เผยโฉมอย่างเป็นทางการ The All-New X-Class รถกระบะพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mercedes-Benz ที่ได้รับการพัฒนาในรูปแบบรถอเนกประสงค์ส่วนบุคคล รวมไปถึงรถสำหรับใช้งานบางสาขาวิชาชีพ เช่น นักสำรวจ หรือหน่วยกู้ภัย ซึ่งทางค่ายได้ทำการยกระดับรถกระบะอเนกประสงค์ให้มีประสิทธิภาพการบรรทุกและการขับขี่ที่ดีกว่ารถกระบะทั่วๆ ไป
Mercedes-Benz X-Class จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ X-Class Pure ,X-Class Progressive และ X-Class Power โดยตัวถังรถจะมีเพียงแค่ตัวถัง 4 ประตูเท่านั้น ด้านมิติตัวถังเริ่มจากความยาว 5.34 เมตร/ กว้าง 1.92 เมตร/ ฐานล้อ 3.15 เมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 202 มม. พร้อมมุมประชิดที่มากถึง 20.4 องศา
ด้านบุคลิกภายนอก ทางค่ายได้นำเสนอกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมตราดาวสามแฉกตรงกลาง, ไฟหน้า LED, ไฟตัดหมอกที่บรรจุให้ทุกรุ่นย่อย, ไฟท้าย LED แนวตั้ง, ซุ้มล้อที่ให้ความรู้สึกถึงความเพียวสวยงาม, กันชนท้ายที่สามารถถอดออกเพื่อให้ฝากระบะท้ายสามารถเปิดได้กว้างถึง 180 องศา นอกจากนี้พื้นที่กระบะท้ายยังมีปลั๊กไฟ 12 โวลต์ เพื่อรองรับการพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น
ส่วนภายในทางค่ายไม่ได้ออกแบบเน้นให้หรูหราเท่าไหร่ แต่จะเน้นประสิทธิภาพในการขับขี่และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ทำงานได้ดีที่สุด ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมกับมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, จออินโฟเทนเมนต์ 5.4 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมบนแผงเกียร์อันเป็นเอกลักษณ์, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ช่องแอร์ทรงกลม, เบาะนั่งปรับไฟฟ้า เป็นต้น
ทั้งนี้ ทางค่ายยังมีแพ็คเกจเสริมที่เพิ่มบรรยากาศให้หรูหรายิ่งขึ้น เช่น เปลี่ยนจากเบาะผ้าในรุ่นมาตรฐานให้เป็นเบาะหนัง, แผงคอนโซลหุ้มหนัง-ไม้, วัสดุตกแต่งลายไม้, ระบบอินโฟเทนเมนต์ Freestanding พร้อมจอแสดงผลขนาด 8.4 นิ้ว เป็นต้น รวมไปถึงชุดแต่งภายนอกที่จะมีทั้งโรลบาร์, ราวยึดตะขอ, ที่ปิดกระบะท้ายแบบเรียบกับกระบะท้ายและแบบหลังคา, ลายล้ออัลลอย เป็นต้น
Mercedes-Benz X-Class มีเครื่องยนต์ให้เลือกด้วยกันทั้งเครื่องยนต์เบนซินในรุ่น X200 ที่บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC ความจุ 2.5 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 165 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ได้แก่ รุ่น X220 d บรรจุเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบความจุ 2.3 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 163 แรงม้า, X250 d จะเป็นเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบดีเซล ความจุ 2.3 ลิตร เช่นกัน ให้สมรรถนะสูงสุด 190 แรงม้า นอกจากนี้ทางค่ายเตรียมส่งเครื่องยนต์ดีเซล V6 ในรุ่น X350 d ที่ให้สมรรถนะสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร
ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด บรรจุโหมดขับเคลื่อนเพื่อรองรับการเดินทางที่หลากหลาย ได้แก่ Comfort, Eco, Sport, Manual และ Off-Road ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ
ด้านช่วงล่างของ Mercedes-Benz X-Class จะใช้แชสซีส์แบบเดียวกันกับ Nissan NP300 Navara เป็นโครงสร้างแชสซีส์เหล็กกล้าขนาดใหญ่ในรูปแบบขั้นบันได ระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพและ Coil Spring สำหรับประสิทธิภาพการบรรทุก แม้จะเป็นรถกระบะ 4 ประตู แต่ทางค่ายได้พัฒนาให้สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 1.1 ตัน และรองรับกำลังลากจูงวัตถุน้ำหนักได้สูงสุด 3.1 ตัน
Mercedes-Benz X-Class จะทำตลาดในภูมิภาคยุโรป, แอฟริกาใต้, บราซิล, อาร์เจนติน่า, ออสเตรเลียเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 37,294 ยูโร หรือคิดเงินไทยราวๆ 1.4 ล้านบาท
