Mazda RX7 กับพาร์ท RE Amemiya ที่ให้อารมณ์เดียวกับรถแข่งในญี่ปุ่น
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวแว่วๆออกมาว่าทาง Mazda เตรียมตัวจะรื้อฟื้นตำนานเครื่องยนต์อย่าง โรตารี่ ขึ้นมาพัฒนาใหม่ เนื่องจากยังคงมีแฟนๆนั้นยังหลงใหลในเครื่องยนต์โรตารี่อยู่ไม่น้อย ซึ่งเครื่องยนต์ตัวใหม่จะพัฒนาออกมาอย่างไรนั้น ก็คงต้องรอดูกันต่อไปนะครับ แต่สำหรับในวันนี้ Racing Magazine ของเรา ก็จะมีรถ Mazda RX-7 ของคุณลสิต ปานนาค หรือคุณกอล์ฟ PNK_Import ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์โรตารี่อันเป็นตำนานอันโด่งดัง ส่วนรายละเอียดการตกแต่งของ RX7 คันนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆกันเลยครับ
เริ่มกันที่ภายนอกกันก่อนเลยครับ ภายนอกนั้นเพื่อความหล่อและโหดแน่นอนครับก็ต้องเป็นชุดแต่งในสไตล์ของ RE Amemiya ที่เรียกได้ว่าแบบจะเป็นชุดแต่งเดิมสำหรับ RX7 ในบ้านเราไปซะแล้ว โดยในส่วนของกันชนหน้าก็เป็นกันชนหน้า RE Amimeya ในตัวก่อน Minor Change ที่มาพร้อมกับสเกิร์ตหน้า RE Amemiya แบบ Carbon Kevlar ด้านฝากระโปรงก็เป็นฝากระโปรง RE Amemiya แบบไฟเบอร์พร้อมช่องระบายอากาศ เพื่อไม่ให้ความร้อนในห้องเครื่องนั้นสูงจนเกินไป ด้านข้างก็เป็นตัวสกิร์ตข้างจาก สำนัก RE Amemiya แบบเคฟล่าอีกเช่นเดียวกัน ที่ช่วยรีดอากาศด้านข้างตัวรถให้ไหลออกได้ง่านขึ้น ด้านท้ายก็ยังคงใช้กันชนจากสำนัก RE Amemiya พร้อมด้วยดิฟฟิวเซอร์ที่ช่วยให้อากาศใต้ท้องรถนั้นไหลออกอย่างเป็นระเบียบ ในส่วนของสปอยเลอร์หลังก็เป็นของจากสำนัก RE Amemiya ที่ช่วยเพิ่มแรงกดในด้านท้ายรถได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้มีการเปลี่ยนไฟหน้าและครอบไฟท้ายเป็นของสำนัก RE Amemiya ที่ถือว่าเป็นของหายากอีกชิ้นนึงเลยทีเดียว
เปิดเข้ามาดูภายในกันบ้าง ภายในของ 7 คันนี้ก็ตกแต่งตามสไตล์ Racing เริ่มด้วยการเปลี่ยนเบาะคู่หน้าเป็นเบาะ Bride Stradia สีแดง ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเบาะแบบ Semi Bucket Seat แต่ก็ยังให้การนั่งที่กระชับพอสมควรเลยทีเดียว ด้านพวงมาลัยก็ได้ทำการเปลี่ยนไปใส่พวงมาลัยของสำนัก RE Amemiya ที่มาคู่กับหัวเกียร์จากสำนัก RE Amemiya อีกเช่นเดียวกัน ด้านบนคอนโซล ก็ถูกเรียงรายไปด้วยเกจ์วัดจากสำนัก Defi ที่ใส่มาถึง 6 ตัว ด้วยกันเพื่อเอาไว้ใช้ดูค่าการทำงานต่างๆของเครื่องยนต์ ในส่วนของกระจกมองหลังก็ได้ทำการเปลี่ยนเป็นกระจกแต่งของ Zoom Engineering ที่ช่วยขยายมุมมองของกระจกให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยการเพิ่มความปลอดภัยและความแข็งแรงของตัวถังด้วยโรบาร์แบบ 4 จุดในครึ่งหลัง ที่เพิ่มอารมณ์ความโหดสไตล์รถแข่งได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
มาถึงหัวใจหลักของรถ Mazda RX7 คันนี้กันบ้าง โดยเครื่องยนต์ถ้าเป็น RX7 ก็ต้องเป็นเครื่องยนต์โรตารีในรหัส 13B-REW ซึ่งถ้าจะให้ขับเดิมๆก็ดูจะไม่เร้าใจกันซักเท่าไรนัก ทางคุณกอล์ฟ PNK_Import จึงได้ทำการโมดิฟายเครื่องยนต์ใหม่ เริ่มจากการทำ Port ใหม่ เป็นแบบ Street Port ที่จะช่วยให้ไอดีและไอเสียนั้นไหลได้สะดวกและดีมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ O-Ring และ Apex Seal ก็ถูกนำมาโมดิฟายใหม่จากสำนักโรตารี่ชื่อดังอย่าง Jica Tuning ในส่วนของของเทอร์โบก็ได้หันไปคบชุด Turbo Kit ของ Knight Sports ที่ถึงแม้จะไม่แรงจี้ดจ้าดในแบบที่ดึงหน้าหงาย แต่ก็ให้อารมณ์ที่มาเรื่อยๆแบบไม่ขาดตอนกันเลยทีเดียว ท่อไอดีนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนใหม่โดยได้หันไปใช้ท่อไอดีของ GReddy พร้อมกับคายไอดีส่วนเกินทิ้งด้วย Blow Off Valve Greddy Type FV ที่ให้เสียงที่ไพเราะในยามที่ถอนคันเร่ง ระบบน้ำมันก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดยเจ้า RX7 คันนี้ได้เปลี่ยนเรกูเลเตอร์เป็นของสำนัก Sard พร้อมส่งน้ำมันฉีดเข้าเครื่องยนต์ด้วยหัวฉีดในขนาด 850 cc. โดยทั้งหมดนั้นถูกควบคุมด้วยกล่อง ECU อย่าง Power FC ที่เป็นฝีมือการจูนโดย ตู่ โคราช จากนั้นระบายไอเสียด้วยท่อไอเสียที่เป็นงาน Custom จากร้าน ชาญ อินเตอร์ ก่อนจะส่งกำลังที่ได้ผ่านไปยังคลัทช์ ORC แบบ Twin Plate พร้อม LSD จาก Cusco
สุดท้ายกับระบบช่วงล่างของรถคันนี้ ซึ่งในส่วนของโช๊คอัพ ก็ได้ทำการเปลี่ยนใหม่เป็นโช๊คอัพเป็นของ Tein Mono Flex รุ่นยอดนิยม สำหรับล้อแม็กซ์ที่ใส่เข้าไป ก็เป็นล้อ Enkei RPF1 ขอบ 17 นิ้ว ในขนาดกว้างหน้า 9.5 +18 นิ้ว หลังกว้าง 10 +18 นิ้ว ส่วนยางที่ใช้ก็เป็นยาง Yokohama AD08 ขนาด 225/45R17 ที่มาพร้อมกับยาง Soft Yokohana A050 ขนาด 255/40R17 ในล้อหลัง ระบบเบรคนั้นก็ยังคงเป็นเบรคเดิมๆจากโรงงานอยู่ เพราะเพียงเบรคเดิมๆจากโรงงานก็สามารถหยุดเจ้ารถคันนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาแล้วครับ
ซึ่งความพิเศษของ Mazda RX7 คันนี้จะอยู่ที่กันชนหน้าที่เป็นตัวที่ค่อนข้างหายากรวมไปถึงไฟหน้าคู่หน้าแบบมีรู แบบรถแข่งในสนามของประเทศญี่ปุ่น ที่มีน้อยในบ้านเรา โดยความตั้งใจของคุณลสิต ปานนาค นั้นต้องการจะทำเจ้า RX7 คันนี้ ให้ได้อารมณ์เหมือนกับรถแข่งในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง และสำหรับในครั้งหน้า BoxzaRacing จะมีรถแต่ง รถสวย รถแข่ง รถแรง คันไหนมาให้ชมกันอีก ก็ต้องติดตามชมกันนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน สวัสดีครับ
Tech Spec
ภายนอก
ภายใน
เครื่องยนต์
ช่วงล่าง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook