Nissan เผยโฉม All-New Serena ยนตกรรม Mini MPV เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ได้รับการอัพเกรดรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เตรียมส่งมาทำตลาดในแดนปลาดิบปลายเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ Nissan All-New Serena ได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ผสานกับความหรูหราแบบยนตกรรม MPV ระดับพรีเมียม เริ่มจากด้านหน้าที่มาพร้อมกับกระจังหน้ารมดำแบบ V-Motion ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของยนตกรรมจากค่าย Nissan เข้าชุดกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED โคมไฟหน้าดีไซน์แบบ 2 ชั้น มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ และไฟส่องสว่าง Daytime Running Light แบบ LED ส่วนฝากระโปรงหน้าถูกเพิ่มเส้นสายให้ดูโฉบเฉี่ยวมากยิงขึ้น โดยตัวรถถูกเพิ่มลูกเล่นไว้ด้วยสีตัวถังแบบทูโทน ซึ่งแบ่งแยกระหว่างแผงหลังคากับตัวถังอย่างชัดเจน ส่วนด้านท้ายได้ออกแบบให้กรอบไฟท้ายมีขนาดเล็กลง และมีสไตล์โมเดิร์นมากขึ้น อีกทั้งภายนอกยังได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมเพิ่มความหรูหรา สำหรับ Nissan All-New Serena รุ่น Highway Star จะมาพร้อมสเกิร์ตข้าง, ล้อชุดพิเศษ, กันชนหลังใหม่ และกระจกมองข้างสีดำ
สำหรับภายในห้องโดยสารของ Nissan All-New Serena มาพร้อมกับความหรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน เริ่มจากคอนโซลหน้าขนาดใหญ่สีดำ ที่มาพร้อมกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่บนแดชบอร์ด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์สปอร์ตหรู หน้าปัดเรือนไมล์ขนาดยาวถูกติดตั้งไว้บนคอนโซลหน้า อีกทั้งยังมีระบบเบรกมือไฟฟ้า และปุ่ม Push Start ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
สำหรับ All-New Serena ทาง Nissan เคลมว่า "ห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวางที่สุดในรถระดับเดียวกัน" อีกทั้งประตูท้ายยังสามารถเปิดออกได้โดยอัตโนมัติด้วยระบบ Intelligent Key และ Nissan ยังยืนยันด้วยว่าเบาะที่นั่งแถว 3 ให้ความสะดวกสบายไม่ต่างจากเบาะคู่หน้า ซึ่งจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าทุกการเดินทาง
สำหรับขุมพลังของ Nissan All-New Serena ยังคงเป็นระบบ S-Hybrid ในเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Direct Injection ขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DD ที่ให้พละกำลัง 147 แรงม้า และแรงบิด 210 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 1.8 กิโลวัตต์ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT โดยมีฟังก์ชั่นเพิ่มแรงบิดอีก 50 นิวตัน-เมตร ภายในเวลา 1 วินาที
นอกจากนั้น Nissan All-New Serena ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน, ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร, กล้องมองรอบคัน, กระจกมองหลังอัจฉริยะซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และยังมีระบบช่วยเหลือเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นอย่างระบบช่วยจอด Intelligent Park Assist และ ProPILOT ซึ่งระบบหลังสุดนั้น เป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติครั้งแรกของ Nissan ที่สามารถช่วยควบคุมคันเร่ง เบรก และพวงมาลัยได้อัตโนมัติบนถนนทั้งทางโล่งและการจราจรคับคั่ง
สำหรับ Nissan All-New Serena จะเริ่มจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม โดยด้านราคาคาดว่าจะเริ่มต้นต่ำกว่า 3 ล้านเยน ซึ่งก่อนหน้านี้ Nissan มียอดขาย Serena ไปแล้วกว่า 1.5 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991
