Mercedes-Benz GLE 500e 4 Matic
Mercedes-Benz GLE 500e 4 Matic ยนตกรรมเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นประกอบในไทยใหม่ล่าสุด ที่ช่วยเติมเต็มกลุ่ม Mercedes-Benz Electric Driving ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้นำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่น The S 500 e และ The C 350 e เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยรถเอสยูวีรุ่นนี้มอบทั้งเทคโนโลยีสุดล้ำ, ระบบขับขี่ที่ทันสมัย ลดมลพิษ และมอบความหรูหราสง่างาม ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเป็นเจ้าของได้ถึง 2 รุ่น ได้แก่ GLE 500 e 4MATIC Exclusive ราคา 4,490,000 บาท และ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic ราคา 4,990,000 บาท
ด้วยราคาที่มีส่วนต่างกันถึง 500,000 บาท ด้านอุปกรณ์อ็อพชั่นต่างๆ ก็ย่อมแตกต่างด้วยเช่นกัน ซึ่งในเวลานี้ทางทีมงานได้นำรถทั้ง 2 รุ่น มาเปรียบเทียบว่า มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ? มีอ็อพชั่นเฉพาะรุ่นอะไรบ้าง ? งานนี้มาชมพร้อมกันได้เลย
ภายนอก
รายละเอียดภายนอกโดยรวมของ GLE 500 e 4MATIC Exclusive
เริ่มจากรุ่น GLE 500 e 4MATIC Exclusive ที่ผสานความหรูหราและความแข็งแกร่งของภายนอกด้วยกันชนดีไซน์สปอร์ต, กระจังหน้าตราดาวสามแฉกพร้อมแถบโครเมียม 2 แถบ, ราวหลังคาอลูมิเนียม, ไฟหน้า, LED Intelligent Light System, ไฟท้าย LED, ช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ, ราวบันได ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ และล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สี Himalayas Grey ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 5 สีดังนี้
รายละเอียดภายนอกโดยรวมของ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
ส่วน GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic จะได้รับชุดแต่งจาก AMG เพิ่มหลายรายการ ได้แก่ กันชนใหม่ที่ดูดุดัน ทรงพลัง, กันชนหลัง, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน โดยตัวคาลิปเปอร์เบรกมีตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, ล้ออัลลอย AMG ขนาด 20 นิ้ว สี Titanium Grey นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มอ็อพชั่นที่น่าสนใจ นั่นคือ หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ที่เลื่อนเปิด - ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนอ็อพชั่นอื่นๆ ยังคงมาจากรุ่น Exclusive ทั้งสิ้น ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 5 สีดังนี้
ภายใน
ก่อนที่จะเท้าความถึงอ็อพชั่นเฉพาะรุ่น ขอกล่าวถึงอ็อพชั่นมาตรฐานที่จัดให้ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ มาตรวัดสไตล์สปอร์ตพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ฟังก์ชั่น ECO start /stop, ระบบ Dynamic Select, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบผ่อนแรง และปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ, เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน, ช่องแอร์ด้านหลัง, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) สามสี, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth, ระบบนำทาง, ที่วางแก้วน้ำแบบควบคุมอุณหภูมิ, แผ่นปิดสัมภาระท้ายรถ เป็นต้น
รายละเอียดภายในโดยรวมของ GLE 500 e 4MATIC Exclusive
GLE 500 e 4MATIC Exclusive เริ่มจากการตกแต่งภายในที่ให้สีสันมากกว่า ทั้งห้องโดยสารสีดำตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้สีน้ำตาล ส่วนเบาะนั่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Saddle Brown, Crystal Grey และ Black ส่วนอ็อพชั่นอำนวยความสะดวกนั้น ประกอบไปด้วย กุญแจรีโมทพร้อมปุ่ม Push Start, วิทยุ - ซีดี MB Audio 20 เป็นต้น
รายละเอียดภายในโดยรวมของ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมกับห้องโดยสารที่ดูสุขุม ด้วยวัสดุตแต่งลายไม้สีดำที่รับกับรอบห้องสีดำ, เบาะนั่งหนัง Nappa ที่มีให้เลือกทั้งสี Black Pearl, Black และสีทูโทน Porcelain - Black ส่วนอ็อพชั่นอำนวยความสะดวกเฉพาะรุ่นนี้ นอกจากระบบควบคุมหลังคาพาโนรามิคซันรูฟด้วยระบบไฟฟ้าแล้ว ยังมาพร้อมกับกุญแจแบบ KEYLESS - GO พร้อมปุ่ม Push Start, ระบบ COMAND Online พร้อมระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Apple Carplay, เครื่องเล่น DVD แบบ 6 แผ่น, เครื่องเสียงพรีเมี่ยมจาก Harman Kardon Logic 7
เครื่องยนต์
ชุดเครื่องยนต์ไฮบริดใน Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC ทั้งสองรุ่น
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC ทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบไฮบริดสมรรถนะสูง ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 ทวินเทอร์โบ ความจุกระบอกสูบ 2,996 ซีซี. มอบสมรรถนะ 333 แรงม้า และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 116 แรงม้า ที่ 5,250-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย, แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 8.7 กิโลวัตต์ น้ำหนัก 114 กิโลกรัม มีระบบหล่อเย็นจากน้ำ และฝาป้องกันการกระแทกที่ผลิตจากแผ่นโลหะปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง โดยแบตเตอรี่นี้สามารถชาร์ตไฟให้เต็มได้ภายในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยเมื่อทำงานทั้งระบบ Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม/ชม.
จอแสดงข้อมูลโหมดการขับขี่
นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่น ได้บรรจุระบบปรับโหมดขับขี่ Plug-In HYBRID ทั้ง 4 แบบ และระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ เพื่อมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์ ทุกสภาพถนน
ระบบความปลอดภัย
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC ทั้งรุ่น Exclusive และ AMG Dynamic มอบระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยหลายรายการ ซึ่งมีด้วยกันดังนี้
ระบบความปลอดภัย | GLE 500 e 4MATIC Exclusive | GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic |
ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE - SAFE system) |
* | * |
ถุงลมนิรภัย | คู่หน้า, ด้านข้าง 4 ตำแหน่งและม่านถุงลมปกป้องศีรษะ4 ตำแหน่ง |
คู่หน้า, ด้านข้าง 4 ตำแหน่งและม่านถุงลมปกป้องศีรษะ4 ตำแหน่ง |
เข็มขัดนิรภัย | แบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง | แบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง |
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) |
* | * |
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมฟังก์ชั่น Electronic Traction System 4ETS | * | * |
ระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC | * | * |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) | * | * |
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti - lock braking system) | * | * |
ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind assist) | * | * |
ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill - Start Assist | * | * |
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (adaptive brake light) | * | * |
ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) | * | * |
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator) | * | * |
ระบบเตือนแรงดันลมยาง (tyre pressure loss warning system) | * | * |
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) | * | * |
เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) | * | * |
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) | * | * |
กล้องแสดงภาพ | ด้านหลังขณะถอยจอด | รอบทิศทาง |
สัญลักษณ์สามเหลี่ยมเตือนภัย และชุดปฐมพยาบาล | * | * |
ยางรถยนต์แบบ Runflat | * | * |
สรุป
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
สำหรับโอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ