เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หรือ GM มียอดจำหน่ายรถรวมทั่วโลก 2.36 ล้านคัน ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2559 บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญกับตลาดหลัก นำโดยเซกเมนท์ที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงอย่างรถ SUV และรถหรูในจีน รวมถึงการขายปลีกในสหรัฐอเมริกา
“ยอดขายรถของ GM ระดับโลกที่มีคุณภาพในกลุ่มผลิตภัณฑ์และตลาดหลักในไตรมาสแรกสอดคล้องกับความพยายามของเราที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีผลกำไรและยั่งยืน” แดน อัมมานน์ ประธานกรรมการ GM กล่าว “เราสามารถเพิ่มยอดขายรถเอสยูวีและคาดิลแลคที่มีการเติบโตในตลาดรถหรูอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา การดำเนินงานอย่างมีวินัยเพื่อเพิ่มยอดขายปลีก และลดการเช่ารถฟลีตทำให้เรามีผลกำไรมากขึ้น”
ยอดขายของ GM ในไตรมาสแรกลดลง 2.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ที่ท้าทายในบางตลาดของอเมริกาใต้และเอเชีย รวมถึงการชะลอตัวของตลาดรถยนต์พาณิชย์ขนาดเล็กในจีน
ในตลาดจีน GM และบริษัทร่วมทุนมียอดขายอยู่ที่ 964,000 คันในไตรมาสแรกซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายรถ SUV ของ GM ในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 148 เปอร์เซ็นต์ นำโดยรถที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องอย่างบูอิค เอ็นวิชั่น และเป่าจุน 560 ขณะที่ยอดขายรถคาดิลแลคในจีนขยายตัว 6.1 เปอร์เซ็นต์
ยอดขายในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 800,000 คัน ส่วนในสหรัฐอเมริกา GM ยังคงมีส่วนแบ่งการขายปลีกที่เติบโตรวดเร็วกว่าค่ายรถรายอื่น โดยยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์หรือ 537,000 คัน
ในยุโรป ยอดขายรถ OPEL และแบรนด์ในเครืออย่างวอกซ์ฮอลล์มีการเติบโต 8.4 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่กว่า 300,000 คันในไตรมาสที่หนึ่ง ซึ่งมากกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมในภาพรวมซึ่งอยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โอเปิล แอสตร้าซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของยุโรปประจำปี 2016 มียอดสั่งซื้อมากกว่า 150,000 คัน