กรมการขนส่งทางบก ประกาศปรับเนื้อหาหลักสูตรและระยะเวลาอบรมแก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว จากเดิม 4 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการยกระดับมาตรฐานคุณภาพผู้ขับรถ Sure Driving/Smart Driver เพื่อเพิ่มคุณภาพมาตรฐานของผู้ขับรถให้มีทักษะและความรู้การขับรถอย่างปลอดภัย ลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน และลดสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย
คุณสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า "กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ได้ยกระดับมาตรฐานคุณภาพผู้ขับรถ Sure Driving/Smart Driver เพื่อเพิ่มคุณภาพมาตรฐานของผู้ขับรถให้มีทักษะและความรู้การขับรถอย่างปลอดภัย ช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุและลดสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะปรับหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยปรับเพิ่มเนื้อหาอบรมสาหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ (ชนิดชั่วคราว)โดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และการขับรถอย่างปลอดภัยให้มากขึ้น ซึ่งใช้เวลามากขึ้น จากเดิม 4 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมง"
"ซึ่งจะเริ่มใช้หลักสูตรใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป รวมถึงกรณีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถชั่วคราวแล้ว แต่ใบอนุญาตขับรถเดิมสิ้นอายุเกินกว่า 1 ปี ต้องเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรใหม่ โดยบุคลากรผู้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรของกรมการขนส่งทางบก, โรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้ลงนามบันทึกในการจัดอบรมภาคทฤษฎีกับกรมการขนส่งทางบก จำนวนกว่า 500 คน ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการสอนตามหลักสูตร 5 ชั่วโมง สามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถได้อย่างครบถ้วน มีประสิทธิภาพ และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ"
สำหรับหลักสูตรที่มีการปรับปรุงเนื้อหา ประกอบด้วย
การปรับเพิ่มจำนวนชั่วโมงอบรมเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งเมื่อมีความรู้ความเข้าใจกฎการขับขี่ที่ถูกต้อง อุบัติเหตุบนท้องถนนก็จะลดลงตามไปด้วย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนที่อาจไม่สะดวกในการติดต่อเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบก ในวันและเวลาราชการ สามารถเลือกเข้ารับการอบรมกับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานภาครัฐที่ทำความตกลงกับกรมการขนส่งทางบก ภายใต้หลักสูตรเดียวกัน และนำหนังสือรับรองผ่านการอบรมมายื่นแสดงเป็นหลักฐานขอเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย, ทดสอบข้อเขียน (E-exam) และทดสอบขับรถกับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การออกใบอนุญาตขับรถให้แก่ประชาชน กรมการขนส่งทางบกดำเนินการอยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ต้องการผลิตนักขับขี่ที่มีคุณภาพ และใส่ใจความปลอดภัยของทั้งตัวเอง และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจากตัวผู้ขับขี่เองเป็นสำคัญ การเพิ่มความเข้มข้นของหลักสูตรจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อเสริมสร้างความรู้ในการขับรถที่ถูกต้อง และปลูกฝังจิตสานึกเท่านั้น ส่วนสำคัญอยู่ที่ผู้ขับขี่ซึ่งต้องตระหนักถึงความปลอดภัยและนาไปปฏิบัติอย่างจริงจังด้วย อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
Cr. ข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก