ชั่วโมงทำงานที่ยาวนาน ไลฟ์สไตล์ที่เคร่งเครียด และเวลานอนที่ไม่เพียงพอ กำลังทำให้หลายพันชีวิตในเอเชีย แปซิฟิค ตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้ขับขี่จำนวนมากรู้สึกเหนื่อยล้า และผลกระทบนั้นน่าตกใจเป็นอย่างมาก
จากผลวิจัยเผยว่า หลายประเทศในเอเชีย แปซิฟิค มีจำนวนผู้ขับขี่ที่พักผ่อนไม่เพียงพอมากที่สุดในโลก ในประเทศไทย ภาวะง่วงนอนระหว่างขับรถคือหนึ่งในสามสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนน ในปี พ.ศ. 2559 ในกรุงโซล ระยะเวลานอนของผู้คนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 ชั่วโมงต่อวัน ในประเทศจีน ภาวะง่วงนอนระหว่างขับรถคือหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยตัวเลขสูงมากกว่า 187,000 ครั้งต่อปี และในประเทศออสเตรเลีย 29% ของผู้ใหญ่ ขับรถขณะง่วงนอนอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน ในขณะที่ 20% ยอมรับว่าเผลอหลับขณะขับขี่
ระบบแจ้งเตือนการขับขี่อยู่ในเกณฑ์ปกติ (ไฟเขียว)
สำหรับ Ford ได้พัฒนา ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) ซึ่งใช้กล้องหน้าเพื่อจับช่องแบ่งเลน และจับการเคลื่อนไหวที่ส่ายออกจากเลน และขึ้นสัญลักษณ์ถ้วยกาแฟ เพื่อเตือนผู้ขับขี่ว่าอาจถึงเวลาที่ควรหยุดพักแล้ว
ระบบแจ้งเตือนการขับขี่อยู่ในเกณฑ์ควรระวัง (ไฟเหลือง)
ระบบแจ้งเตือนการขับขี่อยู่ในเกณฑ์ควรพัก (ไฟแดง)
“อาจมีความกดดันมากมายที่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องขับรถต่อไป โดยไม่ยอมหยุดพัก ไม่ว่าใครก็อยากกลับบ้านให้เร็วที่สุดทั้งนั้น แต่สัญลักษณ์ถ้วยกาแฟเล็กๆ นี้ จะเป็นสัญญาณเตือนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเตือนว่าวิธีกลับบ้านที่ดีที่สุดคือการกลับอย่างปลอดภัย และนั่นอาจหมายถึงการจอดรถข้างทาง และหยุดพักสักครู่ หรือดื่มกาแฟสักแก้ว” มร. แอนเดรจ โลเว็น วิศวกรระบบผู้ช่วยคนขับจากทีมวิศวกรรถยนต์ ฟอร์ด กล่าว
Ford ยังคงพัฒนาระบบนี้อย่างต่อเนื่อง โดยระบบนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเกือบทศวรรษที่แล้ว สำหรับในประเทศไทย เทคโนโลยีล่าสุดนี้มาในฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไทเทเนียม พลัส และ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์แทรค 3.2 ลิตร
“Ford จะยังคงมุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยีภายในรถยนต์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบการขับขี่ที่ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น” มร. แอนเดรจ โลเว็น กล่าวสรุป