MINI Clubman 2016 การเติบโตอีกขั้นของรถแวกอนคอมแพ็ค
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
มินิ ประเทศไทย ได้เผยโฉม All-New Mini Clubman 2016 โฉมใหม่ล่าสุด ให้สื่อมวลชนไทยได้ร่วมสัมผัสเป็นครั้งแรก โดยมินิ คลับแมน โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับฝากระโปรงท้ายแบบฝาพับอันเป็นเอกลักษณ์ และมีขนาดที่ใหญ่กว่าเจเนอเรชั่นเดิมที่ผ่านมา และมีตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์จากตระกูลมินิทุกรุ่น นับเป็นก้าวแรกของมินิในการเข้าสู่เซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพ็คระดับพรีเมี่ยม ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เด่นด้านความรู้สึกการขับขี่ที่สนุกสนาน การแสดงออกถึงสไตล์และนวัตกรรม ที่ทำให้รถยนต์แบรนด์อังกฤษได้รับการยกย่องให้เป็นตำนาน
คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า "ด้วยขนาดที่ยาวและกว้างขึ้น รวมถึงบุคลิกที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนของมินิ คลับแมน โฉมใหม่ เรากำลังสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับคนรักมินิเจเนอเรชั่นใหม่ในประเทศไทย ช่องเก็บสัมภาระที่ขยายความจุมากขึ้น เป็นการยกระดับความอเนกประสงค์และตอบโจทย์ทุกการใช้งานสำหรับครอบครัวรวมไปถึงกลุ่มผู้ใช้งานแนวสปอร์ตที่หลงไหลในการเดินทางและกิจกรรมที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังได้นำฟิเจอร์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถยนต์ตระกูลมินิ เราจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า มินิ คลับแมนโฉมใหม่ จะประสบความสำเร็จในประเทศไทย"
มินิ คลับแมน โฉมใหม่ที่ได้พัฒนาตัวถังใหม่ให้มีขนาดความยาวเพิ่มเขึ้น 27 เซนติเมตร, กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์ 5 ประตู Mini Clubman โฉมใหม่นี้ จึงได้กลายเป็นรถยนต์ที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุด ที่นอกจากจะตีความหมายใหม่ให้กับการเดินทางแบบดั้งเดิมสไตล์อังกฤษสำหรับศตวรรษที่ 21 แต่ยังเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ของแบรนด์มินิในเซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพ็คระดับพรีเมียม ช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากขึ้น 360 ลิตร และสามารถขยายได้มากถึง 1,250 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะหลังแบบ 40:20:40
มาพร้อมกับคุณสมบัติทางด้านแอโร่ไดนามิกส์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยการติดตั้งส่วนประกอบเพิ่มเติมในระบบการระบายอากาศซึ่งถูกนำมาใช้ในรถยนต์มินิครั้งแรก ได้แก่ ช่องระบายอากาศ (Air Curtains) เป็นช่องลมขนาดเล็กในแนวตั้งที่กันชนหน้า ซึ่งช่วยให้กระแสลมสามารถไหลผ่านไปยังซุ้มล้อหน้า ทำงานร่วมกับช่องระบายอากาศ (Air Breathers) ที่ด้านหลังของซุ้มล้อคู่หน้า ช่วยระบายแรงสั่นสะเทือนอันเกิดจากแรงดันอากาศ
ฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างที่ใช้วัสดุโลหะที่สร้างความสะดุดตาและใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม, เสากลางบานกระจกซ้าย-ขวาที่มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้า ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองด้านหลังได้ดียิ่งขึ้น การเปิดฝากระโปรงท้ายสามารถทำได้ด้วยการใช้มือเปิดจากปุ่มที่มือจับฝากระโปรงทั้งสองข้างซึ่งทำจากวัสดุโครเมียม หรือสามารถเปิดได้จาก การใช้เท้าส่องไปยังใต้กันชนท้ายและมีกุญแจรถอยู่กับตัว ระบบจะเปิดประตูโดยอัตโนมัติทันที
นวัตกรรมการจัดไฟระบบพิเศษเฉพาะสำหรับ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน และรุ่น เอส คลับแมน ไฮทริม ด้วย LED Headlamp ประกอบไปด้วย LED Daytime Driving Light, LED rear Light และ Led Fog Light เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
การตกแต่งภายในที่กว้างขวาง นั่งสบาย พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ หน้าจอแสดงผลบนแผงคอนโซลกลางที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิโดยมาพร้อมกับหน้าจอสีขนาด 6.5 นิ้ว (รุ่นมินิคูเปอร์ คลับแมนและดี คลับแมน) กับหน้าจอสีขนาด 8.8 นิ้ว (รุ่นเอส คลับแมนและเอส คลับแมน ไฮทริม) ที่ทำหน้าที่ได้ทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ระบบควบคุมความบันเทิง, ระบบติดต่อสื่อสาร พร้อมเพิ่มลูกเล่นด้วยหลอด LED ล้อมรอบขอบจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สามารถแสดงและเปลี่ยนแสงสีตามสถานะการขับขี่และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ให้คุณรู้สึกถึงความเพลิดเพลินไม่มีเบื่อ
การจัดแสงไฟภายในห้องโดยสาร ที่ใช้ LED สำหรับการสร้างบรรยากาศพร้อมฟิเจอร์พิเศษ Mini Excitement Package ที่สามารถปรับเปลี่ยนแสงไฟ และเปิดการทำงานของหน้าจอรถเมื่อมีการเปิดประตูรถ นอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นฉายไฟลงมาพบพื้นถนนฝั่งคนขับเป็นโลโก้ Mini เมื่อทำการปลดล็อกรถยนต์ และฟีเจอร์ใหม่สำหรับมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ไฮทริม คือการปรับตั้งค่าของเบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าด้วยระบบไฟฟ้า โดยระบบจะจดจำองศาของที่นั่งคนขับและยังเป็นครั้งแรกของรถยนต์มินิ ที่มีการปรับระดับต่างๆ ของเบาะ ไม่ว่าจะเป็นที่รองศีรษะ การปรับที่นั่งตามยาว, การจัดองศาของพนักพิงหลัง ที่สามารถปรับได้ด้วยเพียงแค่กดปุ่มเดียว
MINI Clubman โฉมใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 3 รุ่น ที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยี MINI Twin Power Turbo ที่ประกอบไปด้วย
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบในมินิ คูเปอร์ คลับแมน โฉมใหม่ ให้กำลังขับเคลื่อนที่ 136 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.3 ลิตร/100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 145 กรัม/กิโลเมตร
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบในมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน โฉมใหม่ ให้กำลังขับเคลื่อนที่ 192 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.9 ลิตร/100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 141 กรัม/กิโลเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบในมินิ คูเปอร์ ดี คลับแมน โฉมใหม่ ให้กำลังขับเคลื่อนที่ 150 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 4.9 ลิตร/100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 130 กรัม/กิโลเมตร
ครั้งแรกของมินิกับระบบส่งกำลังใหม่ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ฉับไว และนุ่มนวลไร้รอยต่อ เนื่องด้วยจำนวนเกียร์ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้รอบเครื่องยนต์ในแต่ละเกียร์ใช้กำลังน้อยลง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่างใหม่ล่าสุด ด้วยฟังก์ชั่นไดนามิค แดมเปอร์ คอนโทรล (Dynamic Damper Control) ระบบปรับความนุ่มนวลของโช๊คอัพอัตโนมัติ ที่สามารถปรับแต่งได้โดยการเลือกตั้งค่าที่เหมาสมตามความชอบและสไตล์การขับขี่ โดยสามารถเลือกได้ทั้งการขับขี่แนวรถแข่งแบบสปอร์ตหรือเลือกการขับขี่แบบนุ่มนวล ระบบควบคุมด้วยไฟฟ้าของวาลล์แดมเปอร์ที่มอบการตอบสนองต่อพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบของท้องถนนที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหลากหลาย ที่จะซัพพอร์ทให้การขับขี่รู้สึกราบเรียบตลอดเส้นทางและให้อารมณ์การขับขี่โกคาร์ท (Go Kart) เลยทีเดียว (สำหรับรุ่นมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน และรุ่น เอส คลับแมน ไฮทริม)
เสริมความโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบา 2 แบบ ได้แก่
All-New Mini Clubman มาพร้อมกับ 4 รุ่นย่อยและราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย
*หมายเหตุ: ราคาทั้งหมดนี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
และผู้ที่จับจองเป็นเจ้าของ มินิ คลับแมน โฉมใหม่ทุกรุ่น จะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ โปรแกรมบำรุงรักษาMini Service Inclusive หรือ MSI ที่มีระยะเวลาคุ้มครองการบำรุงรักษาพร้อมทั้งรับประกันภายใต้เงื่อนไขและข้อตกลงเช่นเดียวกัน การรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาคุ้มครอง นานถึง 5 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร