Toyota เผยโฉม Prius Prime ยนตกรรม Plug-in Hybrid รุ่นล่าสุดในงาน New York Auto Show 2016
หลังจากที่ทาง Toyota ได้ปล่อยภาพทีเซอร์ไฟท้ายของ Toyota Prius โฉมใหม่ เรียกเสียงฮือฮาแก่ทุกสายตาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุด Toyota ได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของ Prius Prime ยนตกรรม Plug-in Hybrid รุ่นล่าสุด ภายในงาน New York Auto Show 2016
สำหรับรูปโฉมภายนอกของ Toyota Prius Prime นั้น ถูกออกแบบให้มีความหรูหราระดับพรีเมี่ยมที่แฝงไปด้วยความโฉบเฉี่ยวอย่างลงตัว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรถพลังงานไฮโดรเจนของทางค่ายอย่าง Mirai ซึ่งมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงจากในรุ่น Prius เดิมอย่างเห็นได้ชัด จากชุดกันชนหน้าแบบใหม่ที่ประดับด้วยไฟตัดหมอกแนวตั้งแบบ LED กระจังหน้าแบบใหม่เข้าชุดเป็นชิ้นเดียวกับกันชนหน้า และโดดเด่นสะกดทุกสายตาด้วยไฟหน้าใหม่แบบ LED ที่ทาง Toyota ให้นิยามว่า "สว่างไสวดุจเพชรเม็ดงาม" และส่วนด้านท้ายก็ได้รับการอัพเกรดความหรูหราใหม่เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะไฟท้าย LED แบบใหม่ ที่ออกแบบเป็นแนวยาวเชื่อมต่อกันจรด 2 ฝั่ง ให้ความหรูหราและโฉบเฉี่ยวอย่างงดงาม
ส่วนภายในของ Toyota Prius Prime ถูกออกแบบให้มีความหรูหราผสมผสานกับความสะดวกสบายในการใช้งาน รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ภายในห้องโดยสารมาในสี่ดำ และถูกตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ มาตรวัดแบบดิจิตอล TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ที่บริเวณคอนโซลกลาง แผงคอนโซลหน้าแบบใหม่ขนาดใหญ่เป็นที่ประทับของหน้าจอมัลติมีเดียแบบทัชสกรีนขนาด 11.6 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบนำทาง Navigation รูปแบบการแสดงผล Head-Up และมาพร้อมชุดเครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยมของ JBL สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน และสามารถสั่งการผ่านระบบเสียง Siri ของแอพพลิเคชั่นบน iPhone
เมื่อเทียบกับ Prius รุ่นก่อนหน้า Prius Prime มีขนาดตัวถังที่ยาวกว่า และมีความสูงจากพื้นน้อยกว่า นั่นก็เป็นเพราะผลพวงจากการออกแบบในการลดแรงลมปะทะตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) ในขณะที่ระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ากลับเพิ่มขึ้นเป็น 35 กม. หรือมากกว่า Prius รุ่นก่อนหน้าเป็นเท่าตัว โดยสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 135 กม./ชม. ในโหมดพลังงานไฟฟ้า ไม่เพียงเท่านั้น หากขับขี่ด้วยระบบไฮบริด Prius Prime จะมีความประหยัดถึง 120+ MPGe ซึ่งดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 26% หากเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ 8.8 กิโลวัตต์ Prius Prime จะสามารถโลดแล่นไปได้ไกลถึง 965 กม. และเมื่อแบตเตอรี่หมดกำลังไฟ การชาร์จไฟสามารถทำได้ภายในเวลา 4-5 ชั่วโมง จากปลั๊กไฟบ้านทั่วไป หรือราว 2-3 ชั่วโมง ถ้าใช้ไฟ 240V
โดยแผนการวางจำหน่าย Toyota เปิดเผยว่าจะเริ่มมีการจำหน่ายจริงภายในสิ้นปีนี้ ส่วนราคาคงต้องรอติดตามกันอีกสักระยะ
