เขียนโดย: Mr Argus

เมื่อ: 20 เมษายน 2560 - 18:12

Mercedes-Benz S-Class โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ สวยหรูบาดใจ ไฮเทคสุดล้ำ นำเทรนด์การขับอัตโนมัติ

Mercedes-Benz S-Class W222 รุ่นปกติ

 

          Mercedes-Benz S-Class รถหรูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ด้วยการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ยังคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไฮเทคตามเคย ภายนอกเปลี่ยนไม่มาก แต่ออพชั่นภายในพร้อมวิศวกรรมเพิ่มใหม่หลายจุดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบขับขี่อัตโนมัติ

 

Mercedes-Benz S65 AMG V12

 

          Mercedes-Benz S-Class รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีภายนอกปรับเปลี่ยนลายกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าเปลี่ยนลายภายใน เน้นเส้น LED มากขึ้น กันชนเปลี่ยนช่องดักลมทรงใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ไฟท้ายเป็น LED ลายใหม่ ใช้เส้นไฟเบอร์ออพติกแนวนอน เพื่อให้มีลูกเล่นแสงสีเหมือนอัญมณี กันชนท้ายออกแบบใหม่ให้ฝังปลายท่อไอเสียอย่างแนบเนียน

          นอกจากรุ่นปกติที่ปรับโฉมแล้ว ยังมีรุ่น AMG ที่เปลี่ยนกันชนให้มีช่องดักลมลายตะแกรงที่สปอร์ตไปอีก ส่วนรุ่น Maybach จะเปลี่ยนลายกระจังและกันชนใหม่ ที่เสริมด้วยโครเมียมตามขอบสันต่างๆ ส่วนล้อแม็กมีให้เลือกตั้งแต่ 17-20 นิ้ว ตามแต่ละรุ่นย่อย

 

Mercedes-Maybach

 

          ภายใน Mercedes-Benz S-Class มีจุดเปลี่ยนเด่นชัดมาที่สุด คือ พวงมาลัย จากเดิมที่เป็นแบบ 2 ก้าน นวมแตรทรงเหลี่ยม กลายเป็นวง 3 ก้าน พร้อมนวมแตรวงกลมปกติ แถมเพิ่มระบบสัมผัสที่ก้านพวงมาลัย ตรวจจับการเคลื่อนที่นิ้วผ่านเซนเซอร์บนก้านพวงมาลัย เพื่อไปสั่งการหน้าจอคอมมานด์ขนาด 12.3" ที่กลางคอนโซล ซึ่งควบคุมระบบเครื่องเสียงใหม่ ที่มีลำโพงครบทุกย่านเสียงแบบ 3 มิติ มีระบบไฟ 48 โวล์ต พร้อมชาร์จมือถือได้แบบไร้สาย

 

เซ็นเซอร์ระบบสัมผัสบนก้านพวงมาลัย

 

          Mercedes-Benz S-Class มีระบบความปลอดภัยไฮเทคครบครัน ซึ่งดูเหมือนว่าระบบรักษาเลน เตือนจุดบอด และเบรคอัตโนมัติ จะเป็นมาตรฐานไปแล้ว ดังนั้นรุ่นปรับโฉมนี้ จัดหนักกว่าทั่วไปอีก ด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ Distronic ช่วยรักษาเลนอัตโนมัติ เปลี่ยนเลนช่วยแซง และรักษาระยะห่างคันหน้าอัตโนมัติ อีกทั้งยังล้ำไปอีกด้วยระบบช่วยจอดรถในที่แคบ โดยที่เจ้าของรถควบคุมด้วยมือถือจากภายนอก ที่สำคัญ Mercedes-Benz S-Class เสริมความล้ำทางวิศวกรรมไปอีก ด้วยท่อไอเสียสูตรใหม่ จานเบรควัสดุผสมที่เบาลง 20% และไฮเทคสุดๆ ด้วยช่วงล่างเอียงรถได้ 2.65 องศา ช่วยลดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางที่ผู้โดยสารรู้สึกได้ 

 

 

          Mercedes-Benz S-Class ใช้เครื่องยนต์แรงเดิมจากโรงงาน เริ่มต้นกับดีเซล 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร กับรุ่น S350d ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีพลัง 286 แรงม้า กับแรงบิด 600 นิวตัน-เมตร ต่อมาเป็นรุ่น S400d ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยกำลัง 340 แรงม้า ที่มีแรงบิด 700 นิวตัน-เมตร และรุ่นท๊อปสุดเบนซิน V8 ในรุ่น S560 กับพลัง 469 แรงม้า พร้อมแรงบิด 700 นิวตัน-เมตร

          Mercedes-AMG ใช้เครื่องเบนซินแรงขนาด 4.0 ลิตร V8 กำลัง 612 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตัน-เมตร ส่งผ่านเกียร์ออโต้ 9 สปีด ปั่นสู่ลอหลังให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 3.5 วินาที ส่วนรุ่น S65 ใช้เครื่องเบนซิน 6.0 ลิตร V12 กำลัง 630 แรงม้า กับแรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร

          รุ่นไมเนอร์เชนจ์ของ Mercedes-Benz S-Class เปิดตัวแล้วในงาน 2017 Shanghai Auto Show พร้อมขายทั้งรุ่นปกติ รุ่นแรง และรุ่นหรู โดยเตรียมจะลงโชว์รูมใน 2-3 เดือนหน้า 

 

 

CR: carscoop

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook