย่างแท้จริงด้วยความสำเร็จในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่หลายรุ่น ปรับโครงสร้างเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์" จาค็อบบีกล่าว "ผมขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จทางด้านอาชีพการงานในอนาคต"