เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2560 - 20:29

Mercedes-Benz เปิดตัว The E 350 e ซีดานหรูรักษ์โลก หัวใจสปอร์ต ตอกย้ำผู้นำด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า

Mercedes-Benz E 350 e AMG Dynamic

 

          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำภาพความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ “EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz” (อีคิว – อีเลคทริค อินเทลลิเจนซ์ บาย เมอร์เซเดส-เบนซ์) อย่าง The E 350 e ที่มาเติมเต็มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury Sedan ให้ครบครัน โดยรถยนต์รุ่นนี้โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ระบบความปลอดภัยอันเป็นเลิศ พร้อมอัตราการปล่อย CO2 ที่ 49-57 กรัม/กิโลเมตร ที่มาให้ลูกค้า ได้เลือกสรรใน 3 ดีไซน์ ได้แก่ The E 350 e Avantgarde ราคา 3,490,000 บาท, The E 350 e Exclusive ราคา 3,790,000 บาท และ The E 350 e AMG Dynamic ราคา 4,090,000 บาท

 

 

          มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Mercedes-Benz มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมล้ำสมัยที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด (THE BEST)” ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Mercedes-Benz ได้วางรากฐานไว้เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานไปจนถึงปี 2025 โดยในครั้งนี้ Mercedes-Benz ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมไฟฟ้าที่ครบครันมากที่สุดอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอรถยนต์รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz อย่าง The E 350 e ยนตรกรรมเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่มาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่ม Contemporary Luxury Sedan ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้เปิดตัว The S 500 e และ The C 350 e ให้คนไทยได้สัมผัสเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา”

 

Mercedes-Benz E 350 e Avantgarde

 

Mercedes-Benz E 350 e Exclusive

 

The E 350 e

          Mercedes-Benz E 350 e คือ รถยนต์ซีดานระดับพรีเมี่ยมที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องยนต์ไฮบริด นวัตกรรมด้านยานยนต์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ และภาพลักษณ์             อันหรูหราของรถยนต์ตระกูลอี-คลาสเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับ The E 350 e มีให้เลือก 3 ดีไซน์ด้วยกัน คือ Avantgarde, Exclusive และ AMG Dynamic ที่โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด มาพร้อมกับความประหยัดพลังงานด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยถึง 40 - 47.62 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมด้วยการปล่อย CO2 เพียง 49-57 กรัม/กิโลเมตร รวมถึงขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 33 กิโลเมตร ซึ่งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบที่ Mercedes-Benz เลือกใช้จะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และให้กำลังรวมกัน 210 กิโลวัตต์ (286 แรงม้า) และมีแรงบิดสูงถึง 550 นิวตัน-เมตร การผสมผสานเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้านี้ช่วยให้รถยนต์รุ่น The E 350 e นับเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะการขับขี่เทียบเท่ารถสปอร์ตแต่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่ารถยนต์คอมแพกต์

 

 

          ดีไซน์ภายนอก The E 350 e มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามอย่างมีระดับตามแบบฉบับของรถยนต์ตระกูลอี-คลาส โดย The E 350 e Avantgarde มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED High Performance สำหรับรุ่น The E 350 e Exclusive และ The E 350 e AMG Dynamic มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS – Intelligent Light System), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System), ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus)

 

 

          โดย The E 350 e AMG Dynamic จะเพิ่มเติมความพิเศษด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า

 

 

          ดีไซน์ภายใน สำหรับห้องโดยสารของ The E-Class นั้น มาพร้อมความแนวคิด Contemporary Luxury ใหม่ ผ่านการออกแบบห้องโดยสารให้ดูกว้างขวาง และเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะมากมาย นอกเหนือจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังใช้นวัตกรรมที่ก้าวล้ำ และอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูงเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าอารมณ์ให้กับทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารตอนหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญา Sensual Purity ของแบรนด์

 

 

          โดยสำหรับรถยนต์รุ่น The E 350 e ได้รับการออกแบบให้เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงแบบ 1/3 และ 2/3 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ ซึ่งรุ่น The E 350 e Avantgarde และ The E 350 e Exclusive ภายในได้รับการตกแต่งสไตล์หรูหรา มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง nappa ในขณะที่รุ่น The E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง nappa, นอกจากนี้ สำหรับรุ่น The E 350 e Exclusive และ The E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit เพิ่มความพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่น The E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display)

 

 

          ในส่วนของระบบมัลติมีเดียนั้น The E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® นอกจากนี้ ทั้ง 3 รุ่นยังมาพร้อมกับ ระบบ COMAND Online พร้อม Controller, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad, ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay™) และ Android (Android Auto) รวมถึงการติดตั้งระบบแผนที่นำทาง พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สีอีกด้วย

 

 

          ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ The E 350 e มาพร้อมกับระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless  charging for mobile phone) โดย The E 350 e Avantgarde จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ในขณะที่ The E 350 e Exclusive และ The E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ที่ติดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย

 

 

          The E 350 e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,200-4,000 ต่อนาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

 

 

สำหรับราคาจำหน่ายของ Mercedes-Benz The E 350 e ทั้ง 3 รุ่น มีดังนี้

  • The E 350 e Avantgarde ราคา 3,490,000 บาท
  • The E 350 e Exclusive ราคา 3,790,000 บาท
  • The E 350 e AMG Dynamic ราคา 4,090,000 บาท
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook