BoxzaRacing Special Program

BoxzaRacing Special Program

Toyota Diving Experience Park อยากรู้รถโตโยต้า...เจ๋งแค่ไหน ไปลองได้ที่นี่

 

Toyota Driving Experience Park  

 

          หลายๆคนในปัจจุบัน เมื่อต้องการจะซื้อหรือเลือกรถยนต์สักคันหนึ่ง ก็ย่อมจะอยากรู้ประสิทธิภาพและสมรรถนะของของรถยนต์รุ่นดังกล่าวให้มากที่สุด เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้น ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว ถ้าเราไปขอ Test Drive ที่ศูนย์บริการ ก็มักจะได้ขับขี่แค่ในช่วงสั้นๆ หรือแค่เฉพาะเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารเพียงเท่านั้น ทำให้เราไม่สามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของตัวรถได้ ซึ่งทางค่ายรถแบรนด์ชั้นนำอย่าง Toyota ก็เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงได้วางโครงการสร้าง Toyota Driving Experience Park เพื่อเป็นสถานที่ทดสอบรถโตโยต้าในทุกๆรุ่น ให้สามารถรีดสมรรถนะของตัวรถออกมาได้ถึงขีดสุด และยังเป็นการการันตีคุณภาพของรถโตโยต้าได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย ซึ่งในวันนี้ทาง BoxzaRacing.com ก็ได้มีโอกาสไปใช้บริการทาง Toyota Driving Experience Park เพื่อทดสอบขับรถ Toyota Hilux REVO ในด้านสมรรถนะต่างๆของตัวรถ ซึ่งสนามทดสอบแห่งนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีการด่านทดสอบในรูปแบบไหนบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

 

"Driving is Believing" แนวคิดของสนาม Toyota Driving Experience Park แห่งนี้  

 

          แต่ก่อนที่ BoxzaRacing จะพาทุกท่านไปชมสนามทดสอบและการทดสอบรถ Toyota Hilux REVO เรามาทราบถึงจุดประสงค์และรายละเอียดของการสร้าง Toyota Driving Experience Park กันก่อนดีกว่าครับ โดยสนามทดสอบแห่งนี้ ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิด "Driving is Believing" เพื่อให้เป็นศูนย์ขับทดสอบรถยนต์โตโยต้าครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น ทั้งในรูปแบบ On Road และ Off-Road อย่างเต็มรูปแบบ โดยสนามแห่งนี้ได้ถูกออกแบบจาก บริษัท IngenAIX GMBH ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบสนามแข่งขันรถยนต์ และสนามทดสอบรถยนต์ระดับโลกชื่อดังบริษัทนึงเลยหล่ะครับ 

 

พื้นที่ต้อนรับและลงทะเบียนของ Toyota Driving Experience Park    

 

ห้องรับรองต่างๆ ที่ค่อนข้างกว้างขวางและสะดวกสบายมากเลยทีเดียว  

 

          โดยสนาม Toyota Driving Experience Park เป็นสนามทดสอบมาตรฐานสากลที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ณ ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 3 ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วทุกท่านก็จะได้พบกับในส่วนของประชาสัมพันธ์ที่จะคอยต้อนรับและให้ข้อมูลในด้านต่างๆ และในตึกแห่งนี้เอง ก็จะประกอบไปด้วยห้องรับรองต่างๆ ห้องอบรมภาคทฤษฎีที่จะมีผู้เชียวชาญมาให้ความรู้ให้เรื่องของการขับขี่ปลอดภัยและอธิบายถึงพื้นที่ในสนามทดสอบในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงพื้นที่จัดแสดงของตกแต่งจากทาง TRD ถัดมาด้านหลังของตึกนี้ ก็จะเป็นสนามขับทดสอบรถยนต์ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ ก็คือ สนามในแบบ On Road และ Off Road โดยรายละเอียดของสนามทดสอบในแต่ละสนามนั้นมีดังนี้

 

สนามทดสอบในรูปแบบ On Road แบ่งออกเป็น 6 สถานี ได้แก่

 

 

  • Multi Purpose Area พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำความคุ้นเคยระหว่างผู้ทดสอบกับรถยนต์ รวมไปถึงเพื่อทดสอบการทรงตัวของรถในสถานะการณ์ต่างๆ 

 

 

  • Dynamic Course พื้นที่สำหรับทดสอบอัตราเร่งของตัวรถบนสภาพถนนที่แตกต่าง พร้อมทดสอบระบบเบรค ABS ระบบเสริมแรงเบรค BA ระบบควบคุมการทรงตัว บนสภาพพื้นผิวถนนธรรมดา และพื้นผิวถนนเปียกลื่น

 

 

  • Acceleration Area พื้นที่ทดสอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์จาก 0-100 กม./ชม. รวมไปถึงการทดสอบระบบเกียร์และการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเครื่องยนต์ต่างๆ

 

 

  • Circular Track พื้นที่ถนนวงเวียนเพื่อใช้ทดสอบความสามารถของรถยนต์ในการเข้าโค้ง และดูอาการของรถยนต์ในสภาวะถนนที่แตกต่างกันทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง

 

 

  • Road Condition Area พื้นที่จำลงสภาพพื้นผิวถนน 8 สภาวะ เช่น หลุม บ่อ ลูกคลื่น รวมไปถึงสะพาน เพื่อใช้ทดสอบการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร การสั่นสะเทือน การควบคุมรถยนต์ และความนุ่มนวลในการขับขี่

 

 

  • Mini Closed Circuit พื้นที่สนามสามารถปรับใช้เป็น Mini Circuit แบบพื้นที่ปิด โดยมีความยาวถึง 1.4 กม. เพื่อใช้ในการทดสอบการทำงานของรถยนต์ในสภาวะการขับขี่แบบเต็มรูปแบบ

 

สนามทดสอบในรูปแบบ Off Road แบ่งออกเป็น 6 สถานี ได้แก่

 

 

  • Slope Hill เนินภูเขาลาดชัน ใช้สำหรับทดสอบการขึ้น-ลง ทางลาดชัน โดยใช้ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC 

 

 

  • Flooding พื้นที่จำลองบ่อน้ำ สำหรับการทดสอบระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Active เมื่อรถต้องอยู่ในสภาวะน้ำท่วมขังสูง

 

 

  • Dry River Bed เส้นทางจำลองสถานะการณ์พื้นผิวที่มีทั้งหิน กรวด ทราย และเนินลาดชัน ทำให้การขับขี่ไม่สามารถอยู่ในสภาวะปกติ สำหรับทดสอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง

 

 

  • 4x4 Tunnel อุโมงค์แคบเอียง สำหรับทดสอบเครื่องยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และมุมเอียงของรถ

 

 

  • Twist Track พื้นที่การจำลองสภาวะการขับขี่ ในกรณีที่รถยนต์ไม่สามารถใช้กำลังจากล้อทั้ง 4 ได้ เพื่อทดสอบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วต่ำ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Active ATRC ระบบล็อคเฟืองท้ายอัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

 

 

  • Tree Track เส้นทางพื้นผิวขรุขระมาก สำหรับทดสอบการทรงตัวระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบช่วงล่าง และความนุ่มนวลในการขับขี่

 

คุณ ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้ความรู้แก่ผู้ที่จะมาทดสอบสมรรถนะของรถยนต์   

 

           ซึ่งผู้ที่เข้ามาทดสอบรถโตโยต้าใน Toyota Driving Experience Park แห่งนี้นอกจากทุกท่านจะขับทดสอบรถโตโยต้าทุกรุ่นเพื่อทราบสมรถถณะที่แท้จริงของตัวรถแล้ว ท่านยังจะได้ความรู้ในเรื่องของการขับขี่ปลอดภัย และทักษะการขับขี่ขั้นสูงที่จะสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อลดอุบัติเหตุในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย และที่สำคัญทุกอย่างนั้น "ฟรีครับ" ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น 

 

 

          การเดินทางมาขับทดสอบรถยนต์โตโยต้า ณ Toyota Driving Experience Park ของทาง BoxzaRacing ในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ท้าทาย และเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกครั้งนึงเลยทีเดียวครับ ซึ่งถ้าท่านใดที่สนใจจะเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆหรือต้องการจะทดสอบรถโตโยต้าในแบบที่ไม่เคยลองมาก่อนที่สนามทดสอบ Toyota Driving Experience Park แล้วละก็ สามารถมาใช้บริการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.30 น. โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขับทดสอบรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นได้ที่ www.toyotadrivingexperiencepark.com และ Call Center : 02-396-0777 รวมถึงสอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศได้เลยครับ

OTIZ THE OG
เขียนโดย: OTIZ THE OG
เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2559 - 14:54

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวความเคลื่อนไหว

วิดีโอ