เขียนโดย: boytaku boxza

เมื่อ: 27 กรกฏาคม 2560 - 10:07

Mercedes-Benz The GLA ผสมผสานความสปอร์ตและความอเนกประสงค์ ที่ให้คุณได้ค้นหาสิ่งที่ท้าทายยิ่งขึ้น

The GLA

 

          Mercedes-Benz นำเสนอประสบการณ์การเดินทางที่ท้ายยิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอทั้งความสปอร์ตและความอเนกประสงค์รวมเป็นหนึ่งเดียว นั่นคือ The GLA รถอเนกประสงค์หลังคาลาดท้ายสไตล์คูเป้ ที่ให้บุคลิกโดดเด่น จัดเต็มทั้งออพชั่นอันทันสมัย และสมรรถนะของขุมพลังที่ดีเยี่ยม สนุกกับการเดินทางทั้งในเมืองไปจนถึงท่องเที่ยวนอกเมืองได้เป็นอย่างดี โดยทางบริษัทฯ ได้เผย 2 โมเดล 2 สไตล์ที่คุณเลือกได้ ทั้ง GLA 200 Urban ที่มอบความหรูหรา เป็นกันเอง คุ้มค่าทุกการใช้งาน และ GLA 250 AMG Dynamic ที่ตอบโจทย์คนรักความแรง ด้วยการสะท้อนความสปอร์ตขีดสุดทั้งบุคลิก และขุมพลัง

 

ภายนอก

GLA 200 Urban

 

          The GLA  สปอร์ตคอมแพ็คเอสยูวี ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบบุคลิกที่โดดเด่น พร้อมประสิทธิภาพการขับขี่ที่สอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศส่วนต่างๆ ตั้งแต่ด้านบนที่มาพร้อมกับหลังคาท้ายลาด พร้อมสปอยเลอร์ท้าย, เส้นสายด้านข้างพร้อมเสกิร์ตข้าง, ด้านใต้ท้องรถที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษตั้งแต่กันชนหน้า วัสดุปิดใต้ท้องรถ เพลาขับไปจนถึงแผงดิฟฟิวเซอร์ท้าย ซึ่งช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น แม้ตัวถังรถจะยกสูงจากพื้นดินเพื่อรองรับการเดินทางในพื้นที่ Off-Road ร่วมด้วย

 

GLA 250 AMG Dynamic

 

          ด้านออพชั่นมาตรฐานภายนอกของ The GLA ประกอบไปด้วย กระจังหน้า พร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, ไฟหน้าแบบ LED High Performance มาทดแทนระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ที่อุณหภูมิแสงใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาผู้ขับขี่เมื่อต้องขับรถในเวลากลางคืน, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, LED Daylight, ไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า, กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่ และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า, ราวหลังคาอลูมิเนียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมี่ยม 2 ท่อ เป็นต้น

          The GLA มาพร้อมกับ 2 บุคลิก ที่แตกต่างเฉพาะตัว ซึ่งแต่ละรุ่นจะได้รับทั้ง

  • GLA 200 Urban: ไฟตัดหมอก, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
  • GLA 250 AMG Dynamic: ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ, ชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชน หน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง), ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes -Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi - spoke ขนาด 19 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

 

ออพชั่นมาตรฐานของ GLA 200 Urban

 

ออพชั่นมาตรฐานของ GLA 250 AMG Dynamic

 

          และมิติตัวถังของ The GLA ประกอบไปด้วย

  • ความยาว: 1,804 มม.  
  • ความกว้าง: 4,424 (GLA 200 Urban) / 4,443 (GLA 250 AMG Dynamic) มม. 
  • ความสูง: 1,494 (GLA 200 Urban) / 1,483 (GLA 250 AMG Dynamic) มม. 
  • ขนาดล้อและยางหน้า-หลัง: 235 / 50 R18 (GLA 200 Urban) / 235 / 45 R19 (GLA 250 AMG Dynamic)
  • ความจุถังน้ำมัน: 50 ลิตร

 

ภายใน

ภายในห้องโดยสารในรุ่น GLA 200 Urban

 

          ภายใน The GLA ได้รับการออกแบบที่สะท้อนความหรูหรา ลงตัว มอบบรรยากาศที่กว้างขวางและทันสมัย ด้านออพชั่นฝั่งคนขับมาพร้อมกับมาตรวัดเรือนไมล์พร้อมจอแสดงช้อมูลการขับขี่, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่ม Push Start, ฟังก์ชั่น Eco Start / Stop เป็นต้น ส่วนพื้นที่ใช้สอยโดยรวมได้รับการออกแบบออพชั่นประโยชน์ใช้สอยอย่างชาญฉลาด เพื่อมอบพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง นั่งสบาย อาทิ ช่องเก็บของใต้เบาะ, ช่องวางแก้วคอนโซลกลางด้านหน้า, ช่องวางแก้วที่ซ่อนอยู่ในที่เท้าแขนกลางเบาะหลัง, ไฟส่องภายในห้องโดยสาร Ambient Lighting ที่เลือกปรับได้ 12 เฉดสี เป็นต้น

 

ภายในห้องโดยสารในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic

 

          ด้านระบบความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบไปด้วย เครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว, MB App, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (BlueTooth), รองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD-Card Navigation), ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay™), MB Apps รวมไปถึงเบาะนั่งคู่หน้าที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ, เบาะนั่งตอนหลังปรับเอน, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 2 โซน 

 

พื้นที่ห้องสัมภาระท้ายพร้อมฝาปิด

 

          The GLA ยังมอบความสะดวกสบายในการบรรทุกสิ่งของ ด้วยห้องสัมภาระท้ายความจุมาตรฐาน 421 ลิตร พร้อมเบาะหลังที่สามารถพับได้แบบ 3 ส่วน ซึ่งหากพับเบาะหลังทั้งหมด ก็จะสามารถขยายได้สูงสุด 1,235 ลิตร รวมไปถึงมีแผ่นปิดห้องสัมภาระท้าย, ไฟส่องห้องสัมภาระท้าย และช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์

          The GLA ทั้ง 2 รุ่นจะได้รับออพชั่น และชุดแต่งที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

พื้นที่ภายในห้องโดยสารพร้อมหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic

 

  • GLA 200 Urban: เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO
  • GLA 250 AMG Dynamic: เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, พวงมาลัยหุ้มหนังท้ายตัดตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต, ระบบกุญแจ Keyless, ระบบควบคุมหลังคาซันรูฟ

 

เรือนไมล์สไตล์สปอร์ต

 

เครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว

 

ช่องวางแก้วน้ำ

 

เบาะกลางที่สามารถกางเป็นที่วางแขนได้

 

แผ่นรองกาบบันได Mercedes-Benz

 

ระบบขับเคลื่อน

 

          The GLA แต่ละรุ่นจะบรรจุเครื่องยนต์เบนซินที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่จะได้รับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (7G - DCT) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียรที่พวงมาลัย

 

เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,595 ซีซี. เทอร์โบ

 

          GLA 200 Urban: เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,595 ซีซี. เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มอบสมรรถนะสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250-4,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 8.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม.

 

เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,991 ซีซี. เทอร์โบ

 

         GLA 250 AMG Dynamic: เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,991 ซีซี. เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มอบสมรรถนะสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

 

ระบบความปลอดภัย

กล้องมองหลัง

 

          ด้านระบบความปลอดภัยใน The GLA ทั้ง 2 รุ่น ได้จัดมาอย่างครบครัน และทันสมัย เพื่อปกป้องผู้ขับขี่, ผู้โดยสาร และอยู้ที่อยู่รอบรถทั้งก่อนเกิดเหตุ และระหว่างเกิดเหตุ โดยบรรจุทั้ง

  • ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) 
  • ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง, ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร,
  • เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง
  • กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ,
  • โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control)
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
  • ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist
  • ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
  • ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
  • ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
  • ระบบเตือนแรงดันยาง (tyre pressure loss warning system)
  • ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
  • ยาง Run-Flat

 

ราคา

          GLA 200 Urban ราคา 2,090,000 บาท

 

          GLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,390,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook