Ford Focus 1.5 EcoBoost
สัปดาห์นี้ ทางทีมงานขอส่งคู่เปรียบเทียบที่น่าสนใจไม่แพ้คู่อื่นๆ นั่นคือ การประชันคู่เปรียบเทียบของคอมแพ็คคาร์ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบพิกัดไม่เกิน 2.0 ลิตร แม้จะทำตลาดในไทยเพียงไม่กี่รุ่น แต่ถือได้ว่าป็อปปูล่าอยู่ไม่น้อย ซึ่งคู่เปรียบเทียบในครั้งนี้ จะเป็นรถคอมแพ็คคาร์เทอร์โบ 2 สัญชาติ ได้แก่ Ford Focus 1.5 EcoBoost โฉมใหม่ และ Nissan Sylphy DIG Turbo
Nissan Sylphy DIG Turbo
ภายนอก
Ford Focus 1.5 EcoBoost ที่ปรับโฉมเพิ่มความทันสมัยยิ่งขึ้น
Ford Focus 1.5 EcoBoost สปอร์ตคอมแพ็คคาร์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ ซึ่งในเวลานี้มีให้เลือกเพียงแค่รุ่นตัวถังแฮทช์แบ็ค 5 ประตูเท่านั้น พร้อมกับการปรับปรุงหน้าตาให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น อ็อพชั่นครบครัน ทั้งไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมไฟ LED Daylight, ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง, ไฟท้าย LED, สปอยเลอร์หลัง, ล้ออัลลอย 17 นิ้ว กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้าสีเดียวตัวถังเช่นเดียวกับมือจับเปิดประตู, ระบบปัดน้ำฝนกระจกหน้าอัตโนมัติ ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบหน่วงเวลา และสีตัวถังของรถรุ่นนี้มีให้เลือกด้วยกัน 5 สี
โฉมเดิม แต่ได้หลังคาซันรูฟและชุดแต่งสปอร์ตโดดเด่น
Nissan Sylphy DIG Turbo เป็นการยกระดับสปอร์ตซีดาน Nissan Sylphy ให้กลายเป็นรุ่นท็อปสุด ด้วยการเสริมอ็อพชั่นหลังคาซันรูฟเพิ่มความหรูหรา ส่วนอ็อพชั่นมาตรฐานก็จัดครบครัน ได้แก่ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ซีนอนที่มาพร้อมกับระบบปรับไฟอัตโนมัติ, ระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า, ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาที่ปัดตามความเร็วรถ, ไฟหรี่กับไฟท้าย LED, ชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน และล้ออัลลอย 17 นิ้ว เป็นต้น ส่วนสีตัวถังจะมีให้เลือกเพียง 2 สี ได้แก่ ไวท์สตอร์ม กับแบล็คสตาร์ เท่านั้น
ด้านรูปลักษณ์แน่นอนว่ามันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างแฮทช์แบ็คและซีดาน งานนี้ก็ต้องตัดสินกันที่มิติตัวถังกันต่อว่า ใครจะมีขนาดเท่าไหร่กันบ้าง
มิติตัวถัง | Ford Focus 1.5 EcoBoost | Nissan Sylphy DIG Turbo |
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,358 x 1,823 x 1,469 | 4,620 x 1,780 x 1,495 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,648 | 2,700 |
ระยะห่างล้อคู่หน้า - คู่หลัง (มม.) | 1,554 - 1,534 | 1,530 - 1,530 |
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) | - | 130 |
น้ำหนัก (กก.) | - | 1,359 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 55 | 52 |
ภายใน
ห้องโดยสารของ Ford Focus 1.5 EcoBoost
Ford Focus 1.5 EcoBoost ได้รับการปรับปรุงภายในให้มีความสปอร์ตสวยงาม ทันสมัย การออกแบบอุปกรณ์ที่ได้รับการจัดสรรอย่างลงตัว แต่จุดเด่นของรถรุ่นนี้ก็คือ การบรรจุอ็อพชั่นอันทันสมัยจากฟอร์ด ทั้งระบบสั่งการด้วยเสียง Sync3, ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ทันสมัย เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกโซน, ระบบไล่ฝ้าที่กระจกมองข้าง, Cruise Control และไฟรอบห้องโดยสารที่สามารถเลือกได้ถึง 7 สี
ห้องโดยสารของ Nissan Sylphy DIG Turbo
Nissan Sylphy DIG Turbo ด้านภายในที่ได้รับการเสริมชุดแต่งเพิ่มความสปอร์ต โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแป้นเหยียบอัลลอยและพรมลายตารางขาวดำ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในนั้นจัดครบครันสไตล์รุ่นท็อป, ระบบปรับอากาศแบบแยกโซนซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง, ระบบเครื่องเล่นวิทยุ/ CD/ MP3 พร้อมจอสัมผัสขนาด 5.8 นิ้ว, ระบบเชื่อมต่อ USB/ AUX/ Bluetooth, Cruise Control เป็นต้น
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ Ecoboost Turbo
Ford Focus EcoBoost บรรจุเครื่องยนต์ EcoBoost Turbo ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น, ระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ และเสริมเทอร์โบชาร์จ มอบสมรรถนะสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 5,000 รอบ/นาที ให้ประสิทธิภาพประหยัดน้ำมันในอัตราประมาณ 14 กม./ลิตร และรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร DIG Turbo
Nissan Sylphy DIG Turbo บรรจุเครื่องยนต์ MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีดไดเร็ค อินเจคชั่น ระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมเทอร์โบชาร์จ รวมไปถึงได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ใหม่ ทั้งหมดนี้จึงมอบสมรรถนะสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน- เมตร ตั้งแต่ 2,400 – 5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ที่เพิ่มระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง (Manual Mode) แบบ 6 สปีด
ระบบความปลอดภัย
ทั้ง Ford Focus 1.5 EcoBoost และ Nissan Sylphy DIG Turbo มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย รองรับการขับขี่ที่สไตล์สปอร์ตเหนือชั้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ระบบความปลอดภัย | Ford Focus 1.5 EcoBoost | Nissan Sylphy DIG Turbo |
โครงสร้างตัวถัง | * | Zone Body Concept |
คานเหล็กเสริมนิรภัย | เสริมเหล็กกล้าโบรอน | - |
ถุงลมนิรภัย | คู่หน้า, คู่ด้านข้าง และม่านถุงลมข้างรถ | คู่หน้า, คู่ด้านข้าง และม่านถุงลมข้างรถ |
เข็มขัดนิรภัย |
ELR คู่หน้า 3 จุด แบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดเบาะหลัง 3 จุด 3 ที่นั่ง |
ELR คู่หน้า 3 จุด แบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ แบบ Double Pretensioner เข็มขัดเบาะหลัง 3 จุด 3 ที่นั่ง |
สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า | * | - |
ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) | * | * |
ระบบกระจายแรงเบรค (EBD) | * | * |
ระบบเสริมแรงเบรค (BA) | - | * |
ระบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว | ESP | ขณะเข้าโค้ง (VDC) |
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) | * | - |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) | * | * |
ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง | * | * |
สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง | * | * |
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า | * | - |
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบเทียบข้างและถอยเข้าซอง | * | - |
ระบบช่วยเบรคที่ความเร็วต่ำ | * | - |
กล้องมองหลังขณะถอยจอด | * | * |
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer | * | * |
สัญญาณกันขโมย | * | - |
ราคา
Ford Focus 1.5L EcoBoost Sport AT ราคา 1,099,000 บาท
Nissan Sylphy DIG Turbo ราคา 999,000 บาท
สรุป
Ford Focus EcoBoost การปรับโฉมในครั้งนี้ นอกจากจะได้รับการบรรจุเครื่องยนต์เทอร์โบรุ่นใหม่แล้ว ยังได้รับการเสริมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยใหม่ๆ หลายรายการ เช่น ทั้งระบบสั่งการด้วยเสียง Sync3, ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว, ระบบช่วยเบรคที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบเทียบข้างและถอยเข้าซอง เป็นต้น รวมไปถึงมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี เอาใจคนรักความทันสมัยพร้อมการขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น
Nissan Sylphy DIG Turbo แม้ความทันสมัยจะดูน้อยกว่าคู่เปรียบเทียบ แต่ถ้าในด้านสมรรถนะ รุ่นนี้มีความเหนือชั้นกว่า ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร ที่มอบสมรรถนะสูงสุดถึง 190 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เพิ่มระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง (Manual Mode) แบบ 6 สปีด แถมมีการปรับปรุงช่วงล่างเพื่อรองรับการขับขี่ที่เร้าใจ ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกจะบรรจุหลังคาซันรูฟ, หัวฉีดล้างไฟหน้า กับช่องแอร์ด้านหลัง ที่สำคัญ แรงเร้าใจขนาดนี้แต่มีราคาที่ไม่ถึงล้าน
สำหรับโอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ